เป็นสถาปนิก,สถาปนิกภายใน ตกงานเพราะสาเหตุอะไรบ้างคะ ?

กระทู้คำถาม
อยากทราบ อุปสรรคในชีวิตการทำงานของ เหล่าสถาปนิกว่า..........

1.เรียนจบไปเเล้ว หางานไม่ได้   (ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงาน)  เพราะอะไรคะ ? (การเลือกงาน-เรื่องมากเอง , เรียนไม่ดี - เกรดไม่สวย)
2.เมื่อทำงานเเล้ว คนประเภทไหนที่จะทำงานไม่ไหว เเล้วโดนไล่ออกในที่สุด  (ขี้เกียจ , ไม่เก่ง-ไม่ฉลาด-ซื่อบื้อ, ทำอะไรไม่เป็น)
3.เงินที่ได้นั้นไม่คุ้มกับที่ทำงาน จริงหรือไม่ ?
4.ทำงานหนัก จนไม่ได้เจอครอบครัว ไม่มีเวลาว่างนั้น  จริงไหม ?


******ประเด็นหัวข้อเเรกนั้น เน้นมากกค่ะ เพราะใกล้จะเรียนจบเเล้ว   (กดดัน พาพันเศร้า)

อยากรับฟังประสบการณ์จริงค่ะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ที่บริษัทออกแบบขนาดเล็กแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งมีคนทั้ง office ทั้งหมดประมาณ 8 คน มีสถาปนิกวัยกลางคนเกือบจะอาวุโสผู้ซี่งเจนจัดชีวิตเป็นหัวหน้า office หรือเจ้าของบริษัทนั่นเอง...มีสถาปนิกเด็กจบใหม่จำนวน 5 คน เพิ่งได้ใบประกอบวิชาชีพมาหมาดฯ 2 คน ส่วนอีก 3 คน กำลังตั้งหน้าตั้งตาเตรียมตัวสอบครั้งที่สองและคาดหวังว่าครั้งนี้คงผ่านหมด ทุกวิชา...สถาปนิกเด็กจบใหม่ทั้ง 5 คน จบจากหลาย ฯ สถานศึกษาต่าง ฯ กัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ เงินเดือนของพวกเขาทั้ง 5 คน ซึ่งน้อยกว่า รปภ.ของบางบริษัทใหญ่ ฯ เสียอีก...
...เริ่มงานตอนเช้า 9.00 น.สถาปนิกเด็กจบใหม่ทั้ง 5 คน ต่างตั้งหน้าตั้งตา...เขียนแบบ...เพราะว่า office นี้ไม่มีพนักงานเขียนแบบ เนื่องจากสถาปนิกที่จบออกมาทุกวันนี้แทบทุกสถาบันจะเขียนแบบคอมพิวเตอร์ได้ ค่อนข้างดี ไหนจะเช็คแบบ,เคลียร์แบบ,เขียนแบบ และแก้แบบเองได้ แล้วเขาจะจ้างพนักงานเขียนแบบให้เปลืองเพิ่มมากขึ้นทำไม...ใช่ไหมครับ...

