ผิดหวังกับการให้บริการของคลินิคความงามแห่งหนึ่ง

โดยปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยใช้บริการคลินิคความงามต่างๆเท่าไรค่ะ
แต่ช่วงนี้สนใจเลเซอร์กำจัดขนถาวรและเห็นคลินิคต่างๆมีโปรโมชั่นน่าสนใจดี
จึงได้หาข้อมูลจากเว็บพันทิป ว่าคลินิคไหนมั่นใจได้บ้าง
สรุปจึงเลือกที่จะสอบถามคลินิคนี้ ถือว่าเป็นคลินิคที่โด่งดังคลินิคหนึ่งในพันทิป
ตอนแรกดิฉันได้ติดต่อสอบถามไปทางโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่าให้เข้าไปรับคำปรึกษาจากทางคลินิคจะชัดเจนกว่า
เจ้าหน้าที่พูดจาดีมากค่ะและนัดแนะวันเวลา พร้อมทั้งบอกถ้าไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรค่ะ ให้เข้าไปรับคำปรึกษาก่อน
สรุปก็เลยตกลงนัดแนะเรื่องเวลากันค่ะ

พอถึงวันนัด ซึ่งก็คือเมื่อวานนี้ ดิฉันไปช้าเนื่องจากว่า ต้องไปทำธุระให้แฟนที่ AIS และคิวยาวมาก
มีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่โทรมาตาม แต่ดิฉันก็ชี้แจงไปว่า ขอโทษด้วยนะค่ะพอดีทำธุระอยู่ AIS อาจจะมาล่าช้าหน่อย
หลังจากที่ทำธุระเสร็จ ดิฉันก็โทรกลับไปหาทางคลินิคแห่งนี้ สอบถามว่าจะเข้ามารับคำปรึกษาได้หรือไม่ เพราะเห็นว่าใกล้จะหมดเวลานัดแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ตอบตกลงว่าได้ค่ะ
ดิฉันก็เดินลงไปที่คลินิคแห่งนั้น

พอไปถึงคลินิคแห่งนั้น ดิฉันเปิดประตูเข้าไป เจ้าหน้าที่ก็มองดิฉันหัวจรดเท้า ดิฉันรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ไม่แสดงอารมณ์โกรธอะไร (ดิฉันยอมรับไม่ได้แต่งตัวแบบพนักงาน office ทั่วไป เืนื่องจากทำงานเป็นวิศวกรจึงจำเป็นต้องใส่แบบฟอร์มของที่ทำงานมีลักษณะเป็นชุดช่าง ในความคิดดิฉันคิดว่าไม่ได้แต่งตัวไ่ม่ดีอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเป็นชุดแบบฟอร์มของที่ทำงานซึ่งเป็นชุดที่ถูกระเบียบ)
พนักงานก็สวัสดีเหมือนไม่ค่อยเต็มใจและเชิญนั่ง สักพักก็มี sale 2 คน เดินเข้ามาให้คำปรึกษา
เป็นผู้หญิง 2 คน sale1  ผิวคล้ำๆ (พูดจาดี) sale2 ผิวขาว (พูดจาไม่ดี)
sale2 : สนใจรับบริการอะไรค่ะ
ดิฉัน : เลเซอร์กำจัดขนค่ะ
sale2 : ที่แจ้งไว้ว่า รักแร้และขาล่าง ใช่ไหมค่ะ ขอดู ขาหน่อยค่ะ
ดิฉัน : ได่ค่ะ
ดิฉันก็เปิดขาให้ดู
sale เปิดสมุดซึ่งเป็นรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดิฉันก็มองสมุด ก็นิ่งไปสักพักแล้วก็มองหน้า sale
sale เงียบไม่พูดอะไร (ซึ่งจริงๆแล้ว sale ควรจะมีหน้าที่แนะนำว่าเท่าไรบ้าง ไม่ใช่ให้ดิฉันอ่านเอาเองแบบนี้)
ในที่สุดดิฉันก็สอบถามขึ้นมา
ดิฉัน : ขอทราบรายละเอียดคอร์สบุฟเฟต์และการผ่อนจ่ายกับบัตรเครดิตค่ะ ว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้างค่ะ
(ดิฉันยอมรับค่ะว่า ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก ถ้าจ่ายทีเดียวทำให้ดิฉันมีปัญหาทางการบริหารจัดการเงินเนื่องจากเงินเดือนไม่ได้สูงมากถึงขนาดนั้นและอีกอย่างหนึ่งที่ดิฉันทำบัตรเครดิตก็เพื่อบริการเสริมพวกนี้ ไม่งั้นดิฉันคิดว่าคงไม่ทำค่ะ ในความเป็นจริงแล้วบัตรเครดิตทำชีวิตวุ่นวายมากกว่าการใช้เงินสด)
sale2 : ก็เหมือนซื้อวงเงินค่ะ ตามนี้ โชว์ป้ายให้อ่านอีก และบอกว่าปกติโปรนี้ไม่มีนะค่ะ หมดไปตั้งหลายเดือนแล้ว เฉพาะสาขาเิปิดใหม่เท่านั้น
แนะนำต่อว่าซื้อครบเท่านี้ได้วงเงินเพิ่ม ผ่อน 0% 3 เดือนหรือ 4 เดือน ไม่แน่ใจ
ดิฉัน : อ้อค่ะ ดิฉันก็พูดติดตลกว่า ทำไมผ่อนน้อยจังค่ะ เมื่อกี้ซื้อมือถือ 5000 กว่าบาท ผ่อนได้ตั้ง 6 เดือน
sale1 : พอดีทางเราร่วมกับโปรโมชั่นกับธนาคารเท่านี้ค่ะ
sale2 : แทรกมาทันที งั้นลูกค้าต้องไปผ่อนกับบัตรเครดิตเอาเองค่ะ
ดิฉัน : ผ่อนกับบัตรเครดิตก็ดอกเบี้ยแพงสิค่ะ (ดิฉันเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของ sale2)
ดิฉันก็ถามต่อ : งั้นถ้าซื้อวงเงินก็สามารถใช้ร่วมกับเพื่อนใช่ไหมค่ะ
sale2: คุณลูกค้าจะใช้กับเพื่อนทำไมค่ะ ลูกค้ากังวล 2 จุด ก็พอดีตามที่ลูกค้าต้องการอยู่แล้ว
ดิฉัน : พอดีได้ข่าวว่า ทำเลเซอร์ค่อนข้างเจ็บอ่ะค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะทนไหวไหมและเป็นคนผิวบอบบางแพ้ง่ายด้วยค่ะ
sale2: ปกติลูกค้าแว๊กซ์อยู่แล้วนิค่ะ ไม่เจ็บหรอกค่ะ คนอื่นทำก็ไม่มีปัญหา ไม่เคยลูกค้าคืนคอร์สค่ะ
ดิฉัน : ต้องมีซื้อยาเพิ่มไหมค่ะ
sale2 : ต้องซื้อเพิ่มค่ะ 400
ดิฉัน : เป็นยาอะไรค่ะ ปกติเป็นคนแพ้ยาง่ายมาก
sale2: ยาแก้อับเสบทั่วไปค่ะ ไม่แพ้หรอกค่ะ
(ดิฉันยอมรับว่าต้องถามรายละเอียดเนื่องจากว่าขนาดยาฆ่าเชื้อกลุ่มรูริก ดิฉันยังเคยแพ้เลยค่ะ)
sale2: ลูกค้าเรียนหรือทำงานอยู่ค่ะ
ดิฉัน : ทำงานอยู่ค่ะ เหมือนเรียนอยู่ค่ะ ทำไมค่ะ
sale2: นึกว่าลูกค้าเรียนช่าง(เน้นมาก)หรือวิศวะอยู่ค่ะ ได้รับข้อมูลจากทางพันทิปมาใช่ไหมค่ะ
ดิฉัน : ใช่ค่ะ ดิฉันคิดว่าสนใจแค่รักแร้ อาจจะพาน้องสาวมาปรึกษาอีกที เนื่องจากน้องสาวก็สนใจเหมือนกัน
sale2: จะพามาทำไมค่ะ ลูกค้าก็ซื้อไปเลย กังวล 2 จุดไม่ใช่เหรอค่ะ
ดิฉัน : ขอทบทวนอีกทีดีกว่าค่ะ เพราะสนใจคลินิคตรงข้ามอยู่เหมือนกันค่ะ (คลินิคตรงข้ามเป็นคลินิคแห่งหนึ่งที่โด่งดังในเว็บพันทิปเช่นกัน)
sale2: เชิญค่ะ ไปสอบถามก่อนได้เลยค่ะ ถ้าของเราไม่ดีไม่มีคนมา review ในพันทิปหรอกค่ะ
ดิฉัน : หน้าม้าหรือเปล่าค่ะ (ดิฉันเลยประชดไป เนื่องจากรำคาญ sale2 มาก)
sale2: ถ้าไม่ดีจริง คลินิคเราไม่เปิดมาถึง 7 ปีหรอกค่ะ ส่วนใหญ่ลูกค้าก็ปากต่อปาก
ดิฉัน : โอเคค่ะ งั้นดิฉันขอไปทบทวนก่อนนะค่ะ
ดิฉันก็เดินออกไปด้วยความโกรธ ตั้งแต่เกิดมาดัฉันไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน

หลังจากนั้นดิฉันก็เข้าไป feedback กับทาง facebook ของคลินิคดังกล่าว
แต่ดิฉันยังรู้สึกดีว่า แอดมินของทางคลินิคกล่าวขอโทษและรับเรื่องไว้เป็นอย่างดี

*ที่เขียนกระทู้ขึ้นมาไม่ได้ต้องการดิสเครดิตทางคลินิคแต่อย่างใด
ดิฉันคิดว่าคลินิคจะอยู่ได้เนื่องจากลูกค้า อยากจะให้ทางคลินิคอบรมพนักงานให้ดีกว่านี้
และอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าคุณคิดว่าพันทิปทำให้คุณมีรายได้ พันทิปก็ทำให้คุณเสียรายได้ ได้เช่นกันค่ะ
ถ้าคุณยังไม่ปรับปรุงการบริการ

ปล. ดิฉันไปสมัครคอร์สกับคลินิคตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว พูดจาดีมาก และได้รับรู้เรื่องราวว่า คลินิคดังกล่าว
มีลูกค้าหลายท่านโดนมาแล้วแบบดิฉัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่