มาทำความรู้จักกับนิสัยเจ้านาย 10 แบบ ที่ส่วนตัวไม่อยากจะเจอเล๊ย คุณเคยเจอนายแบบไหนกันบ้างค่ะ
1. ขี้หลี
นายพวกนี้ เกิดมาจากความรักอันเปี่ยมล้น
ไม่รู้พ่อกับแม่เค้าเป็นคิวปิด แล้ว featuring กันวันวาเลนไทน์รึเปล่า
พวกนี้จึงมีแต่ความรัก หมกมุ่นกับการแจกจ่ายความรักให้กับลูกน้อง
และก็พยายามให้ได้มาซึ่งความรัก ไม่ว่าจะแทะโลม โอ้โลม ปฏิโลม ทั้งหยอด ทั้งแหย่ ทั้งยั่ว
....หัวนี่มีแต่งู หูนี่มีแต่ดำ ปากพูดพร่ำ มีแต่น้ำลาย ส่วนมือไม้นี่มีแต่กาว....แมร่งไม่ได้รู้เล๊ยยยยยย ว่าพวกชะนีสาวๆมีแต่รังเกียจเมริง
2. ขี้เล่น
นายแบบนี้ ชีวิตจะมีแต่เรื่องเอนเตอร์เทน งานคือความบันเทิงเท่านั้น
เค้าจะมีความเชื่อว่า มีงานเพียงสามอย่างบนโลกใบนี้ที่เป็นงานสร้างความก้าวหน้า และประโยชน์อันมหาศาลต่อองค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อม
งานที่ว่าคือ "รับแขก(ตามสนามกอล์ฟ)... แจกของ(แสดงความยินดี)...และร้องเพลง(คาราโอเกะ)"
มันเป็นงานท้าทาย ที่ต้องทำกันอย่างผสมผสาน กลมกลืน ส่วนงานอื่นๆตรูไม่ทำ........
แล้วถ้าถามว่าใครจะทำ ตอบเสียงดังๆฟังชัดๆว่า "ก็พวกเมริงไง"
3. ขี้เกียจ(อยู่บ้าน)
คนประเภทนี้จะมอบชีวิตและจิตวิญญาณให้กับคำว่า "งาน"
ไม่รู้ประทังชีวิต ด้วยการกินแบตเตอรรี่สามเค รุ่นไม่เติมน้ำกลั่น กับถ่านเอนเนอร์ไจเซอร์ แมวเก้าชีวิตรึเปล่า
พวกเค้าจะจำไม่ได้เลยว่าคนปกติเข้างานกับเลิกงานกันกี่โมง
เพราะสำหรับยอดมนุษย์อย่างเค้าแล้วนั้น จะมาปรากฏสาระร่างที่ออฟฟิศพร้อมพระอาทิตย์ขึ้น
และจะไม่ออกจากออฟฟิศหากพระอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้า
... เสาร์ อาทิตย์เค้าจะไม่หยุด และจะ Happy สุดๆ ถ้าเมริงไม่หยุด แบบเค้าด้วย
4. ขี้ระแวง
นายประเภทขี้ระแวง หวาดหวั่น มักจะพูดกับตัวเองในกระจกตอนเช้าเสมือนคนบ้าว่า โลกใบนี้มันอยู่ยาก
คนรอบข้างไม่หวังดี เค้าจะถูกปองศักดิ์ เอ๊ย ปองร้ายได้เสมอ
ชอบมองว่าลูกน้องทำงานเป็นช่างไม้..ถนัดเลื่อยขาเก้าอี้ หรือเป็นฆาตรกร broke back ชอบแทงข้างหลัง
จากความระแวง ประหนึ่งชีวิตที่ต้องทำงานท่ามกลางสมรภูมิรบในทะเลทรายซาฮาร่าอันร้อนระอุ
ทุกคนที่อยู่รอบตัวพร้อมเป็นศัตรูได้ตลอด มิตรแท้หามีไม่ในห้วงคิดคำนึง..
