คือลักษณะบ้านเราคือ ทาวน์โฮม2หลังติดกันค่ะ แต่ก่อน ญาติๆกันดัดแปลงเป็น โฮมออฟฟิต พอมีที่ทางขยับขยายก็ย้ายออกไป แล้วขายบ้านหลังนี้ ให้พ่อแม่เรา. พ่อแม่เราเลยซื้อไว้ให้ลูกหลานมาอยู่เวลา มาเรียน มาทำงานในตัวเมือง จะได้ไม่ต้องเช่าหอ. มีสมาชิกในบ้านตอนนี้ 3 คน คือตัวเรา น้องชาย และน้องสาว. ส่วนพ่อแม่ ทำงานอยู่อีกจังหวัด. ตลอดระยะเวลา 7ปี ตั้งแต่เรียน ยันเรียน จบ ยันทำงาน ชีวิตเป็น ปกติสุข ดีทุกอย่าง. รอบๆบ้านก็สนิทชิดเชื้อกันหมด
ความปกติสุข มันมาหายไป เมื่อมีครอบครัวชาวต่างชาติ มาเช่าบ้านอยู่ข้างๆ บ้านเรา. บ้านหลังข้างๆแต่ก่อนคนไทยอยู่ค่ะ แต่ปีที่แล้วลูกสาวเค้าแต่งงานกับฝรั่งแล้ว ย้ายออกเลยปล่อยให้เช่า. ก่อนหน้านี้ เคยมีแขก(หรืออาหรับ)มาเช่าอยู่ประมาณ 5เดือน ก็ไม่เคยสร้างความรำคาญให้เลย อยู่แบบเงียบๆไม่วุ่นวายกับใคร
จนมาถึงครอบครัวนี้ มีผู้ชาย2คนอายุปรุมาณ40กับ30 ผู้หญิง1คนอายุประมาณ30 ป้า60 อีกคน ย้ายมาอยู่ได้เกือบๆ2เดือน ตอนแรกคิดว่าเป็นจีน แต่เวลาเค้าคุยกันเสียงดัง ก็ไม่ใช่ภาษาจีน (เราพูดจีนได้บ้าง เลยรู้) เลยไปคิดว่าเป็นไม่คนญี่ปุ่น ก็เกาหลี
ด้วยความไท้ย ไทย มีมิตรไมจิต ที่ดี และรั้วบ้านติดกัน เวลาที่ไปยืนรดน้ำต้นไม้เราก็ส่งยิ้มหวานๆไปให้ พอเป็นพิธี
หลังจากนั้น2วัน ป้าเจ้าของหอฝั่งตรงข้าม แกทำ ถั่วเขียวต้มหม้อใหญ่ เลยมาเรียกให้เอาชามไปตัก เราก็ไปตัก กำลังจะเข้าบ้าน ผู้หญิงที่เป็นชาวต่างชาติ เลยตะโกนเรียก ยูๆ แล้วถามเราว่า ยูเป็นคนไทยหรือคนจีน. เราเลยบอกคนไทย นางก็พูดมาเลย ว่าจริงหรอ? คนไทยมีแต่ตัวดำๆนิ..? ทำไมบ้านยูขาวทั้งบ้าน. คนแถวนี้ต้องมีเชื้อจีนแน่เลย ขาวๆทั้งนั้น ไอเคยได้ยินมาว่าคนไทยส่วนใหญ่จะผสมจีน (แถวมหาลัยมีแต่นักศึกษา กำลังรักสวยรักงาม) เรานึกในใจ อะไรว๊า แค่เรื่องดำเรื่องขาว จะสงสัยอะไรปานนั้น เลยตอบไปว่า "ไอ ดอนท์ โน วาย บัท แอม ไทย 100%"

ตามความรู้พอถูๆไถๆ). แล้วด้วยความอยากรู้ เลยถามกลับว่านาง มาจากไหน ญี่ปุ่นหรือ เกาหลี นางขึ้นเสียงทันที ว่านางคือเกาหลี แล้วก็ร่ายยาว เรื่องญี่ปุ่น เลวยังไง ชั่วยังไง ด้อยยังไง เรื่องตั้งแต่สงครามโลกนู๊นน. จนถั่วเขียวต้มจะเย็นหมดแล้ว! เรื่องวันนั้น จบไป ด้วยการที่เราแบ่งถั่วเขียวต้มให้ครึ่งชาม(ใหญ่) แล้วมานั่งคิด นี่ตรูยืนฟังเรื่อง ญี่ปุ่นเกาหลี ร่วมครึ่งชั่วโมง!.?
