วานนี้
มีสาวน้อย1คนและหนุ่มน้อย2คนมาบอกลาว่า
ป้าครับปิดเทอมแล้วผมจะกลับบ้าน จะมาอุดหนุนป้าอีกครั้งคงจะเป็นวันที่ 20 กว่า ตอนที่เปิดเทอม
ฉันบอก เดินทางโชคดีและปลอดภัยนะ เด็กๆยกมือสวัสดี...
ฉันขายอาหารตามสั่งค่ะ
อำเภอที่ฉันอยู่จะมีเด็กๆจาก ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดมาเรียนพอปิดเทอมแล้วจะเงียบมากเพราะเด็กๆกลับบ้าน
เด็ก 2 คนแรก ชายหญิงคู่นี้เป็นแฟนกันค่ะ (น่าจะอยู่ด้วยกันแล้วอายุ17/18ผู้ชายเรียนปี3)คู่นี้น่าตาน่ารักมาก(สไตส์เกาหลี...)
ในตอนแรกที่เค้ามาอุดหนุนฉัน ฉันคิดว่าเค้าสองคนเรียนที่เดียวกัน
พอเป็นลูกค้ากันไปนานๆจนสนิทกัน
พูดตักเตือนกันได้
ที่ว่าตักเตือนกันได้แล้วเค้าไม่โกรธคือ ปฏิกิริยาที่เค้าตอบรับค่ะ
เพราะเมื่อฉันพูดจบเค้าจะยกมือไหว้ และยังมาอุดหนุนอาหารฉันเหมือนเดิม
ส่วนเรื่องที่พูดคุยและตักเตือน เรื่องบางเรื่องฉันก็ไม่กล่าวล่วง
ส่วนใหญ่เรื่องที่ฉันนำมาพูดคุยและเตือนพวกเด็กๆคือ อย่ากลับดึก เรื่องการคบเพื่อน คือเรื่องทั่วไป
พบเจออะไรมาที่เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่น ฉันก็จะนำมาเล่า ให้เค้าฟัง(การพูดคุยกับเด็กๆรุ่นลูกมันช่วยให้หายคิดถึงลูกๆได้ค่ะ)
อย่างเช่น ฉันเห็นตำรวจมายกรถมอเตอร์ไซด์ที่แต่งเป็นรถซิ่ง
ไปต่อหน้าต่อตาฉันก็นำมาพูดคุยมาบอกเค้าว่า ให้ระวังเพราะจอดอยู่เฉยๆเค้าก็สามารถยกไปได้ อย่าทำอะไรที่ผิดระเบียบ เพราะถ้ามีปัญหาคนที่เดือดร้อนคือพ่อกับแม่
เมื่อสนิทกันจึงได้รู้ว่า น้องผู้ชายเรียนคนเดียว(ปี3)น้องคนเป้นผู้หญิงไม่ได้เรียนหนังสือจบแค่ม.3
แต่เสริฟอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ๆโรงไฟฟ้า
ฉันจึงบอกกับน้องคนเป็นผู้หญิงว่า
จะมีแฟนก็ไม่เป็นไรขอให้หาเวลาเรียนหนังสือ เรียน กศน เสาร์อาทิตย์ก็ได้
ตอนนี้ หนู้ยังสาวยังสวย ใครๆก็ยังชอบอยู่
พอหนูแก่ตัวมาใครเค้าจะมอง หนูดูอย่างป้านี่ พอแก่แล้วเนื้อหนังก็หย่อนก็ยานหน้าก็หย่นถ้าไม่มีความสามารถ ไม่มีความรู้ติดตัวใครจะเห็นคุณค่า
มีความรู้ติดตัวใครก็ปล้นไปจากเราไม่ได้
เวลาที่ฉันคุยกับเด็กๆ เมื่อพูดคุยจบเด็กจะยกมือไหว้และขอบคุณทุกครั้ง
เค้าสองคนน่ารักทั้งคู่
เด็กชายอีกคน เป้นเด็กปีหนึ่ง มาจากเบตง...
เค้าบอกว่า วันที่ 10 ผมจะกลับบ้าน จะกลับมาอีกทีคงเปิดเทอมเลย
ฉันถามว่า กลับยังไง นั่งรถหรือนั่งเครื่อง
เด็กบอกไปรถทัวร์...