นายแบบนี้ เลยไม่เคยไว้ใจให้ลูกน้องทำงานสำคัญอะไร ระแวงว่ามันจะทำพลาด
ไม่เคยให้ลูกน้องแสดงแสนยานุภาพ เอ๊ย ศักยภาพใดๆ เพราะระแวงว่าพวกมันจะได้ดีกว่าตัวเอง
ชอบทำงานแบบ one man show ยิ่งงานเสนอหน้า งานสำคัญ กรูทำได้ และกรู.....จะทำคนเดียว
5. ขี้ลืม
สมองส่วนความจำบกพร่อง ปลาทองยังเรียกพ่อ
ต่อให้รถบรรทุกขนโอเมก้า3 มาเต็มคัน ล่มอยู่ในปากมัน ก็ยังช่วยมันไม่ได้ จุดๆนี้ถือว่าหนักกก
เค้าจะลืมไปหมด ลืมว่าเคยพูดอะไรไว้ เคยสั่งให้ทำอะไรไว้ และเคยรับปากอะไรกับใครเค้าไว้
ประโยคคลาสสิค ที่ฮิตติดปาก และพวกเราฟังจนจำขึ้นแกนกลางสมองแล้ว ก็คือ
"ผมไม่ได้สั่ง" --ไอเราก็คิดในใจ.........อ๋อ งั้นก็คงเป็นเสียงตดหล่ะมั้ง ที่พวกตรูได้ยินอ่ะ
"ผมไม่เคยให้ทำ" -- อ่ะนะ งั้น คงเป็นผีเปรตหรือสัมพะเวสี ที่มาเข้าฝันแล้วบอกให้ตรูทำแมร่งหล่ะมั้ง
"ผมไม่เห็นรู้มาก่อนเลย" -- ฮึฮึฮึ อยากไปยืนหัวเราะกลางน้ำตกไนแองการ่า แล้วตะโกนบอกมันว่า ใช่ซิ เมริง มันก็ไม่เคยรู้อะไรอยู่แล้วนี่
"ผมว่ามันไม่ใช่นะ" -- นั่นไง...นั่นไง..... ถ้าเมริงบอกว่าใช่ ก็แปลกละ"
"ผมไม่เคยตกลงกับคุณแบบนี้" --ชิชิ ใช่กรูตกลงของกรูคนเดียว กรูมันบ้า จบมะ
นายประเภทนี้จะลืมทุกอย่างบนโลกใบนี้ จะจำได้แค่ชื่อเมียกับชื่อแมวที่บ้าน
6. ขี้ประชด
นายพวกนี้จะได้รับการอบรมบ่มนิสัย เสมือนเป็นคุณชายที่หก คุณหญิงที่เจ็ดจากวังจุฑาเทพ
ตรรกะที่ใช้ในการดำรงชีวิตคือ การพูดรักษาน้ำใจคน บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น
พูดแรง พูดดุ กลัวลูกน้องจะรับไม่ได้
ลูกน้องอาจจะคิดสั้น ไปกระโดดบ่อปลาคาร์ฟหน้าออฟฟิศ หรือเอาไม้จิ้มฟันแทงตัวตาย
(เฮ่อ กรูคิดสั้นตั้งแต่เลือกทำงานกับเมริงแล้ว)
นายพวกนี้ เค้าเลือกที่จะพูดแบบอ้อมๆ
ชอบว่ากระแทก ว่า- ว่าดัน ว่าประชดประชัน ว่ากระทบกระเทียบเปรียบเปรย
.....ด่ากรูเช้านี้ กรูไปเจ็บเอาช่วงบ่าย....
.....ด่ากรูแบบไม่มีคำหยาบคาย แค่แมร่งเจ็บปางตาย ไปอีกเป็นปีๆ.....
