19 กันยายน 2556 กสทช.เห็นชอบ (หลักการประกาศค่าICใหม่) (ค่าICคิดค่าโทรต่างโครงข่ายเช่นAISไปDTAC TRUE CAT ฯลฯ)จะนำต้นทุนค่าโครงข่าย และต้นทุนการเงินเข้ามาคำนวณตามหลักการสากลด้วย และนำไปคำนวณตามมาตรฐานใหม่ICกลาง
ประเด็นหลัก
นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.เรื่องมาตรฐานการคำนวนอัตราค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2556 ซึ่งสำนักงานกสทช.จะนำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยเนื้อหาร่างประกาศดังกล่าวเพื่อทดแทนประกาศฉบับเดิมที่ใช้งานมาหลายปี ซึ่งมีการนำมาตรฐานสากลเข้ามาปรับใช้ ทั้งนี้ประกาศฉบับแก้ไขจะต่างไปจากเดิมในประเด็นที่ จะนำต้นทุนค่าโครงข่าย และต้นทุนการเงินเข้ามาคำนวณตามหลักการสากลด้วย และนำไปคำนวณตามมาตรฐานใหม่เพื่อคิดค่าเชื่อมต่อโครงข่าย(ค่าไอซี) กลางต่อไปในอนาคต
ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้ในการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม พ.ศ. 2556 และให้สำนักงานกสทช.นำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยร่างประกาศดังกล่าวมีสาระสำคัญที่มีการแก้ไขจากร่างฉบับเดิมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขนาดกลางและย่อม จากเดิมเรียกเก็บจากผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยปรับเพิ่มเป็นต้องมีรายได้ 40 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งใครที่มีรายได้ไม่ถึง 40 ล้านบาทก็ไม่ได้ต้องเสียค่าธรรมเนียมดังกล่าว และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิม 50% และที่ประชุมยังเห็นชอบให้นำเงินรายได้จากการจำหน่ายซองการประมูลทีวีดิจิตอลเพื่อนำไปใช้จ่ายในการประมูลทีวีดิจิตอลในอนาคต ซึ่งมีรายได้จากการจำหน่ายซองตั้งแต่10-12 ก.ย.ที่ผ่านมารวมมูลค่า 49 ล้านบาท
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000118049
______________________________________
กสทช.จ่อไกล่เกลี่ยคู่กรณีฟ้องหมิ่นประมาท
กสทช.ระบุกรณีกทค.4คน เลขาธิการกสทช.ฟ้องนักวิชาการ-สื่อมวลชน สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ไม่ต้องจบลงที่ศาล พร้อมออกเกณฑ์ข้อบังคับการฟ้องร้องต่อไป
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดกสทช. เมื่อวันที่ 18 ก.ย. มีการพิจารณาในประเด็นบอร์ดกทค.ทั้ง 4 คน และเลขาธิการกสทช. ร่วมกันฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาท น.ส.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และ น.ส.ณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
โดยล่าสุดบอร์ดกทค.4คน และเลขาธิการกสทช.ระบุว่าการฟ้องร้องในคดีหมิ่นประมาทดังกล่าวสามารถยอมความได้ และในตอนนี้ได้มีการติดต่อจากผู้ถูกฟ้องซึ่งมีความประสงค์ จะเข้ามาเจรจากับบอร์ดกทค.ทั้ง 4 คน โดยคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะจบลงในการเจรจาครั้งนี้ และจะได้ไม่ต้องเป็นเรื่องเป็นราวในชั้นศาลต่อไป
ที่ประชุมยังมีข้อตกลงร่วมกันกรณีการฟ้องร้องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 3 แนวทางคือ 1.หากคณะกรรมการกสทช.จะดำเนินการฟ้องร้องในนามกสทช.ได้นั้นจะต้องขอมติในที่ประชุมกสทช.ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการฟ้องร้องได้ 2.หากสำนักงานกสทช.จะฟ้องร้องสามารถดำเนินการฟ้องได้ทันที เพียงแต่ต้องแจ้งเพื่อทราบในที่ประชุมกสทช.เท่านั้น และ3.หากคณะกรรมการกสทช.จะฟ้องร้องในฐานะส่วนบุคคลก็สามารถดำเนินการได้ทันทีเช่นเดียวกัน
ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบในร่างประกาศกสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์พ.ศ. ... และยังเห็นชอบร่างประกาศกสทช.เรื่องการอนุญาตให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมระบบเรดาร์ที่ใช้ติดตั้งในรถยนต์ และร่างประกาศกสทช. เรื่อง มาตรฐานทางเทคนิคของเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์สำหรับเครื่องวิทยุคมนาคมระบบเรดาห์ที่ใช้ติดตั้งในรถยนต์ โดยขั้นตอนต่อไปจะนำไปเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ(ประชาพิจารณ์)
นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.เรื่องมาตรฐานการคำนวนอัตราค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2556 ซึ่งสำนักงานกสทช.จะนำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยเนื้อหาร่างประกาศดังกล่าวเพื่อทดแทนประกาศฉบับเดิมที่ใช้งานมาหลายปี ซึ่งมีการนำมาตรฐานสากลเข้ามาปรับใช้ ทั้งนี้ประกาศฉบับแก้ไขจะต่างไปจากเดิมในประเด็นที่ จะนำต้นทุนค่าโครงข่าย และต้นทุนการเงินเข้ามาคำนวณตามหลักการสากลด้วย และนำไปคำนวณตามมาตรฐานใหม่เพื่อคิดค่าเชื่อมต่อโครงข่าย(ค่าไอซี) กลางต่อไปในอนาคต
ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้ในการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม พ.ศ. 2556 และให้สำนักงานกสทช.นำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยร่างประกาศดังกล่าวมีสาระสำคัญที่มีการแก้ไขจากร่างฉบับเดิมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขนาดกลางและย่อม จากเดิมเรียกเก็บจากผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยปรับเพิ่มเป็นต้องมีรายได้ 40 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งใครที่มีรายได้ไม่ถึง 40 ล้านบาทก็ไม่ได้ต้องเสียค่าธรรมเนียมดังกล่าว และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิม 50% และที่ประชุมยังเห็นชอบให้นำเงินรายได้จากการจำหน่ายซองการประมูลทีวีดิจิตอลเพื่อนำไปใช้จ่ายในการประมูลทีวีดิจิตอลในอนาคต ซึ่งมีรายได้จากการจำหน่ายซองตั้งแต่10-12 ก.ย.ที่ผ่านมารวมมูลค่า 49 ล้านบาท
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000118049
กสทช.เห็นชอบ (หลักการประกาศค่าICใหม่) จะนำต้นทุนค่าโครงข่าย และต้นทุนหลักการสากลด้วย และนำไปคำนวณตามมาตรฐานใหม่ICกลาง
ประเด็นหลัก
นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.เรื่องมาตรฐานการคำนวนอัตราค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2556 ซึ่งสำนักงานกสทช.จะนำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยเนื้อหาร่างประกาศดังกล่าวเพื่อทดแทนประกาศฉบับเดิมที่ใช้งานมาหลายปี ซึ่งมีการนำมาตรฐานสากลเข้ามาปรับใช้ ทั้งนี้ประกาศฉบับแก้ไขจะต่างไปจากเดิมในประเด็นที่ จะนำต้นทุนค่าโครงข่าย และต้นทุนการเงินเข้ามาคำนวณตามหลักการสากลด้วย และนำไปคำนวณตามมาตรฐานใหม่เพื่อคิดค่าเชื่อมต่อโครงข่าย(ค่าไอซี) กลางต่อไปในอนาคต
ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้ในการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม พ.ศ. 2556 และให้สำนักงานกสทช.นำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยร่างประกาศดังกล่าวมีสาระสำคัญที่มีการแก้ไขจากร่างฉบับเดิมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขนาดกลางและย่อม จากเดิมเรียกเก็บจากผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยปรับเพิ่มเป็นต้องมีรายได้ 40 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งใครที่มีรายได้ไม่ถึง 40 ล้านบาทก็ไม่ได้ต้องเสียค่าธรรมเนียมดังกล่าว และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิม 50% และที่ประชุมยังเห็นชอบให้นำเงินรายได้จากการจำหน่ายซองการประมูลทีวีดิจิตอลเพื่อนำไปใช้จ่ายในการประมูลทีวีดิจิตอลในอนาคต ซึ่งมีรายได้จากการจำหน่ายซองตั้งแต่10-12 ก.ย.ที่ผ่านมารวมมูลค่า 49 ล้านบาท
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000118049