เด็กคนนี้ เค้าจะมีที่นั่งประจำของเค้า
วันไหนถ้าเค้ามาแล้วโต๊ะนั้นมีแขกท่านอื่นนั่งอยู่ เค้าจะไม่สั่ง พอแขกลุกแล้วเค้าถึงสั่ง
ความน่ารักของเด็กคนนี้คือ เค้าจะมากินตอนดึก(4-5ทุ่ม)
ร้านใกล้ปิด พอกินเสร้จ เค้าจะนั่งดูทีวีอยู่เป้นเพื่อนฉันจนเก็บร้านเกือบเสร็จ
เป็นแบบนี้ เกือบทุกวัน
เค้ามาอุดหนุนฉันประจำ จนสนิทกัน
สนิท ถึงขนาด เวลาที่เค้าไม่มีเงิน เค้ามาขอแปะกินข้าวก่อนแล้วค่อยมาจ่ายวันหลัง
เค้าบอกว่า ผมไม่มีตังส์ ขอกินก่อนได้มั้ย ฉันบอก ได้ซิ
ฉันถาม แล้ว พรุ่งนี้ มีเงินกินข้าวมั้ย เอาเงินตรงป้าไปก่อน
เค้าบอกไม่เอา ขอแปะกินข้าวอย่างเดียว
เด็กคนนี้ ถ้าวันไหนเค้าไม่อิ่ม เค้าจะขอเติมข้าว ถ้าทัพพี สองทัพพี ฉันไม่คิดตังส์
แต่ถ้าวันไหนเค้าหิวมาก เค้าจะเพิ่มข้าว 1 ถ้วยฉันคิด 5 บาท
ลูกค้าฉันทุกคนถ้าใครเพิ่มข้าวนิดหน่อยฉันไม่คิดเงินเพิ่มค่ะ
เค้าเคยมาปรึกษาฉันว่า เค้าจะซื้อโน๊ตบุ๊ค เค้าจะซื้อร้านไหนดี
ฉันแนะนำเค้าไป...
จนวันหนึ่งเค้าถือโน๊ตบุ๊คมาอวดฉัน...
ฉันถาม ราคาเท่าไหร่เค้าบอกราคา....
ฉันบอก ของเล่นเด็กสมัยนี้แพงเน๊อะ
รักมันเยอะๆนะ เพราะกว่าที่น้องจะได้มา มันเป้นความยากลำบากและเสียสละของพ่อแม่
แล้วสิ่งที่น้องจะตอบแทนพ่อกับแม่ได้คือ ...
เค้าตอบ ตั้งใจเรียน และเป้นคนดี
ฉันบอกนั่นแหละที่พ่อกับแม่น้องเค้าต้องการ
ฉันเล่าให้เค้าฟังต่อ ... ป้าเคยซื้อรองเท้าให้ลูก สองคน สองคู่ ห้าพัน กว่า
ในขณะที่ป้าใส่คู่ละ 199 เพราะรักลูกไง ยอมให้ทุกอย่าง
ตอนนี้ลูกป้าเรียนจบหมดและทำงานแล้ว ป้าโดนลูกทิ้งไง จึงมาสอนลูกคนอื่นต่อ (แอบตลก)
น้องจะเล่นเกมก็ไม่มีใครว่า แต่ต้องไม่ทิ้งการเรียน
ฉันเล่าต่อ...ลูกป้า ตอน ม.2 ม.3 ก็เล่นเกม
เล่นหามรุ่งหามค่ำ แต่ก็ขอกันไว้ว่า อย่าทิ้งการเรียน
เมื่อเรียนจบแล้วอยากได้อะไรก็ได้
ถึงตอนนี้โทรมาขอบคุณประจำ (ก็เล่าให้เค้าฟังว่า ลูกชายเป็นยังไง)
เพื่อนน่ะคบได้ แต่ก็ต้องเลือกคบ
เวลาที่น้องเจ็บ น้องเป้นขึ้นมา คนที่ทุกข์ใจที่สุดคือ พ่อกับแม่
มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ ถ้าเพื่อนชวนไปทำในสิ่งที่ไม่ดีปฏิเสธเลย ไม่ต้องกลัวเพื่อนจะโกรธ
เพราะคนที่รอน้องอยู่ที่บ้านคือ พ่อกับแม่
น้องรู้มั้ย พ่อกับแม่เค้าคงตื่นเต้นมากและเฝ้ารอ เมื่อรู้ว่าลูกจะกลับบ้าน
ฉันแอบบอกความรู้สึกของตัวฉันเองไป T_________T
.
