วันนี้ไปซื้อของที่ห้าง เลยแวะเข้าร้านขายเครื่องสำอางสีเขียวสาขาในห้าง เราซื้อ Bioderma กับมาร์คหน้าสามสี่ชิ้น
รวมเป็นเงิน 1985 บาท เราก็จ่ายเงิน ดูใบเสร็จคร่าวๆ แค่ว่าทอนเงินครบไหม แล้วเดินออกจากร้าน
แต่แฟนไปเข้าห้องน้ำยังไม่มา เลยหยิบใบเสร็จขึ้นมาดูอีกที รู้สึกว่าของที่ซื้อราคาไม่น่าจะเท่ากับที่จ่ายไป ลองกดเครื่องคิดเลขในโทรศัพท์ทวนดูหลายครั้ง ราคาของก็แต่พันนิดๆเท่านั้น จึงรีบวิ่งเข้าไปในร้าน ในใจก็กลัวว่าเขาจะจำเราได้ไหม จะจำได้ไหมว่าเราซื้อของกี่ชิ้น - -"
โชคดีที่แคชเชียร์คนที่คิดเงินให้เราว่างอยู่พอดี จึงบอกเขาไปว่าคิดเงินผิดค่ะ แล้วยื่นใบเสร็จพร้อมกับของที่ซื้อให้ เขาก็เอาใบเสร็จไปดู แคชเชียร์ดูใบเสร็จกับของแล้วบอกให้เรารอสักครู่ จนผ่านไปหลายนาที แคชเชียร์ก็มาพร้อมกับพนักงานอีกคน ให้เราเซ็นชื่อกับเบอร์โทรหลังใบเสร็จ พร้อมทั้งคืนให้ให้เรา 850 บาท (เพราะราคาของทั้งหมดจริงๆมันแค่ 1135 บาท) แต่ไม่คืนใบเสร็จให้ พนักงานอีกคนบอกว่าต้องเก็บใบเสร็จไว้ เพราะมีการ...อะไรสักอย่าง เราฟังไม่ทัน ก็โอเคได้เงินคืน
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เราคงเสียเงินฟรี เพราะไม่ค่อยตรวจดูใบเสร็จ จะดูอีกทีก็ตอนกลับบ้านทำบัญชีประจำวัน เคยโดนซุปเปอร์มาร์เก็ตสีเหลืองคิดราคาสินค้าเกินมา แต่ก็ไม่ได้กลับไปทวงเพราะมันแค่ 39 บาท ไม่คุ้มที่จะกลับไป แต่กรณีนี้มันเกินมาตั้ง 850 บาท ถือว่าเยอะมาก เหมือนจะยิงบาร์โค้ด Bioderma สองครั้ง ถ้าวันนี้เราไม่ตรวจดูใบเสร็จทันที หรือกลับบ้านมาค่อยดูอีกที ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า เพราะถ้าปล่อยไว้นานกว่านั้น เราก็ไม่มีอะไรไปยืนยันได้ว่าเราซื้อของเขามากี่ชิ้น อาจจะเสียเงินไปเปล่าๆก็ได้
จึงอยากจะเตือนทุกๆคนนะคะ เวลาซื้อของหรือทานอาหารเสร็จ ตวรจดูใบเสร็จให้ดีก่อนออกจากร้าน เสียเวลาดูให้ละเอียดอีกนิด จะได้ไม่เสียเงินฟรีๆ เผื่อแคชเชียร์ผิดพลาดค่ะ เงินทองสมัยนี้หายาก ต้องละเอียดรอบคอบเรื่องเงินให้มากๆเนอะ
**แท็กห้องชานเรือนเพราะมีคุณแม่บ้านที่ซื้อของกินของใช้ประจำ
**แท็กห้องแป้งเพราะสาวๆก็ซื้อเครื่องสำอางค์กันประจำ
เตือน!! เวลาซื้อของกรุณาตรวจดูใบเสร็จก่อนออกจากร้านทุกครั้ง
รวมเป็นเงิน 1985 บาท เราก็จ่ายเงิน ดูใบเสร็จคร่าวๆ แค่ว่าทอนเงินครบไหม แล้วเดินออกจากร้าน
แต่แฟนไปเข้าห้องน้ำยังไม่มา เลยหยิบใบเสร็จขึ้นมาดูอีกที รู้สึกว่าของที่ซื้อราคาไม่น่าจะเท่ากับที่จ่ายไป ลองกดเครื่องคิดเลขในโทรศัพท์ทวนดูหลายครั้ง ราคาของก็แต่พันนิดๆเท่านั้น จึงรีบวิ่งเข้าไปในร้าน ในใจก็กลัวว่าเขาจะจำเราได้ไหม จะจำได้ไหมว่าเราซื้อของกี่ชิ้น - -"
โชคดีที่แคชเชียร์คนที่คิดเงินให้เราว่างอยู่พอดี จึงบอกเขาไปว่าคิดเงินผิดค่ะ แล้วยื่นใบเสร็จพร้อมกับของที่ซื้อให้ เขาก็เอาใบเสร็จไปดู แคชเชียร์ดูใบเสร็จกับของแล้วบอกให้เรารอสักครู่ จนผ่านไปหลายนาที แคชเชียร์ก็มาพร้อมกับพนักงานอีกคน ให้เราเซ็นชื่อกับเบอร์โทรหลังใบเสร็จ พร้อมทั้งคืนให้ให้เรา 850 บาท (เพราะราคาของทั้งหมดจริงๆมันแค่ 1135 บาท) แต่ไม่คืนใบเสร็จให้ พนักงานอีกคนบอกว่าต้องเก็บใบเสร็จไว้ เพราะมีการ...อะไรสักอย่าง เราฟังไม่ทัน ก็โอเคได้เงินคืน
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เราคงเสียเงินฟรี เพราะไม่ค่อยตรวจดูใบเสร็จ จะดูอีกทีก็ตอนกลับบ้านทำบัญชีประจำวัน เคยโดนซุปเปอร์มาร์เก็ตสีเหลืองคิดราคาสินค้าเกินมา แต่ก็ไม่ได้กลับไปทวงเพราะมันแค่ 39 บาท ไม่คุ้มที่จะกลับไป แต่กรณีนี้มันเกินมาตั้ง 850 บาท ถือว่าเยอะมาก เหมือนจะยิงบาร์โค้ด Bioderma สองครั้ง ถ้าวันนี้เราไม่ตรวจดูใบเสร็จทันที หรือกลับบ้านมาค่อยดูอีกที ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า เพราะถ้าปล่อยไว้นานกว่านั้น เราก็ไม่มีอะไรไปยืนยันได้ว่าเราซื้อของเขามากี่ชิ้น อาจจะเสียเงินไปเปล่าๆก็ได้
จึงอยากจะเตือนทุกๆคนนะคะ เวลาซื้อของหรือทานอาหารเสร็จ ตวรจดูใบเสร็จให้ดีก่อนออกจากร้าน เสียเวลาดูให้ละเอียดอีกนิด จะได้ไม่เสียเงินฟรีๆ เผื่อแคชเชียร์ผิดพลาดค่ะ เงินทองสมัยนี้หายาก ต้องละเอียดรอบคอบเรื่องเงินให้มากๆเนอะ
**แท็กห้องชานเรือนเพราะมีคุณแม่บ้านที่ซื้อของกินของใช้ประจำ
**แท็กห้องแป้งเพราะสาวๆก็ซื้อเครื่องสำอางค์กันประจำ