7. ขี้กลัว
ที่ว่ากลัว.....หน่ะ .คือกลัวความก้าวหน้า... กลัวความสำเร็จ... กลัวความมั่นคงของลูกน้อง
นายที่กลัวว่า หากเราได้โปรโมท เราจะเครียดกับงานมากเกินไป จนไม่มีเวลาดูแลครอบครัว
นายที่กลัวว่า หากเราได้รับการปรับข้ัน ขึ้นเงินเดือน เราจะปวดหัวกับการจัดสรรเงินทอง อยากให้เราอยู่อย่าง "พอเพียง"
นายที่กลัวว่า หากเราได้ลองทำงานใหม่ เราจะรับความกดดันไม่ไหว เจ็บป่วยใครจะดูแล
นายที่กลัวว่า หากเรามีอยู่มีกิน มีรถขับ เราจะไม่แข็งแรง เพราะการโหนรถเมล์นั้นถือเป็นการออกกำลังกาย
นายที่กลัวว่า ถ้ามาถามทุกข์และสุขของเรามากเกินไป เราจะรำคาญ ก็เลยไม่เคยถามแมร่งเลย
นายพวกนี้ จะกลัวว่าลูกน้องจะได้ดีกว่าตัวเอง.....
แต่ลืมกลัวไปอีกอย่าง ลืมกลัวลูกน้องจะเกลียดตัวเอง
8. ขี้โมโห
ชื่อก็บอกแล้วว่า เป็นนิสัยที่น่าหลีกเลี่ยงมากแค่ไหน
ขนาดต้นกำเนิดภูเขาไฟและพายุลูกใหญ่ทุกลูกมารวมกัน ยังสู้ฤทธิเดชคนพวกนี้ไม่ได้เลย
เค้าจะโมโหง่าย ชอบวีน ชอบเหวี่ยง แบบไม่มีเหตุผล
อารมณ์ขึ้นลงอย่างรวดเร็วปานหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
ถ้าวันนี้ตลาดติดลบ พวกเมริงเตรียมตัวรับกันไปได้เลย
นายแบบนี้จะโมโหแบบไม่มีสัญญาณเตือนภัย
โมโหแบบไม่ซักประวัติ...โมโหแบบไร้ทิศทาง
โมโหแบบต่อเนื่องจริงจัง ตั้งเวลาเปิดปิดไม่ได้
เวลาเมริงโมโห แค่กรูหายใจแรง เมริงก็โกรธละ.... กรูรู้
9. ขี้เมา
นายที่หลงมัวเมาในอำนาจและตัวเอง
เห็นตัวเองเป็นที่ตั้ง เป็นแกนกลางของจักรวาล
สงสัยบ้านมันอยู่แถว center point (ยังเรียกันอยู่มั๊ยชื่อนี้ 555)
ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ จะคิดจะทำอะไรนั่นคือถูกและดีที่สุด
ลูกน้อง มีหน้าที่ฟังและทำตาม เข้าจั๊ย
การออกความเห็นถือว่าเถียง
การสอบถามถือว่าไม่เคารพ ไม่เชื่อมั่น
ส่วนการเสนอแนะถือว่าไม่ให้เกียรติ
ทุกอย่างที่เค้าพูด คือเรื่องจริง ถูกต้องที่สุดเสมอ
อย่าแม้แต่คิดจะเถียง เพราะเถียงยังไง เมริงก็แพ้อยู่ดี....
10. ขี้ขลาด
นายพวกนี้จะขี้ขลาด ไม่กล้าที่จะต้องตัดสินผิด-ถูก ด้วยตัวเอง
ไม่กล้าที่จะใช้เวลานั่งไตรตรองด้วยเหตุและผลของตัวเอง ว่าอันไหนจริง อันไหนหลอก อันไหนขาว อันไหนดำ
ไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่เห็น ต้องรอคนมาบอก
.. คนขี้ขลาดแบบนี้ มักจะถูกโฉลกกับลูกน้องขี้ฟ้อง
หูมีไว้ให้คนอื่นเป่า หัวมีไว้ให้คนอื่นปั่น
งานข่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก(ส่วนตัว)ของเค้า
ใครพูดก่อน....กรูเชื่อก่อน
ใครฟ้องก่อน....กรูเข้าข้าง
ถูกผิด กรูไม่รู้....กรูดูกันที่ความเร็ว
....... ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านทุกท่าน.............