ปิดเทอมแล้ว...
มีสาวน้อย1คนและหนุ่มน้อย2คนมาบอกลาว่า
ป้าครับปิดเทอมแล้วผมจะกลับบ้าน จะมาอุดหนุนป้าอีกครั้งคงจะเป็นวันที่ 20 กว่า ตอนที่เปิดเทอม
ฉันบอก เดินทางโชคดีและปลอดภัยนะ เด็กๆยกมือสวัสดี...
ฉันขายอาหารตามสั่งค่ะ
อำเภอที่ฉันอยู่จะมีเด็กๆจาก ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดมาเรียนพอปิดเทอมแล้วจะเงียบมากเพราะเด็กๆกลับบ้าน
เด็ก 2 คนแรก ชายหญิงคู่นี้เป็นแฟนกันค่ะ (น่าจะอยู่ด้วยกันแล้วอายุ17/18ผู้ชายเรียนปี3)คู่นี้น่าตาน่ารักมาก(สไตส์เกาหลี...)
ในตอนแรกที่เค้ามาอุดหนุนฉัน ฉันคิดว่าเค้าสองคนเรียนที่เดียวกัน
พอเป็นลูกค้ากันไปนานๆจนสนิทกัน
พูดตักเตือนกันได้
ที่ว่าตักเตือนกันได้แล้วเค้าไม่โกรธคือ ปฏิกิริยาที่เค้าตอบรับค่ะ
เพราะเมื่อฉันพูดจบเค้าจะยกมือไหว้ และยังมาอุดหนุนอาหารฉันเหมือนเดิม
ส่วนเรื่องที่พูดคุยและตักเตือน เรื่องบางเรื่องฉันก็ไม่กล่าวล่วง
ส่วนใหญ่เรื่องที่ฉันนำมาพูดคุยและเตือนพวกเด็กๆคือ อย่ากลับดึก เรื่องการคบเพื่อน คือเรื่องทั่วไป
พบเจออะไรมาที่เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่น ฉันก็จะนำมาเล่า ให้เค้าฟัง(การพูดคุยกับเด็กๆรุ่นลูกมันช่วยให้หายคิดถึงลูกๆได้ค่ะ)
อย่างเช่น ฉันเห็นตำรวจมายกรถมอเตอร์ไซด์ที่แต่งเป็นรถซิ่ง
ไปต่อหน้าต่อตาฉันก็นำมาพูดคุยมาบอกเค้าว่า ให้ระวังเพราะจอดอยู่เฉยๆเค้าก็สามารถยกไปได้ อย่าทำอะไรที่ผิดระเบียบ เพราะถ้ามีปัญหาคนที่เดือดร้อนคือพ่อกับแม่
เมื่อสนิทกันจึงได้รู้ว่า น้องผู้ชายเรียนคนเดียว(ปี3)น้องคนเป้นผู้หญิงไม่ได้เรียนหนังสือจบแค่ม.3
แต่เสริฟอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ๆโรงไฟฟ้า
ฉันจึงบอกกับน้องคนเป็นผู้หญิงว่า
จะมีแฟนก็ไม่เป็นไรขอให้หาเวลาเรียนหนังสือ เรียน กศน เสาร์อาทิตย์ก็ได้
ตอนนี้ หนู้ยังสาวยังสวย ใครๆก็ยังชอบอยู่
พอหนูแก่ตัวมาใครเค้าจะมอง หนูดูอย่างป้านี่ พอแก่แล้วเนื้อหนังก็หย่อนก็ยานหน้าก็หย่นถ้าไม่มีความสามารถ ไม่มีความรู้ติดตัวใครจะเห็นคุณค่า
มีความรู้ติดตัวใครก็ปล้นไปจากเราไม่ได้
เวลาที่ฉันคุยกับเด็กๆ เมื่อพูดคุยจบเด็กจะยกมือไหว้และขอบคุณทุกครั้ง
เค้าสองคนน่ารักทั้งคู่
เด็กชายอีกคน เป้นเด็กปีหนึ่ง มาจากเบตง...
เค้าบอกว่า วันที่ 10 ผมจะกลับบ้าน จะกลับมาอีกทีคงเปิดเทอมเลย
ฉันถามว่า กลับยังไง นั่งรถหรือนั่งเครื่อง
เด็กบอกไปรถทัวร์...