หลังจากนั้น ความเกรงใจเริ่มหายไป คือ บ้านเกาหลี กลิ่น กิมจิ(ผักดอง)ลอยมาทุกวัน(พอรับได้). คุยกันเสียงดังมากกกส์(ยังพออดทนได้). ทิ้งขยะ เละเทะ(พอทน). แต่ที่ทนไม่ไหวแล้ว คือเรื่อง ไม่รู้เอาขยะ หรืออะไรไม่รู้ มาวางไว้ข้างรั้ว ซึ่งบ้านเค้า กับบ้านเรามันติดกัน. กลิ่นเน่ากลิ่นบูดลอยมาบ้านเรา ไม่รู้จะทำไงก็อดทน และอีกเรื่องคือ ผู้ชายจะกลับมาบ้าน ตี2ตี3 ทุกวัน แล้วบีบแตรรถ ให้ผู้หญิงออกมาเปิดประตูให้ทุกวัน เราทนไม่ไหว เลยเขียนใส่กระดาษแข็งไป แปะที่ประตูเหล็ก. แทนที่จะดีขึ้น กลับกลายเป็นว่า บีบแตรรัวกว่าเดิม!
ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราเลยให้น้องชายไปคุย(เพราะน้องชายภาษาแข็งแรงกว่าเรามาก)ว่าให้เงียบๆหน่อยอย่าบีบแตรรถ ตอนดึก มันรบกวน คนแถวนี้ชอบอยู่แบบเงียบๆ. พอน้องชายเราไปคุยเลยกลับมาเล่าให้ฟังว่า พูดแต่ภาษาเกาหลี(ทั้งที่พูดอังกฤษได้). น้องเราเลยบอกให้พูดอังกฤษ ก็ไม่ยอมพูด
ปัจจุบันนี้ ก็มีเพื่อนบ้านคนอื่นเริ่มทนไม่ไหวหลายหลังแล้ว คือไม่ค่อยมีมารยาท เอะอะโวยวายสิ่งดัง (ยิ่งวันไหนกินเหล้ากันนี่สุดๆ). บีบแตรรถตอนกลางคืน. บ้านนหลังถัดไปก็เคยแจ้งตำรวจไปแล้วรอบนึง. แต่ก็ยังตีมึนสู้ ไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรม
เราควรทำไงดีคะ อยู่บ้านติดกับมันแล้วรำคาญมาก รำคาญใจอีกเรื่องคือ ชอบแสดงว่าประเทศตัวเองยิ่งใหญ่ เห็นใครใช้รถญี่ปุ่นนี่จะดูถูกทันที ทำเหมือนตัวเองเป็นพระเจ้างั้นแหล่ะ
ปัจจุบันเราไม่ยุ่งเลยคะ บ้านหลังอื่นก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ทำยังไงดี กับเพื่อนบ้านชาวต่างชาติ
ความปกติสุข มันมาหายไป เมื่อมีครอบครัวชาวต่างชาติ มาเช่าบ้านอยู่ข้างๆ บ้านเรา. บ้านหลังข้างๆแต่ก่อนคนไทยอยู่ค่ะ แต่ปีที่แล้วลูกสาวเค้าแต่งงานกับฝรั่งแล้ว ย้ายออกเลยปล่อยให้เช่า. ก่อนหน้านี้ เคยมีแขก(หรืออาหรับ)มาเช่าอยู่ประมาณ 5เดือน ก็ไม่เคยสร้างความรำคาญให้เลย อยู่แบบเงียบๆไม่วุ่นวายกับใคร
จนมาถึงครอบครัวนี้ มีผู้ชาย2คนอายุปรุมาณ40กับ30 ผู้หญิง1คนอายุประมาณ30 ป้า60 อีกคน ย้ายมาอยู่ได้เกือบๆ2เดือน ตอนแรกคิดว่าเป็นจีน แต่เวลาเค้าคุยกันเสียงดัง ก็ไม่ใช่ภาษาจีน (เราพูดจีนได้บ้าง เลยรู้) เลยไปคิดว่าเป็นไม่คนญี่ปุ่น ก็เกาหลี