ปล. แค่จะเข้ามาเพิ่มเติมว่าตลอดชีวิตการทำงาน นายที่ทำด้วยปัจจุบันไม่มีนิสัยแบบนี้ซักกะข้อเลย แต่นายที่บริษัทเก่าเป็นแบบนี้ทุกข้อเลย T_T
มาทำความรู้จักกับเจ้านาย 10 แบบ ที่ไม่อยากเจอ
1. ขี้หลี
นายพวกนี้ เกิดมาจากความรักอันเปี่ยมล้น
ไม่รู้พ่อกับแม่เค้าเป็นคิวปิด แล้ว featuring กันวันวาเลนไทน์รึเปล่า
พวกนี้จึงมีแต่ความรัก หมกมุ่นกับการแจกจ่ายความรักให้กับลูกน้อง
และก็พยายามให้ได้มาซึ่งความรัก ไม่ว่าจะแทะโลม โอ้โลม ปฏิโลม ทั้งหยอด ทั้งแหย่ ทั้งยั่ว
....หัวนี่มีแต่งู หูนี่มีแต่ดำ ปากพูดพร่ำ มีแต่น้ำลาย ส่วนมือไม้นี่มีแต่กาว....แมร่งไม่ได้รู้เล๊ยยยยยย ว่าพวกชะนีสาวๆมีแต่รังเกียจเมริง
2. ขี้เล่น
นายแบบนี้ ชีวิตจะมีแต่เรื่องเอนเตอร์เทน งานคือความบันเทิงเท่านั้น
เค้าจะมีความเชื่อว่า มีงานเพียงสามอย่างบนโลกใบนี้ที่เป็นงานสร้างความก้าวหน้า และประโยชน์อันมหาศาลต่อองค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อม
งานที่ว่าคือ "รับแขก(ตามสนามกอล์ฟ)... แจกของ(แสดงความยินดี)...และร้องเพลง(คาราโอเกะ)"
มันเป็นงานท้าทาย ที่ต้องทำกันอย่างผสมผสาน กลมกลืน ส่วนงานอื่นๆตรูไม่ทำ........
แล้วถ้าถามว่าใครจะทำ ตอบเสียงดังๆฟังชัดๆว่า "ก็พวกเมริงไง"
3. ขี้เกียจ(อยู่บ้าน)
คนประเภทนี้จะมอบชีวิตและจิตวิญญาณให้กับคำว่า "งาน"
ไม่รู้ประทังชีวิต ด้วยการกินแบตเตอรรี่สามเค รุ่นไม่เติมน้ำกลั่น กับถ่านเอนเนอร์ไจเซอร์ แมวเก้าชีวิตรึเปล่า
พวกเค้าจะจำไม่ได้เลยว่าคนปกติเข้างานกับเลิกงานกันกี่โมง
เพราะสำหรับยอดมนุษย์อย่างเค้าแล้วนั้น จะมาปรากฏสาระร่างที่ออฟฟิศพร้อมพระอาทิตย์ขึ้น
และจะไม่ออกจากออฟฟิศหากพระอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้า
... เสาร์ อาทิตย์เค้าจะไม่หยุด และจะ Happy สุดๆ ถ้าเมริงไม่หยุด แบบเค้าด้วย
4. ขี้ระแวง
นายประเภทขี้ระแวง หวาดหวั่น มักจะพูดกับตัวเองในกระจกตอนเช้าเสมือนคนบ้าว่า โลกใบนี้มันอยู่ยาก
คนรอบข้างไม่หวังดี เค้าจะถูกปองศักดิ์ เอ๊ย ปองร้ายได้เสมอ
ชอบมองว่าลูกน้องทำงานเป็นช่างไม้..ถนัดเลื่อยขาเก้าอี้ หรือเป็นฆาตรกร broke back ชอบแทงข้างหลัง
จากความระแวง ประหนึ่งชีวิตที่ต้องทำงานท่ามกลางสมรภูมิรบในทะเลทรายซาฮาร่าอันร้อนระอุ
ทุกคนที่อยู่รอบตัวพร้อมเป็นศัตรูได้ตลอด มิตรแท้หามีไม่ในห้วงคิดคำนึง..
