นั่งอ่านกระทู้นี้ "แลกกันหมัดต่อหมัด Malaysian Open vs Thailand Open"
http://pantip.com/topic/30965590 แล้วแอบเกิดอาการคัน อยากจะเม้าท์จากประสบการณ์ที่เคยเป็นเด็กหลังห้องคลุกคลีในอีเว้นท์ WTA กับ ATP ของเมืองไทยมาให้ชมสักเล็กน้อย
- แอนนา คูร์นิโคว่า ตอนนั้นเธอมาพัทยาด้วยความฮอทฮิตเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเป็น exhibition match แต่ก็สามารถเรียกแขกมาให้เต็มสนามได้ ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงแรมเธอจะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องพักตลอดเวลา เพราะช่วงนั้นมีข่าวคนโรคจิตจะตามเธอตลอด
- มาร์ติน่า ฮิงกิส ถึงแม้ว่าในปีนั้นจะเป็นทัวร์นาเม้นท์การกุศล หลังจากที่แขวนแร็กเก็ตไปหลายปีแล้ว แต่ฮิงกิสเป็นอดีตนักเทนนิสหญิงที่มือวางสูงสุดของโลกที่มาเล่นที่พัทยา เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ในเหยื่อสึนามิ ในปีก่อนหน้านั้น (สินามิ เดือนธันวาฯ, พัทยาโอเพ่น ปลายเดือนมกราฯ) ดูเธอดีใจที่ได้กลับมาเล่นในทัวร์นาเม้นท์อีกครั้งหนึ่ง เธอจะลงมาที่ห้องทัวร์นาเม้นท์บ่อยๆ ทักทายนักกีฬาคนนู้นคนนี้บ้าง ขอถ่ายรูปเธอๆ ก็จะให้ถ่ายโดนทันทีไม่มีปฎิเสธ ตอนเช้าๆ ก็จะมาซ้อมที่คอร์ท ตอนบ่ายๆ ก็จะไปจิบกาแฟ กับคนรู้จักใน WTA หลังจากจบที่พัทยาเธอเดินทางไปเยี่ยมเด็กๆ ที่ภูเก็ตต่อทันที ขอบอกเลยว่าชอบฮิงกิสมากๆ เลย
- คอนชิต้า มาร์ติเนซ ใครยังจำเธอได้บ้าง โดยส่วนตัวเคยได้ยินชื่อนี้สมัยเด็กๆ ในข่าวกีฬา เจ้าของแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอตัวจริงๆ แอบอิจฉาใช่ไหม แต่ไม่ได้เจอในคอร์ทนะ เจอในลิฟท์เลยแหล่ะ ฮ่ะฮ่า วันนี้ต้องไปรับเธอที่ดอนเมือง (สุวรรณภูมิยังไม่เกิด) พอเจอปุ๊ป ก็อ่ะ คุยกันนิดหน่อย แล้วเธอบอกว่า ขอขึ้นไป departure floor หน่อย ไปติดต่อเรื่องตั๋วบินกลับ ก็เลยขึ้นลิฟท์ไปด้วยกัน 2 คน ส่วนเพื่อนกับโค้ชเขารอข้างล่าง คือ พอขึ้นลิฟท์ไป มันก็แบบตื่นเต้นอ่ะ เราเลยบอกเขาว่า ผมตื่นเต้นมาก 555 เลยชวนคุยไปนิดหน่อยว่า มาเมืองไทยกี่ครั้งแล้ว มาร์ติเนซ บอกว่าสองครั้งแล้วหล่ะ มากรุงเทพฯ กับไปภูเก็ต แล้วถามต่อว่าชอบกินอะไรบ้าง .. "ข้าวผัดกับต้มยำกุ้ง" แล้วก็ยืนรอแปปนึงที่เคาน์เตอร์ เสร็จแล้วก็ลงมาส่งเธอไปพัทยาต่อ หลังจากนั้น 3-4 วันเราก็ตามไปพัทยา ในรอบชิงปีนั้น มาร์ติเนซ ได้แชมป์ด้วยอ่ะ พอเสร็จพิธีการมอบรางวัลเธอก็เดินมารับเช็คเงินรางวัล แล้วก็ดื่มเบียร์กระป๋องกับทีมงาน 2-3 คนเอง นั่นแหล่ะคือการฉลองแชมป์ของนักกีฬาระดับโลก ก็แอบเดินไปทักว่า จำเราได้ไหมที่สนามบิน 55 เธอจำได้ แต่หลังจากนั้นไปฉลองไหนต่อหรือเปล่าไม่รู้นะ หลังจากนั้น ไม่กี่เดือนเธอก็แขวนแร็กเก็ตไป และบันทึกไว้ว่าเธอได้แชมป์สุดท้ายในการเล่นอาชีพที่ "พัทยาโอเพ่น"