...ใกล้เวลาพักเที่ยง...
“ไปกินข้าวที่ไหนดีวันนี้...”
เสียงสถาปนิกเด็กจบใหม่ 1 ใน 5 เอ่ยชวนเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมที่เหลือด้วยท่าทางอิดโรย...ทุกคนต่างมองหน้า กันและท่าทางไม่ต่างจากกัน หัวยุ่ง-หน้ามัน-หน้าตาซีดเซียว...
“พี่ให้คนสั่งข้าวกล่องมาให้แล้ว...ช่วยเร่งงานพี่หน่อย...พี่นัดลูกค้าไว้ ตอน บ่าย 3 โมง ต้องเสร็จให้ทันน่ะ...”
เสียงสถาปนิกผู้เจนชัดชีวิต โชกโชนด้วยลูกล่อลูกชนทุกรูปแบบ...เอ่ยขึ้น เป็นคำสั่งหรือคำขอร้องลองคิดดูครับ...ทำให้สถาปนิกเด็กจบใหม่ทั้ง 5 คนต้องเร่งมือเขียนแบบต่อโดยลืมว่ากำลังหิวข้าวและได้เวลาพักแล้ว...
...บ่าย 2 โมงครึ่ง แบบทั้งหมดถูกพิมพ์ออกมาและจัดเป็นรูปเล่มสวยงามหลายเล่ม...ตามคำสั่งของ สถาปนิกผู้เจนจัดชีวิต...
...บ่าย 3 โมง...กระเพราหมูกับไข่ดาว จืด-ชืด-เย็นสนิท ถูกสถาปนิกเด็กจบใหม่ทั้ง 5 กินมันลงไปอย่างทรมาน...เป็นเช่นนี้ค่อนข้างบ่อย ตั้งแต่ทั้ง 5 คนเข้ามาทำงานที่นี่...

...6 โมงเย็น...สมองเริ่มล้า มือไม้มันหมดแรงไม่อยากจะขยับเขยื้อนมันแล้ว...กาแฟถูกชงแล้วดื่ม ดื่มแล้วชง...หลายรอบตั้งแต่บ่าย...ล่วงเลยมา...
“...เลิกงานแล้วกลับบ้านกันดีกว่า...”
มี 1 ใน 5 ของสถาปนิกเด็กจบใหม่...เอ่ยชวนขึ้น...
ทำให้สถาปนิกผู้เจนจัดชีวิต เรียกประชุมด่วนเป็นครั้งที่ 5 ภายในวันนี้วันเดียว...
“...พี่มองว่าแบบที่พวกเราเขียนส่งไปในตอนบ่าย...ยังไม่ค่อยชัดเจนและเห็น ภาพชัดนัก...พี่ว่าเราควรตัด mass model ส่งให้เขาเพิ่มเติมตอนเช้าพรุ่งนี้...ไม่ต้องตัดละเอียดหรอก เอาแบบที่ตัดกันตอนเรียนเอาง่าย ๆ เร็ว ๆ...แป๊บเดียวน่าจะเสร็จมั้ง...”สถาปนิกเด็กจบใหม่ทั้ง 5 คนต่างมองหน้ากันเป็นครั้งที่ 2 ของวันนี้...และเป็นครั้งที่ 50 ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาทำงานที่นี่ ยังไม่ครบ 3 เดือนดีด้วยซ้ำ...แต่ก็ได้แค่มอง...
...ตัด mass model เสร็จราว ๆ 4 ทุ่ม...จัด เพลท present ขนาด A1 ที่มีภาพ 3 มิติ เขียนด้วยคอมพิวเตอร์อีกหลายแผ่น...เสร็จจริง ๆ เที่ยงคืนเศษ...
...การทำงานก็จบไปอีกวัน....ดูเหมือนหนักหน่วง แต่เป็นเรื่องปรกติธรรมดาเสียแล้วสำหรับที่นี่...

...9.00 น. วันรุ่งขึ้น ไม่มีใคร(เคย)มาสายเพราะจะโดนตำหนิ แบบเสีย ๆ หาย ๆ จากสถาปนิกผู้เจนจัดชีวิต...อาคารหลังใหม่ถูกออกแบบและ sketch แบบหยาบ ๆ จากสถาปนิกผู้เจนจัดชีวิต...เกมได้เริ่มต้นขึ้นใหม่ โดยที่สถาปนิกเด็กจบใหม่ 1 ใน 5 ถูกสวมบทบาทเป็น ตัวละครเอก < head project> เป็นคนรวบรวมงานหรือเขียนแบบเป็นหลัก (เยอะที่สุด)...ส่วนคนที่เหลือก็จะมีงานหลักอยู่แล้วคือเขียนแบบอาคารคนละ หลัง...พอจะส่งงาน..เร่งงาน ก็มาช่วยกันลงแขก...เป็นอย่างนี้ตลอด...เคยมีบางที งานอาคารตั้ง 7-8 ชั้นรวมงานวิศวกรรมทุกระบบ ใช้เวลาแค่ 3 วันก็ไปยื่นขออนุญาตได้...โอ้เคยมาแล้ว...เป็นไปแล้ว...

