การกระทำที่เรียกว่าปฏิบัติธรรม
----------
มหาวิทยาลัยที่สั่งสอนเรื่องความสุขอันสูงสุดแท้จริงโดยเฉพาะ
มีอยู่ในโลกนี้แต่แห่งเดียว คือพระพุทธศาสนา
หลักวิทยาศาสตร์ที่มุ่งค้นคว้าเฉพาะศิลปะแห่งยอดสุขในโลกนี้มีแต่หลักเดียว คือหลักพุทธศาสนา
นักวิทยาศาสตร์ที่สูงสุด ก็คือพุทธศาสนิก ที่ทำการทดลองด้วยเครื่องมือ
กล่าวคือ ดวงจิตที่อบรมแล้วด้วยภาวนา
อยู่ในห้องทดลอง กล่าวคือร่างกายนี้ ทั้งกลางวันและกลางคืน
ในสถานที่สงัดจากสิ่งรบกวน ทั้งทางกายและทางใจ
. . .
ในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ของโลกปัจจุบัน อาจมีการทดลองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดฉันใด ในร่างกายนี้
ก็มีสิ่งให้ค้นคว้าไม่มีที่สิ้นสุดฉันนั้น
แต่พระพุทธองค์ทรงสอนให้ค้นเพียงสี่อย่าง คือ ทุกข์ เหตุของทุกข์ สุข และเหตุของสุข เท่านั้นเอง
เครื่องมือในการค้น มีเพียงอย่างเดียว คือมรรคหรือมัชฌิมาปฏิปทา อันประกอบด้วยองค์แปด พบแล้วก็จะทำที่สุดทุกข์ หรือความพ้นทุกข์ได้
จงค้นให้พบความสงบกาย สงบจิตต์ และสงบกิเลส
ก า ร ค้ น นี้ เ รี ย ก ว่ า ก ร ร ม ฐ า น ห รื อ ก า รป ฏิ บั ติ ธ ร ร ม
-พุทธทาสภิกขุ-
จากวารสารพุทธสาสนา
ปีที่ ๓ เล่ม ๑-๒ พ.ศ.๒๔๗๕
หน้า๔๙๙
ขอขอบคุณ
https://www.facebook.com/pages/Faithbook/101678089907404
กายนี้เป็นเหมือนห้องทดลองของการปฏิบัติธรรม
การกระทำที่เรียกว่าปฏิบัติธรรม
----------
มหาวิทยาลัยที่สั่งสอนเรื่องความสุขอันสูงสุดแท้จริงโดยเฉพาะ
มีอยู่ในโลกนี้แต่แห่งเดียว คือพระพุทธศาสนา
หลักวิทยาศาสตร์ที่มุ่งค้นคว้าเฉพาะศิลปะแห่งยอดสุขในโลกนี้มีแต่หลักเดียว คือหลักพุทธศาสนา
นักวิทยาศาสตร์ที่สูงสุด ก็คือพุทธศาสนิก ที่ทำการทดลองด้วยเครื่องมือ
กล่าวคือ ดวงจิตที่อบรมแล้วด้วยภาวนา
อยู่ในห้องทดลอง กล่าวคือร่างกายนี้ ทั้งกลางวันและกลางคืน
ในสถานที่สงัดจากสิ่งรบกวน ทั้งทางกายและทางใจ
. . .
ในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ของโลกปัจจุบัน อาจมีการทดลองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดฉันใด ในร่างกายนี้
ก็มีสิ่งให้ค้นคว้าไม่มีที่สิ้นสุดฉันนั้น
แต่พระพุทธองค์ทรงสอนให้ค้นเพียงสี่อย่าง คือ ทุกข์ เหตุของทุกข์ สุข และเหตุของสุข เท่านั้นเอง
เครื่องมือในการค้น มีเพียงอย่างเดียว คือมรรคหรือมัชฌิมาปฏิปทา อันประกอบด้วยองค์แปด พบแล้วก็จะทำที่สุดทุกข์ หรือความพ้นทุกข์ได้
จงค้นให้พบความสงบกาย สงบจิตต์ และสงบกิเลส
ก า ร ค้ น นี้ เ รี ย ก ว่ า ก ร ร ม ฐ า น ห รื อ ก า รป ฏิ บั ติ ธ ร ร ม
-พุทธทาสภิกขุ-
จากวารสารพุทธสาสนา
ปีที่ ๓ เล่ม ๑-๒ พ.ศ.๒๔๗๕
หน้า๔๙๙
ขอขอบคุณ
https://www.facebook.com/pages/Faithbook/101678089907404