- ซโวนาเวร่า คนนี้มาพัทยาบ่อยมากทุกปีเลยก็ว่าได้ ขนาดเจ็บ เธอยังต้องมา เหมือนกับพัทยาโอเพ่นต้องคู่กับสาวรัสเซียน แต่รายนี้ชอบไปเดินเที่ยวซื้อของในพัทยา วันไหนว่างก็จะให้คนพาไปช้อปปิ้งประมาณนั้น ในสนามเธอดูเครียดเกินไป บางปีตีไปร้องไห้ไปก็มี แต่พอนอกสนามเธอเหมือนเด็กๆ ไนซ์ๆ ดี แต่ที่จะมาเล่าคือคุณแม่ของเวร่า เธอเดินทางมากรุงเทพฯ คนเดียวเพื่อมาดูลูกสาวแข่ง+มาเที่ยวประมาณนี้ เป็นคำขอร้องจากเวร่าให้ไปรับคุณแม่ให้หน่อย แต่ปัญหาคือ คุณแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยสักกะนิดเดียว (ตอนแรกไม่รู้) แต่เจอคุณแม่ของเธอเดินมา เราก็โอเค แปะโป้งกันแล้ว แต่เราบอกว่าจะรอนักกีฬาอีกคนเป็นรัสเซียนเหมือนกัน เลยพูดเป็นภาษาอังกฤษไป แต่เธอทำมือโบ้ยๆ แบบไม่รู้เรื่อง งานเข้าเลยเรา ก็เลยแบบยืนรอสักแปป เหมือนเธอจะเข้าใจนะ เราก็เอาชื่อนักกีฬารัสเซียนอีกคนให้คุณแม่เวร่าดู เธอทำไงรู้ป่ะ เธอเดินเข้าไปในเกท เพื่อไปดูให้ว่ามีนักกีฬาอีกคนหรือเปล่า สัก 10-15 นาที คุณแม่เธอก็เดินออกมา ทำมือแบบว่า ไม่มีนะ หาไม่เจอนะ เราแบบ เออน่ารักดีอ่ะ แต่จนแล้วจนรอดก็ยืนรอจนนักกีฬาอีกคนเดินออกมา คนที่เรายืนรอคือ voskoboeva
- มาริยง บาร์กโตลี่ มาพัทยาแทบทุกปีเหมือนกัน แต่เป็นอะไรที่ไม่ค่อยประทับใจกับตัวเธอเลย สมัยก่อนเธอมือ 30-40 ของโลก ก็ถือว่ายังไม่ดังมากเท่าไหร่ แต่เรื่องเยอะสุดๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะคุณพ่อของเธอที่เป็นหมอนั่นแหล่ะ ถ้าเราจำไม่ผิด เธอเป็นคนยิ้มยากมาก แต่พอยิ้มแล้วจะหน้าตาดีขึ้น เวลาอยู่ในทัวร์ จะต้องมีคนไทยแซวเธอว่า ยิ้มหน่อยๆ นั่นแหล่ะ ยิ้มแล้วสวยเห็นไหม 55 มีงี้ด้วยเนอะ สมัยก่อนเธอเหมือนวัลลาบีนิดๆ นะ ต้องแต่งตัวให้ฉูดฉาดกว่าคนอื่นๆ รองเท้าก็แบบสีสันสุดๆ เช่นกัน ดูแล้วเหมือนเรียกร้องความสนใจได้ทีเดียว มาพูดถึงความเยอะของคุณพ่อที่เป็นคุณหมอหน่อย คือแกชอบโวยวายนะ ต้องการได้ทุกสิ่ง เช่น เวลาลงจากเครื่องแล้วก็ต้องรีบออกจากสนามบิน มีรถไหม ต้องรีบไป เวลาต้องไปซ้อมอีกสนามหนึ่งก็โวยวายว่า ทำไมรถยังไม่มา นี่มันเวลาซ้อมแล้วนะ (คนขับรถนั่งกินข้าวอยู่ 55) แบบอารมณ์ประมาณว่าเยอะ ชอบโวยวายน่ะ แล้วภาษาอังกฤษแบบคนฝรั่งเศส ก็พูดรัวๆ ฟังยากนะ
ตอนนี้เอาเป็นน้ำจิ้มไปก่อนแล้วกัน มีนักกีฬาน่ารักหลายๆ คนเลยและก็ทำตัวโง่ๆ ก็เยอะเช่นกันโดยเฉพาะพวกดาวรุ่ง แต่ถ้าเทียบกับฝ่ายชายฝั่ง ATP แล้ว เรื่องราวอาจจะน้อยกว่า แต่ก็น่ารักไม่แพ้กันดูจริงใจกันมากกว่าด้วย ว่างๆ จะมาเม้าท์ต่อให้ฟังนะ