ด้วยความไท้ย ไทย มีมิตรไมจิต ที่ดี และรั้วบ้านติดกัน เวลาที่ไปยืนรดน้ำต้นไม้เราก็ส่งยิ้มหวานๆไปให้ พอเป็นพิธี
หลังจากนั้น2วัน ป้าเจ้าของหอฝั่งตรงข้าม แกทำ ถั่วเขียวต้มหม้อใหญ่ เลยมาเรียกให้เอาชามไปตัก เราก็ไปตัก กำลังจะเข้าบ้าน ผู้หญิงที่เป็นชาวต่างชาติ เลยตะโกนเรียก ยูๆ แล้วถามเราว่า ยูเป็นคนไทยหรือคนจีน. เราเลยบอกคนไทย นางก็พูดมาเลย ว่าจริงหรอ? คนไทยมีแต่ตัวดำๆนิ..? ทำไมบ้านยูขาวทั้งบ้าน. คนแถวนี้ต้องมีเชื้อจีนแน่เลย ขาวๆทั้งนั้น ไอเคยได้ยินมาว่าคนไทยส่วนใหญ่จะผสมจีน (แถวมหาลัยมีแต่นักศึกษา กำลังรักสวยรักงาม) เรานึกในใจ อะไรว๊า แค่เรื่องดำเรื่องขาว จะสงสัยอะไรปานนั้น เลยตอบไปว่า "ไอ ดอนท์ โน วาย บัท แอม ไทย 100%"
หลังจากนั้น ความเกรงใจเริ่มหายไป คือ บ้านเกาหลี กลิ่น กิมจิ(ผักดอง)ลอยมาทุกวัน(พอรับได้). คุยกันเสียงดังมากกกส์(ยังพออดทนได้). ทิ้งขยะ เละเทะ(พอทน). แต่ที่ทนไม่ไหวแล้ว คือเรื่อง ไม่รู้เอาขยะ หรืออะไรไม่รู้ มาวางไว้ข้างรั้ว ซึ่งบ้านเค้า กับบ้านเรามันติดกัน. กลิ่นเน่ากลิ่นบูดลอยมาบ้านเรา ไม่รู้จะทำไงก็อดทน และอีกเรื่องคือ ผู้ชายจะกลับมาบ้าน ตี2ตี3 ทุกวัน แล้วบีบแตรรถ ให้ผู้หญิงออกมาเปิดประตูให้ทุกวัน เราทนไม่ไหว เลยเขียนใส่กระดาษแข็งไป แปะที่ประตูเหล็ก. แทนที่จะดีขึ้น กลับกลายเป็นว่า บีบแตรรัวกว่าเดิม!
ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราเลยให้น้องชายไปคุย(เพราะน้องชายภาษาแข็งแรงกว่าเรามาก)ว่าให้เงียบๆหน่อยอย่าบีบแตรรถ ตอนดึก มันรบกวน คนแถวนี้ชอบอยู่แบบเงียบๆ. พอน้องชายเราไปคุยเลยกลับมาเล่าให้ฟังว่า พูดแต่ภาษาเกาหลี(ทั้งที่พูดอังกฤษได้). น้องเราเลยบอกให้พูดอังกฤษ ก็ไม่ยอมพูด
ปัจจุบันนี้ ก็มีเพื่อนบ้านคนอื่นเริ่มทนไม่ไหวหลายหลังแล้ว คือไม่ค่อยมีมารยาท เอะอะโวยวายสิ่งดัง (ยิ่งวันไหนกินเหล้ากันนี่สุดๆ). บีบแตรรถตอนกลางคืน. บ้านนหลังถัดไปก็เคยแจ้งตำรวจไปแล้วรอบนึง. แต่ก็ยังตีมึนสู้ ไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรม
เราควรทำไงดีคะ อยู่บ้านติดกับมันแล้วรำคาญมาก รำคาญใจอีกเรื่องคือ ชอบแสดงว่าประเทศตัวเองยิ่งใหญ่ เห็นใครใช้รถญี่ปุ่นนี่จะดูถูกทันที ทำเหมือนตัวเองเป็นพระเจ้างั้นแหล่ะ
ปัจจุบันเราไม่ยุ่งเลยคะ บ้านหลังอื่นก็ไม่ไหวเหมือนกัน