นายแบบนี้ เลยไม่เคยไว้ใจให้ลูกน้องทำงานสำคัญอะไร ระแวงว่ามันจะทำพลาด
ไม่เคยให้ลูกน้องแสดงแสนยานุภาพ เอ๊ย ศักยภาพใดๆ เพราะระแวงว่าพวกมันจะได้ดีกว่าตัวเอง
ชอบทำงานแบบ one man show ยิ่งงานเสนอหน้า งานสำคัญ กรูทำได้ และกรู.....จะทำคนเดียว
5. ขี้ลืม
สมองส่วนความจำบกพร่อง ปลาทองยังเรียกพ่อ
ต่อให้รถบรรทุกขนโอเมก้า3 มาเต็มคัน ล่มอยู่ในปากมัน ก็ยังช่วยมันไม่ได้ จุดๆนี้ถือว่าหนักกก
เค้าจะลืมไปหมด ลืมว่าเคยพูดอะไรไว้ เคยสั่งให้ทำอะไรไว้ และเคยรับปากอะไรกับใครเค้าไว้
ประโยคคลาสสิค ที่ฮิตติดปาก และพวกเราฟังจนจำขึ้นแกนกลางสมองแล้ว ก็คือ
"ผมไม่ได้สั่ง" --ไอเราก็คิดในใจ.........อ๋อ งั้นก็คงเป็นเสียงตดหล่ะมั้ง ที่พวกตรูได้ยินอ่ะ
"ผมไม่เคยให้ทำ" -- อ่ะนะ งั้น คงเป็นผีเปรตหรือสัมพะเวสี ที่มาเข้าฝันแล้วบอกให้ตรูทำแมร่งหล่ะมั้ง
"ผมไม่เห็นรู้มาก่อนเลย" -- ฮึฮึฮึ อยากไปยืนหัวเราะกลางน้ำตกไนแองการ่า แล้วตะโกนบอกมันว่า ใช่ซิ เมริง มันก็ไม่เคยรู้อะไรอยู่แล้วนี่
"ผมว่ามันไม่ใช่นะ" -- นั่นไง...นั่นไง..... ถ้าเมริงบอกว่าใช่ ก็แปลกละ"
"ผมไม่เคยตกลงกับคุณแบบนี้" --ชิชิ ใช่กรูตกลงของกรูคนเดียว กรูมันบ้า จบมะ
นายประเภทนี้จะลืมทุกอย่างบนโลกใบนี้ จะจำได้แค่ชื่อเมียกับชื่อแมวที่บ้าน
6. ขี้ประชด
นายพวกนี้จะได้รับการอบรมบ่มนิสัย เสมือนเป็นคุณชายที่หก คุณหญิงที่เจ็ดจากวังจุฑาเทพ
ตรรกะที่ใช้ในการดำรงชีวิตคือ การพูดรักษาน้ำใจคน บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น
พูดแรง พูดดุ กลัวลูกน้องจะรับไม่ได้
ลูกน้องอาจจะคิดสั้น ไปกระโดดบ่อปลาคาร์ฟหน้าออฟฟิศ หรือเอาไม้จิ้มฟันแทงตัวตาย
(เฮ่อ กรูคิดสั้นตั้งแต่เลือกทำงานกับเมริงแล้ว)
นายพวกนี้ เค้าเลือกที่จะพูดแบบอ้อมๆ
ชอบว่ากระแทก ว่า- ว่าดัน ว่าประชดประชัน ว่ากระทบกระเทียบเปรียบเปรย
.....ด่ากรูเช้านี้ กรูไปเจ็บเอาช่วงบ่าย....
.....ด่ากรูแบบไม่มีคำหยาบคาย แค่แมร่งเจ็บปางตาย ไปอีกเป็นปีๆ.....