แอบมาเม้าท์นักกีฬาระดับโลก ที่เคยมาแข่งในประเทศไทย
- แอนนา คูร์นิโคว่า ตอนนั้นเธอมาพัทยาด้วยความฮอทฮิตเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเป็น exhibition match แต่ก็สามารถเรียกแขกมาให้เต็มสนามได้ ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงแรมเธอจะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องพักตลอดเวลา เพราะช่วงนั้นมีข่าวคนโรคจิตจะตามเธอตลอด
- มาร์ติน่า ฮิงกิส ถึงแม้ว่าในปีนั้นจะเป็นทัวร์นาเม้นท์การกุศล หลังจากที่แขวนแร็กเก็ตไปหลายปีแล้ว แต่ฮิงกิสเป็นอดีตนักเทนนิสหญิงที่มือวางสูงสุดของโลกที่มาเล่นที่พัทยา เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ในเหยื่อสึนามิ ในปีก่อนหน้านั้น (สินามิ เดือนธันวาฯ, พัทยาโอเพ่น ปลายเดือนมกราฯ) ดูเธอดีใจที่ได้กลับมาเล่นในทัวร์นาเม้นท์อีกครั้งหนึ่ง เธอจะลงมาที่ห้องทัวร์นาเม้นท์บ่อยๆ ทักทายนักกีฬาคนนู้นคนนี้บ้าง ขอถ่ายรูปเธอๆ ก็จะให้ถ่ายโดนทันทีไม่มีปฎิเสธ ตอนเช้าๆ ก็จะมาซ้อมที่คอร์ท ตอนบ่ายๆ ก็จะไปจิบกาแฟ กับคนรู้จักใน WTA หลังจากจบที่พัทยาเธอเดินทางไปเยี่ยมเด็กๆ ที่ภูเก็ตต่อทันที ขอบอกเลยว่าชอบฮิงกิสมากๆ เลย
- คอนชิต้า มาร์ติเนซ ใครยังจำเธอได้บ้าง โดยส่วนตัวเคยได้ยินชื่อนี้สมัยเด็กๆ ในข่าวกีฬา เจ้าของแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอตัวจริงๆ แอบอิจฉาใช่ไหม แต่ไม่ได้เจอในคอร์ทนะ เจอในลิฟท์เลยแหล่ะ ฮ่ะฮ่า วันนี้ต้องไปรับเธอที่ดอนเมือง (สุวรรณภูมิยังไม่เกิด) พอเจอปุ๊ป ก็อ่ะ คุยกันนิดหน่อย แล้วเธอบอกว่า ขอขึ้นไป departure floor หน่อย ไปติดต่อเรื่องตั๋วบินกลับ ก็เลยขึ้นลิฟท์ไปด้วยกัน 2 คน ส่วนเพื่อนกับโค้ชเขารอข้างล่าง คือ พอขึ้นลิฟท์ไป มันก็แบบตื่นเต้นอ่ะ เราเลยบอกเขาว่า ผมตื่นเต้นมาก 555 เลยชวนคุยไปนิดหน่อยว่า มาเมืองไทยกี่ครั้งแล้ว มาร์ติเนซ บอกว่าสองครั้งแล้วหล่ะ มากรุงเทพฯ กับไปภูเก็ต แล้วถามต่อว่าชอบกินอะไรบ้าง .. "ข้าวผัดกับต้มยำกุ้ง" แล้วก็ยืนรอแปปนึงที่เคาน์เตอร์ เสร็จแล้วก็ลงมาส่งเธอไปพัทยาต่อ หลังจากนั้น 3-4 วันเราก็ตามไปพัทยา ในรอบชิงปีนั้น มาร์ติเนซ ได้แชมป์ด้วยอ่ะ พอเสร็จพิธีการมอบรางวัลเธอก็เดินมารับเช็คเงินรางวัล แล้วก็ดื่มเบียร์กระป๋องกับทีมงาน 2-3 คนเอง นั่นแหล่ะคือการฉลองแชมป์ของนักกีฬาระดับโลก ก็แอบเดินไปทักว่า จำเราได้ไหมที่สนามบิน 55 เธอจำได้ แต่หลังจากนั้นไปฉลองไหนต่อหรือเปล่าไม่รู้นะ หลังจากนั้น ไม่กี่เดือนเธอก็แขวนแร็กเก็ตไป และบันทึกไว้ว่าเธอได้แชมป์สุดท้ายในการเล่นอาชีพที่ "พัทยาโอเพ่น"
- ซโวนาเวร่า คนนี้มาพัทยาบ่อยมากทุกปีเลยก็ว่าได้ ขนาดเจ็บ เธอยังต้องมา เหมือนกับพัทยาโอเพ่นต้องคู่กับสาวรัสเซียน แต่รายนี้ชอบไปเดินเที่ยวซื้อของในพัทยา วันไหนว่างก็จะให้คนพาไปช้อปปิ้งประมาณนั้น ในสนามเธอดูเครียดเกินไป บางปีตีไปร้องไห้ไปก็มี แต่พอนอกสนามเธอเหมือนเด็กๆ ไนซ์ๆ ดี แต่ที่จะมาเล่าคือคุณแม่ของเวร่า เธอเดินทางมากรุงเทพฯ คนเดียวเพื่อมาดูลูกสาวแข่ง+มาเที่ยวประมาณนี้ เป็นคำขอร้องจากเวร่าให้ไปรับคุณแม่ให้หน่อย แต่ปัญหาคือ คุณแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยสักกะนิดเดียว (ตอนแรกไม่รู้) แต่เจอคุณแม่ของเธอเดินมา เราก็โอเค แปะโป้งกันแล้ว แต่เราบอกว่าจะรอนักกีฬาอีกคนเป็นรัสเซียนเหมือนกัน เลยพูดเป็นภาษาอังกฤษไป แต่เธอทำมือโบ้ยๆ แบบไม่รู้เรื่อง งานเข้าเลยเรา ก็เลยแบบยืนรอสักแปป เหมือนเธอจะเข้าใจนะ เราก็เอาชื่อนักกีฬารัสเซียนอีกคนให้คุณแม่เวร่าดู เธอทำไงรู้ป่ะ เธอเดินเข้าไปในเกท เพื่อไปดูให้ว่ามีนักกีฬาอีกคนหรือเปล่า สัก 10-15 นาที คุณแม่เธอก็เดินออกมา ทำมือแบบว่า ไม่มีนะ หาไม่เจอนะ เราแบบ เออน่ารักดีอ่ะ แต่จนแล้วจนรอดก็ยืนรอจนนักกีฬาอีกคนเดินออกมา คนที่เรายืนรอคือ voskoboeva
- มาริยง บาร์กโตลี่ มาพัทยาแทบทุกปีเหมือนกัน แต่เป็นอะไรที่ไม่ค่อยประทับใจกับตัวเธอเลย สมัยก่อนเธอมือ 30-40 ของโลก ก็ถือว่ายังไม่ดังมากเท่าไหร่ แต่เรื่องเยอะสุดๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะคุณพ่อของเธอที่เป็นหมอนั่นแหล่ะ ถ้าเราจำไม่ผิด เธอเป็นคนยิ้มยากมาก แต่พอยิ้มแล้วจะหน้าตาดีขึ้น เวลาอยู่ในทัวร์ จะต้องมีคนไทยแซวเธอว่า ยิ้มหน่อยๆ นั่นแหล่ะ ยิ้มแล้วสวยเห็นไหม 55 มีงี้ด้วยเนอะ สมัยก่อนเธอเหมือนวัลลาบีนิดๆ นะ ต้องแต่งตัวให้ฉูดฉาดกว่าคนอื่นๆ รองเท้าก็แบบสีสันสุดๆ เช่นกัน ดูแล้วเหมือนเรียกร้องความสนใจได้ทีเดียว มาพูดถึงความเยอะของคุณพ่อที่เป็นคุณหมอหน่อย คือแกชอบโวยวายนะ ต้องการได้ทุกสิ่ง เช่น เวลาลงจากเครื่องแล้วก็ต้องรีบออกจากสนามบิน มีรถไหม ต้องรีบไป เวลาต้องไปซ้อมอีกสนามหนึ่งก็โวยวายว่า ทำไมรถยังไม่มา นี่มันเวลาซ้อมแล้วนะ (คนขับรถนั่งกินข้าวอยู่ 55) แบบอารมณ์ประมาณว่าเยอะ ชอบโวยวายน่ะ แล้วภาษาอังกฤษแบบคนฝรั่งเศส ก็พูดรัวๆ ฟังยากนะ
ตอนนี้เอาเป็นน้ำจิ้มไปก่อนแล้วกัน มีนักกีฬาน่ารักหลายๆ คนเลยและก็ทำตัวโง่ๆ ก็เยอะเช่นกันโดยเฉพาะพวกดาวรุ่ง แต่ถ้าเทียบกับฝ่ายชายฝั่ง ATP แล้ว เรื่องราวอาจจะน้อยกว่า แต่ก็น่ารักไม่แพ้กันดูจริงใจกันมากกว่าด้วย ว่างๆ จะมาเม้าท์ต่อให้ฟังนะ