เด็กคนนี้ เค้าจะมีที่นั่งประจำของเค้า
วันไหนถ้าเค้ามาแล้วโต๊ะนั้นมีแขกท่านอื่นนั่งอยู่ เค้าจะไม่สั่ง พอแขกลุกแล้วเค้าถึงสั่ง
ความน่ารักของเด็กคนนี้คือ เค้าจะมากินตอนดึก(4-5ทุ่ม)
ร้านใกล้ปิด พอกินเสร้จ เค้าจะนั่งดูทีวีอยู่เป้นเพื่อนฉันจนเก็บร้านเกือบเสร็จ
เป็นแบบนี้ เกือบทุกวัน
เค้ามาอุดหนุนฉันประจำ จนสนิทกัน
สนิท ถึงขนาด เวลาที่เค้าไม่มีเงิน เค้ามาขอแปะกินข้าวก่อนแล้วค่อยมาจ่ายวันหลัง
เค้าบอกว่า ผมไม่มีตังส์ ขอกินก่อนได้มั้ย ฉันบอก ได้ซิ
ฉันถาม แล้ว พรุ่งนี้ มีเงินกินข้าวมั้ย เอาเงินตรงป้าไปก่อน
เค้าบอกไม่เอา ขอแปะกินข้าวอย่างเดียว
เด็กคนนี้ ถ้าวันไหนเค้าไม่อิ่ม เค้าจะขอเติมข้าว ถ้าทัพพี สองทัพพี ฉันไม่คิดตังส์
แต่ถ้าวันไหนเค้าหิวมาก เค้าจะเพิ่มข้าว 1 ถ้วยฉันคิด 5 บาท
ลูกค้าฉันทุกคนถ้าใครเพิ่มข้าวนิดหน่อยฉันไม่คิดเงินเพิ่มค่ะ
เค้าเคยมาปรึกษาฉันว่า เค้าจะซื้อโน๊ตบุ๊ค เค้าจะซื้อร้านไหนดี
ฉันแนะนำเค้าไป...
จนวันหนึ่งเค้าถือโน๊ตบุ๊คมาอวดฉัน...
ฉันถาม ราคาเท่าไหร่เค้าบอกราคา....
ฉันบอก ของเล่นเด็กสมัยนี้แพงเน๊อะ
รักมันเยอะๆนะ เพราะกว่าที่น้องจะได้มา มันเป้นความยากลำบากและเสียสละของพ่อแม่
แล้วสิ่งที่น้องจะตอบแทนพ่อกับแม่ได้คือ ...
เค้าตอบ ตั้งใจเรียน และเป้นคนดี
ฉันบอกนั่นแหละที่พ่อกับแม่น้องเค้าต้องการ
ฉันเล่าให้เค้าฟังต่อ ... ป้าเคยซื้อรองเท้าให้ลูก สองคน สองคู่ ห้าพัน กว่า
ในขณะที่ป้าใส่คู่ละ 199 เพราะรักลูกไง ยอมให้ทุกอย่าง
ตอนนี้ลูกป้าเรียนจบหมดและทำงานแล้ว ป้าโดนลูกทิ้งไง จึงมาสอนลูกคนอื่นต่อ (แอบตลก)
น้องจะเล่นเกมก็ไม่มีใครว่า แต่ต้องไม่ทิ้งการเรียน
ฉันเล่าต่อ...ลูกป้า ตอน ม.2 ม.3 ก็เล่นเกม
เล่นหามรุ่งหามค่ำ แต่ก็ขอกันไว้ว่า อย่าทิ้งการเรียน
เมื่อเรียนจบแล้วอยากได้อะไรก็ได้
ถึงตอนนี้โทรมาขอบคุณประจำ (ก็เล่าให้เค้าฟังว่า ลูกชายเป็นยังไง)
เพื่อนน่ะคบได้ แต่ก็ต้องเลือกคบ
เวลาที่น้องเจ็บ น้องเป้นขึ้นมา คนที่ทุกข์ใจที่สุดคือ พ่อกับแม่
มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ ถ้าเพื่อนชวนไปทำในสิ่งที่ไม่ดีปฏิเสธเลย ไม่ต้องกลัวเพื่อนจะโกรธ
เพราะคนที่รอน้องอยู่ที่บ้านคือ พ่อกับแม่
น้องรู้มั้ย พ่อกับแม่เค้าคงตื่นเต้นมากและเฝ้ารอ เมื่อรู้ว่าลูกจะกลับบ้าน
ฉันแอบบอกความรู้สึกของตัวฉันเองไป T_________T
.