______________________________________
กสทช.จ่อไกล่เกลี่ยคู่กรณีฟ้องหมิ่นประมาท
กสทช.ระบุกรณีกทค.4คน เลขาธิการกสทช.ฟ้องนักวิชาการ-สื่อมวลชน สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ไม่ต้องจบลงที่ศาล พร้อมออกเกณฑ์ข้อบังคับการฟ้องร้องต่อไป
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดกสทช. เมื่อวันที่ 18 ก.ย. มีการพิจารณาในประเด็นบอร์ดกทค.ทั้ง 4 คน และเลขาธิการกสทช. ร่วมกันฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาท น.ส.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และ น.ส.ณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
โดยล่าสุดบอร์ดกทค.4คน และเลขาธิการกสทช.ระบุว่าการฟ้องร้องในคดีหมิ่นประมาทดังกล่าวสามารถยอมความได้ และในตอนนี้ได้มีการติดต่อจากผู้ถูกฟ้องซึ่งมีความประสงค์ จะเข้ามาเจรจากับบอร์ดกทค.ทั้ง 4 คน โดยคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะจบลงในการเจรจาครั้งนี้ และจะได้ไม่ต้องเป็นเรื่องเป็นราวในชั้นศาลต่อไป
ที่ประชุมยังมีข้อตกลงร่วมกันกรณีการฟ้องร้องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 3 แนวทางคือ 1.หากคณะกรรมการกสทช.จะดำเนินการฟ้องร้องในนามกสทช.ได้นั้นจะต้องขอมติในที่ประชุมกสทช.ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการฟ้องร้องได้ 2.หากสำนักงานกสทช.จะฟ้องร้องสามารถดำเนินการฟ้องได้ทันที เพียงแต่ต้องแจ้งเพื่อทราบในที่ประชุมกสทช.เท่านั้น และ3.หากคณะกรรมการกสทช.จะฟ้องร้องในฐานะส่วนบุคคลก็สามารถดำเนินการได้ทันทีเช่นเดียวกัน
ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบในร่างประกาศกสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์พ.ศ. ... และยังเห็นชอบร่างประกาศกสทช.เรื่องการอนุญาตให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมระบบเรดาร์ที่ใช้ติดตั้งในรถยนต์ และร่างประกาศกสทช. เรื่อง มาตรฐานทางเทคนิคของเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์สำหรับเครื่องวิทยุคมนาคมระบบเรดาห์ที่ใช้ติดตั้งในรถยนต์ โดยขั้นตอนต่อไปจะนำไปเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ(ประชาพิจารณ์)
นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.เรื่องมาตรฐานการคำนวนอัตราค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2556 ซึ่งสำนักงานกสทช.จะนำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยเนื้อหาร่างประกาศดังกล่าวเพื่อทดแทนประกาศฉบับเดิมที่ใช้งานมาหลายปี ซึ่งมีการนำมาตรฐานสากลเข้ามาปรับใช้ ทั้งนี้ประกาศฉบับแก้ไขจะต่างไปจากเดิมในประเด็นที่ จะนำต้นทุนค่าโครงข่าย และต้นทุนการเงินเข้ามาคำนวณตามหลักการสากลด้วย และนำไปคำนวณตามมาตรฐานใหม่เพื่อคิดค่าเชื่อมต่อโครงข่าย(ค่าไอซี) กลางต่อไปในอนาคต
ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้ในการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม พ.ศ. 2556 และให้สำนักงานกสทช.นำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยร่างประกาศดังกล่าวมีสาระสำคัญที่มีการแก้ไขจากร่างฉบับเดิมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขนาดกลางและย่อม จากเดิมเรียกเก็บจากผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยปรับเพิ่มเป็นต้องมีรายได้ 40 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งใครที่มีรายได้ไม่ถึง 40 ล้านบาทก็ไม่ได้ต้องเสียค่าธรรมเนียมดังกล่าว และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิม 50% และที่ประชุมยังเห็นชอบให้นำเงินรายได้จากการจำหน่ายซองการประมูลทีวีดิจิตอลเพื่อนำไปใช้จ่ายในการประมูลทีวีดิจิตอลในอนาคต ซึ่งมีรายได้จากการจำหน่ายซองตั้งแต่10-12 ก.ย.ที่ผ่านมารวมมูลค่า 49 ล้านบาท
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000118049