หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
'วอร์เรน บัฟเฟตต์' เปรียบเฟด เป็นเฮดฟันด์ใหญ่สุดของโลก เหตุสามารถทำรายได้จากการซื้อขายพันธบัตรได้ปีละ 80-90 พันล้านดอลล์
กระทู้สนทนา
หุ้น
เศรษฐศาสตร์
เศรษฐกิจ
พันธบัตร
ตราสารหนี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ (20 ก.ย.56)
รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า 'วอร์เรน บัฟเฟตต์' มหาเศรษฐกิจผู้ก่อตั้งเบิร์กไชร์แฮทธาเวย์กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดเปรียบเสมือนกองทุนประกันความเสี่ยง หรือ เฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีความสามารถที่จะทำกำไรจากการซื้อขายพันธบัตร และสามารถรักษาขนาดของงบดุลไว้ได้กว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ 'เฟดเป็นเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมี เฟดสามารถหารายได้ได้ราว 80-90 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และไม่ใช่แค่เกิดขึ้นในช่วงไม่มีกี่มามานี้' นายบัฟเฟตต์กล่าวในการแสดงปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในกรุงวอชิงตันดีซีวานนี้ ในปีที่ผ่านมา เฟดนำเงินส่งคลังราว 88.4 พันล้านดอลลาร์ และการนำส่งเงินเพิ่มขึ้นอย่างมากอย่างต่อเนื่องนับแต่เฟดขยายงบดุลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 'เฟดไม่แรงกดดันอะไร สามารถลงทุนได้ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับการเลือกช่วงเวลาเท่านั้น หากมีคนฉลาดเฉียบแหลมอยู่ในนั้น ซึ่งผมคิดว่า เบอร์นันกีเป็นอย่างนั้น และแน่ใจว่า ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งต่อจากเขาก็เป็นเช่นนั้น ย่อมสามารถบริหารจัดการให้เกิดรายได้ได้มาก แต่การลงทุนของเฟด ด้วยขนาดทุนที่ใหญ่ ย่อมทำอะไรอย่างเงียบๆไม่ได้ จีงเป็นที่จ้องจับตาอยู่เสมอ' นายเบอร์นันกีกล่าว นอกจากนี้ นายบัฟเฟตต์ได้แสดงความชื่นชมนายเบอร์นันกีในการทำหน้าที่ช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินปี 2008 โดยการส่งสัญญาณว่า เฟดจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเงินตลาดทุน
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ถ้า เมกา ไม่ขยายเพดานหนี้ เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) จะเหลือหุ้นละ 0.01 สตางค์
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) บริษัทของวอร์เรน บัฟเฟตต์ จะเหลือหุ้นละ 0.01 สตางค์ เพราะเงินดอลลาร์ สหรัฐ (USD) จะกลายเป็นแบงค์กงเต๊ก พันธบัตรรัฐบาลเมกาคือกระดาษเช็ดก้น เศรษฐกิจจะพังทั่วโล
นักวิทยาศาสตร์ฝ่ายอธรรม
คนส่วนใหญ่ควรจะซื้อหน่วยลงทุนกองทุนอ้างอิงดัชนีตลาดหลักทรัพย์แทนการซื้อลงทุนซื้อหุ้นรายตัว
`วอร์เรน บัฟเฟตต์` คาด ศก.จ่อฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่อัตราการขยายตัวอาจอยู่ที่ระดับ 2% http://www.efinancethai.com/LastestNews/index.aspx?id=FXsxSaJcwAU=&year=2015&month=3&lang=T สำนักข่าวอีไ
สมาชิกหมายเลข 734572
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ เผย การซื้อหุ้นเทสโก้ ยักษ์ค้าปลีกอังกฤษคือ ความผิดพลาดใหญ่หลวง
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ เผย การซื้อหุ้นเทสโก้ ยักษ์ค้าปลีกอังกฤษคือ ความผิดพลาดใหญ่หลวง http://www.efinancethai.com/LastestNews/index.aspx?id=YSNGEINmVCo=&year=2014&month=10&lang=T สำนักข่าวอีไ
สมาชิกหมายเลข 717450
วอร์เรน บัฟเฟตต์(VI) vs ผจก.เฮดจ์ฟันด์(TA) สุดท้ายแล้วสาย TA แพ้ยับเยินในระยะยาว
https://pantip.com/topic/37276346 เอามาจากกระทู้ตัวเองครับ คห.15 คุณ Etoras งั้นก็แปลว่าเม่าหน้าใหม่ควรเลือกเดินทางสาย VI คือหนทางที่ยั่งยืนใช่ป่ะครับ ------ (อ่านสนุกๆนะครับ ผมไม่รู้ว่าเฮดจ์ฟันด์ เ
สมาชิกหมายเลข 4129559
"บัฟเฟตต์" เจ๊งหุ้น IBM วันเดียว 800 ล้านดอลล์
การดิ่งลงของราคาหุ้น IBM ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันอังคารโดยปิดตลาดร่วงลงไป 10.15 ดอลลาร์ หรือ 5.86% มาอยู่ที่ 163.07 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ออกมาไม่ประทับใจ ทำให้นายวอเรน บัฟเ
สมาชิกหมายเลข 1232818
วอร์เรน บัฟเฟตต์ มองว่าความร่ำรวยไม่ได้ทำให้เขามีความสุขมากขึ้น
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip วันนี้จะมาพูดถึงประเด็นเรื่องของความสุขและความรวยกันว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร &nbs
นักลงทุนไวไว
วอร์เรน บัฟเฟตต์ใช้PEมาเป็นตัวตัดสินในการลงทุนไหม
เคยไปอ่านเจอที่คุณ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยเขียนไว้ว่า "Common yardsticks such as dividend yield, the ratio of price to earnings or to book value, and even growth rates have nothing to do with valua
สมาชิกหมายเลข 1314285
Sliver จะไปถึง 60 ดอลลาร์ในปี 2025 หรือไม่?