7. ขี้กลัว
ที่ว่ากลัว.....หน่ะ .คือกลัวความก้าวหน้า... กลัวความสำเร็จ... กลัวความมั่นคงของลูกน้อง
นายที่กลัวว่า หากเราได้โปรโมท เราจะเครียดกับงานมากเกินไป จนไม่มีเวลาดูแลครอบครัว
นายที่กลัวว่า หากเราได้รับการปรับข้ัน ขึ้นเงินเดือน เราจะปวดหัวกับการจัดสรรเงินทอง อยากให้เราอยู่อย่าง "พอเพียง"
นายที่กลัวว่า หากเราได้ลองทำงานใหม่ เราจะรับความกดดันไม่ไหว เจ็บป่วยใครจะดูแล
นายที่กลัวว่า หากเรามีอยู่มีกิน มีรถขับ เราจะไม่แข็งแรง เพราะการโหนรถเมล์นั้นถือเป็นการออกกำลังกาย
นายที่กลัวว่า ถ้ามาถามทุกข์และสุขของเรามากเกินไป เราจะรำคาญ ก็เลยไม่เคยถามแมร่งเลย
นายพวกนี้ จะกลัวว่าลูกน้องจะได้ดีกว่าตัวเอง.....
แต่ลืมกลัวไปอีกอย่าง ลืมกลัวลูกน้องจะเกลียดตัวเอง
8. ขี้โมโห
ชื่อก็บอกแล้วว่า เป็นนิสัยที่น่าหลีกเลี่ยงมากแค่ไหน
ขนาดต้นกำเนิดภูเขาไฟและพายุลูกใหญ่ทุกลูกมารวมกัน ยังสู้ฤทธิเดชคนพวกนี้ไม่ได้เลย
เค้าจะโมโหง่าย ชอบวีน ชอบเหวี่ยง แบบไม่มีเหตุผล
อารมณ์ขึ้นลงอย่างรวดเร็วปานหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
ถ้าวันนี้ตลาดติดลบ พวกเมริงเตรียมตัวรับกันไปได้เลย
นายแบบนี้จะโมโหแบบไม่มีสัญญาณเตือนภัย
โมโหแบบไม่ซักประวัติ...โมโหแบบไร้ทิศทาง
โมโหแบบต่อเนื่องจริงจัง ตั้งเวลาเปิดปิดไม่ได้
เวลาเมริงโมโห แค่กรูหายใจแรง เมริงก็โกรธละ.... กรูรู้
9. ขี้เมา
นายที่หลงมัวเมาในอำนาจและตัวเอง
เห็นตัวเองเป็นที่ตั้ง เป็นแกนกลางของจักรวาล
สงสัยบ้านมันอยู่แถว center point (ยังเรียกันอยู่มั๊ยชื่อนี้ 555)
ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ จะคิดจะทำอะไรนั่นคือถูกและดีที่สุด
ลูกน้อง มีหน้าที่ฟังและทำตาม เข้าจั๊ย
การออกความเห็นถือว่าเถียง
การสอบถามถือว่าไม่เคารพ ไม่เชื่อมั่น
ส่วนการเสนอแนะถือว่าไม่ให้เกียรติ
ทุกอย่างที่เค้าพูด คือเรื่องจริง ถูกต้องที่สุดเสมอ
อย่าแม้แต่คิดจะเถียง เพราะเถียงยังไง เมริงก็แพ้อยู่ดี....
10. ขี้ขลาด
นายพวกนี้จะขี้ขลาด ไม่กล้าที่จะต้องตัดสินผิด-ถูก ด้วยตัวเอง
ไม่กล้าที่จะใช้เวลานั่งไตรตรองด้วยเหตุและผลของตัวเอง ว่าอันไหนจริง อันไหนหลอก อันไหนขาว อันไหนดำ
ไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่เห็น ต้องรอคนมาบอก
.. คนขี้ขลาดแบบนี้ มักจะถูกโฉลกกับลูกน้องขี้ฟ้อง
หูมีไว้ให้คนอื่นเป่า หัวมีไว้ให้คนอื่นปั่น
งานข่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก(ส่วนตัว)ของเค้า
ใครพูดก่อน....กรูเชื่อก่อน
ใครฟ้องก่อน....กรูเข้าข้าง
ถูกผิด กรูไม่รู้....กรูดูกันที่ความเร็ว
....... ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านทุกท่าน.............
ปล. แค่จะเข้ามาเพิ่มเติมว่าตลอดชีวิตการทำงาน นายที่ทำด้วยปัจจุบันไม่มีนิสัยแบบนี้ซักกะข้อเลย แต่นายที่บริษัทเก่าเป็นแบบนี้ทุกข้อเลย T_T