...เกือบ 3 เดือนเต็ม สถาปนิกเด็กจบใหม่ทั้ง 5 คน ได้อะไรและเสียอะไรไปเท่าไหร่...คิดเล่น ๆ ดูครับ...
“ได้...ประสบการณ์ราคาแสนแพง...ได้วิชาเขียนแบบเดิม ๆ และ detail ห่วยแตก...”
“เสีย...เสียบรรยากาศของมิตรภาพดี ๆ นอก office กับคนอื่น ๆ อาชีพอื่น ๆ สังคมอื่น ๆ ที่มีค่าและมีประโยชน์แก่อาชีพอย่างสถาปนิก..
...เสีย...ความตั้งใจ แรงทุ่มเท ซึ่งประเมินค่าไม่ได้กับบริษัทที่เอาเปรียบและเห็นแก้ตัวเช่นนี้...และ
...เสีย...เสียโอกาสดี ๆ กับบริษัทดี ๆ อีกหลาย ๆ บริษัทฯ..”
...ลองให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง...ถ้าใครได้เจอะเจอบริษัทฯ คล้าย ๆ อย่างนี้...ซึ่งผมเข้าใจเอาเองว่ามีอยู่จำนวนแค่น้อยนิด เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทออกแบบเอกชนที่มีอยู่...(หรือเปล่า...?)

...จำไว้ว่า...คนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อมาทำงานสถาปัตยกรรมอย่างเดียว หรอก...มีอะไรอีกเยอะที่เราต้องทำและควรที่จะทำ...อย่าให้บริษัทฯเยี่ยง นี้...มาทำลายความฝัน ทำลายความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อวิชาชีพ ...โดยอาศัยความอ่อนประสบการณ์ของเด็กจบใหม่....และ...หรืออะไรก็ตาม...
และ....อย่าให้ข้าวกล่อง...กล่องนั้นมาทำลายชีวิตเราอีกเลย...
...***ป็นเรื่องราวที่เกิดมานานหลายปีแล้ว...ทุกวันนี้มันกลายเป็นความหลัง ที่ต้องจำจด...เอาไว้อย่างดี...จนเมืออาทิตย์ที่แล้ว ผมเพิ่งได้รับข่าวจากการพูดคุยกับรุ่นน้องที่เพิ่งจบมา...ว่าประสบเหตุการณ์ คล้าย ๆ อย่างที่เล่าไป...ก็เลยเกิดความรู้สึกเก่า ๆ ไหลกลับมา...อย่างที่ห้ามไม่ได้...ก็เลยเขียนเล่าเพื่อระบายและฝากเตือนกับ ทุกคนที่บังเอิญผ่านเข้ามาอ่านเจอ...ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำ เล่า...จนบางทีผมเข้าใจเองว่า...มันเป็นเกณฑ์มาตรฐานการเริ่มทำงานครั้งแรก ๆ ของผู้ที่จบสาขาวิชานี้หรือเปล่า...(คงไม่เสมอไปหรอกใช่ไหมครับ...)บางทีการ เอาความรู้สึกที่เป็นเชิงพาณิชย์หรือแนวทางอุตสาหกรรม...ซึ่งเน้นปริมาณมา ใช้กับ office เล็ก ๆ ซึ่งมคนอยู่ไม่กี่คน...งานอาจจะเยอะจริง...เงินก็เยอะตาม...คุณภาพของชิ้น งานและความรู้สึกดีต่อวิชาชีพ,ความรู้สึกดีต่อเพื่อนมนุษย์...สิ่งนี้ต่าง หากที่พวกเขาลืมกัน...ขอบคุณประสบการณ์ราคาแพง...

.....................................................
ก็อปมาจากเวป asa ให้อ่านกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่