นอกจากทองคำที่ร้อนแรง ยังมีสินทรัพย์ Sliver ที่นักลงทุนหลายๆ คนยังไม้ได้ให้ความสนใจ ซึ่งช่วงนี้ต้องบอกว่าสินทรัพย์โลหะมีค่า ถือเป็นสินทรัพย์ที่ควรมีไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยง ในช่วงความไม่แน่นอนสูงจากห
สมาชิกหมายเลข 4190046
สรุป 6 ประเด็นสำคัญ ‘วอร์เรน บัฟเฟต์’ ในวัย 94 ปี ลงจากตำแหน่ง CEO
นับว่าเป็นข่าวสุดช็อค หลัง ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ นักธุรกิจและนักลงทุน มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ประกาศลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท “เบิร์กเชียร์ ฮาธา
สมาชิกหมายเลข 8626505
"วอร์เรน บัฟเฟตต์" เจ้าพ่อหุ้นคุณค่า ประกาศวางมือจากตำแหน่ง CEO Berkshire
"วอร์เรน บัฟเฟตต์" เจ้าพ่อหุ้นคุณค่า ประกาศวางมือจากตำแหน่ง CEO เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ หลังบริหาร 60 ปี มอบไม้ผลัดให้เกรก อาเบล รับตำแหน่งสิ้นปี 2568 พร้อมรับมือความท้าทายในการบริหารกิจการมู
parn 256
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
หุ้น
เศรษฐศาสตร์
เศรษฐกิจ
พันธบัตร
ตราสารหนี้
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
'วอร์เรน บัฟเฟตต์' เปรียบเฟด เป็นเฮดฟันด์ใหญ่สุดของโลก เหตุสามารถทำรายได้จากการซื้อขายพันธบัตรได้ปีละ 80-90 พันล้านดอลล์
รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า 'วอร์เรน บัฟเฟตต์' มหาเศรษฐกิจผู้ก่อตั้งเบิร์กไชร์แฮทธาเวย์กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดเปรียบเสมือนกองทุนประกันความเสี่ยง หรือ เฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีความสามารถที่จะทำกำไรจากการซื้อขายพันธบัตร และสามารถรักษาขนาดของงบดุลไว้ได้กว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ 'เฟดเป็นเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมี เฟดสามารถหารายได้ได้ราว 80-90 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และไม่ใช่แค่เกิดขึ้นในช่วงไม่มีกี่มามานี้' นายบัฟเฟตต์กล่าวในการแสดงปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในกรุงวอชิงตันดีซีวานนี้ ในปีที่ผ่านมา เฟดนำเงินส่งคลังราว 88.4 พันล้านดอลลาร์ และการนำส่งเงินเพิ่มขึ้นอย่างมากอย่างต่อเนื่องนับแต่เฟดขยายงบดุลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 'เฟดไม่แรงกดดันอะไร สามารถลงทุนได้ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับการเลือกช่วงเวลาเท่านั้น หากมีคนฉลาดเฉียบแหลมอยู่ในนั้น ซึ่งผมคิดว่า เบอร์นันกีเป็นอย่างนั้น และแน่ใจว่า ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งต่อจากเขาก็เป็นเช่นนั้น ย่อมสามารถบริหารจัดการให้เกิดรายได้ได้มาก แต่การลงทุนของเฟด ด้วยขนาดทุนที่ใหญ่ ย่อมทำอะไรอย่างเงียบๆไม่ได้ จีงเป็นที่จ้องจับตาอยู่เสมอ' นายเบอร์นันกีกล่าว นอกจากนี้ นายบัฟเฟตต์ได้แสดงความชื่นชมนายเบอร์นันกีในการทำหน้าที่ช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินปี 2008 โดยการส่งสัญญาณว่า เฟดจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเงินตลาดทุน