ธนาคารกับปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข......ไม่ใช่แค่ปล่อยผ่าน

เมื่อวานได้เข้าไปกด ATM ของธนาคารแห่งหนึ่ง
พอช่วงที่เงินจะออก เครื่องขึ้นว่า ระบบขัดข้อง
ปรากฎว่าบัตรเด้งไม่ออกอยู่สามรอบ แล้วเครื่องก็ดูดบัตรเข้าไป

เลยโทรเข้า call center
พนักงานบอกว่า ให้อายัดบัตร แล้วทำบัตรใหม่
โดยต้องเสียค่าธรรมเนียม
ก็ถามไปว่าแล้วแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของผู้ใช้บริการ
จะต้องเสียเงินทำบัตรใหม่หรือ
พนักงานตอบคำเดียว
ให้ติดต่อสาขาที่ดูแล

ตอนเช้าโทรไปหาธนาคาร
เป็นคุณป้าเสียงเนือยๆ บอกว่า
หนูก็เอาสมุดบัญชีมาเปิดบัตรใหม่
"ห้าสิบบาท ร้อยนึง บัตรธรรมดาไม่ใช่เหรอ"
"ถ้าหนูไม่อยากทำบัตรใหม่ ก็รอหนึ่งอาทิตย์ บริษัทจะมาเปิดตู้แล้วเอาบัตรคืนให้"

...รับไม่ได้ ดอกที่หนึ่ง บ่ายนี้ลางาน ขับรถ 17 กิโลข้ามอำเภอไปหาสาขาที่ดูแลตู้

แจ้งพนักงานว่า ต้องการทำบัตรใหม่ เนื่องจากตู้ขัดข้อง ดูดบัตรเข้าไป
พนักงานบอกว่า ค่าธรรมเนียม 50 บาท
นุท : "คิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นความรับผิดชอบของธนาคารไหมคะ"
พนง : "อันนี้เป็นนโยบายของธนาคารค่ะ ยกเว้นว่าบัตรเสียหายหรือชำรุดเอง"
นุท : "แต่นี่มันเสียที่เครื่องนะคะ ผู้ใช้บริการผิดตรงไหน??"

สักพักพนักงานที่เหมือนจะเป็นหัวหน้า เดินเข้ามา บอกว่า
หัวหน้า : "ทางเราทำไม่ได้ครับ เพราะไม่มีหลักฐาน"

นุท : "จะเอาหลักฐานก็ไปเปิดตู้ค่ะ บัตรก็อยู่ในนั้น หรือจะดูรูปก็ได้ (ส่งรูปให้ดู).....นี่ถ้าเมื่อวานไม่เอากระดาษไปแปะไว้ ก็จะมีคนโดนแบบนี้อีกไม่รู้กี่คน แล้วทุกคนก็ต้องมาเสียเงิน 50 บาท งั้นเหรอคะ ลองคิดดูเป็นคุณเอาบัตรเอทีเอ็มตั้งใจไปกดเงินของตัวเองออกมาใช้ ค่าธรรมเนียมรายปีบัตรก็เสีย สุดท้ายตู้กินบัตรไปซะงั้น เป็นคุณๆอยากจ่าย 50 บาทนี้ไหม?"

หัวหน้า : "งั้นถ้าไม่อยากเสียเงินก็ต้องรอครับ เพราะต้องให้บริษัทจากต่างจังหวัดมาเปิดตู้ให้อีกที"
นุท : "อย่างงี้ทางธนาคารรับผิดชอบอะไรบ้างคะ เสียเวลาเดินทาง เสียค่าน้ำมันมา สุดท้ายความรับผิดชอบ ตกอยู่ที่ผู้ใช้บริการหมดเลยงั้นเหรอคะ...ก่อนมานี่ก็หาข้อมูลใน internet ก็มีคนร้องเรียนมากมาย คุณท้ายพวกคุณทำได้แค่โพสขอโทษ? หรือว่ามันเป็นนโยบายเก็บเล็กผสมน้อยของธนาคารคะ"
หัวหน้า : (ทำหน้าแบบอยากให้เรื่องจบๆ) "ถ้างั้นผมออกค่าใช้จ่าย 50 บาท นี้ให้ก็ได้ครับ"

...เท่านั้นละ ปรี๊ดดดดดดิคะ ปรี๊ดมากกกกก

นุท : "ขอโทษนะคะ เงิน 50 บาทเนี่ย จะให้จ่ายกี่บาทก็คงไม่มีปัญหา แล้วจะให้เอาเงินจากพนักงานแบบคุณ ก็คงไม่ใช่ส่วนที่คุณต้องมารับผิดชอบ (ถ้ามีอย่างงี้อีกสักสิบคนร้อยคน มันใช่วิธีแก้ปัญหาไหม แก้ปลายเหตุชัดๆ)"
หัวหน้า : ร่ายยาวต่อว่า ธนาคารต้องจ้างคนมาเปิดตู้จากอีกจังหวัด...มันขัดข้องที่ระบบไฟในจังหวัดน่าน...มีอีกตู้เป็นบ่อยกว่านี้อีกครับ (อ๋อเหรอครับบบบบ แล้วไม่รู้จักหาทางแก้ซักทีล่ะครับบบบบบบบ...แล้วไอ้บัตรใหม่ที่ได้ไปก้มีสิทธิ์จะโดนกินอีกล่ะสินะ)

เลยตัดปัญหา ยอมจ่ายก็ได้ 50 บาท ให้ไปเอากับพนักงานก็ดูจะรังแกกันเกินไป
...แต่ขอเขียนเรื่องร้องเรียนถึงทางธนาคารด้วยค่ะ
หัวหน้า : "เรื่องนี้ลูกค้าติดต่อเองโดยตรงดีกว่าครับ (ยังจะปัดความรับผิดชอบอีกโว้ยยย) เพราะผมคงต้องส่งเรื่องไปตามขั้นตอน"
นุท : "คุณก็อยู่บริษัทนี้อยู่แล้วนี่คะ คุณส่งมันต้องง่ายกว่าอยู่แล้ว ไม่ได้กลัวว่าจะช้าหรอกค่ะ เพราะเย็นนี้ก็จะโพส facebook อยู่แล้ว...จะให้เรียนส่งถึงใครคะ"

สุดท้ายก็จ่าหน้าไปถึง ธนาคารสำนักงานใหญ่ ไม่ได้ปิดผนึกซอง หัวหน้าก็มาขอตรวจสอบ
...ตามสบายค่ะ ไม่ได้ใส่ร้ายอะไรนอกจากความจริงอยู่แล้ว
แล้วก็ได้บัตรใหม่มา
ยังโอเคที่ ออกบัตรใหม่โดยเวฟค่าธรรมเนียมให้ (ทำก็ทำได้นี่หว่า เห้อ)

ต่อจากนี้มันอยู่ที่ว่า คุณจะรับผิดชอบส่งจดหมายฉบับนั้นไปให้สำนักงานใหญ่รึเปล่า
แล้วจะมีการติดต่ออะไรกลับมาบ้าง
นอกจากคำขอโทษ
แล้วใช้ "นโยบาย" เดิมๆ เอาเปรียบผู้บริโภค
(จริงๆตั้งแต่เดินเข้าไปจนออกมาก็ยังไม่ได้ยินสักคำเลยนะ)

ขอเถอะความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือใหญ่โต
....ร้านกาแฟแถวที่ทำงาน ทำกาแฟผิด เราขอใส่ขวดแยกน้ำแข็ง เค้าทำผิดใส่แก้วมา เราบอกไม่เป็นไร กินได้....เค้าขอโทษขอโพย ทำแก้วใหม่ให้

หรือจะให้รับความจริงที่ว่า ธนาคารใหญ่โตมีคนฝากเงินเป็นแสนเป็นล้าน
ความรับผิดชอบน้อยกว่าร้านขายกาแฟแก้วละ 40 บาทคะ