ที่มา :
http://www.naewna.com/business/279998
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือTOT ได้เข้าพบ พร้อมนำร่างสัญญาในการเป็นคู่ค้าการให้บริการไร้สายบนคลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ระหว่าง ทีโอที และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ที่จะเปิดให้บริการไร้สาย 4G LTE
อย่างไรก็ตาม ร่างสัญญาดังกล่าวทีโอที ได้นำมาทั้งร่างสัญญาการให้บริการด้านเทคนิค และสัญญาการประกอบธุรกิจ ซึ่งขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ สำนักงาน กสทช.จะต้องตรวจสอบถึงความถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย และการใช้คลื่นความถี่ด้านเทคนิค
ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จ หากอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ(บอร์ดกสทช.) จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาในครั้งต่อไป ซึ่งจะมีการประชุมอีก 2 สัปดาห์ แต่หากไม่อยู่ในอำนาจบอร์ดกสทช. ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุม
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ในการตรวจสอบสัญญา คณะทำงานการตรวจสอบสัญญาทีโอทีคลื่น 2300 MHz ได้ตรวจสอบสัญญาคู่ค้าของทีโอที ที่เสนอมาก่อนหน้านี้แล้วพบว่า สัญญาดังกล่าว ยังติดปัญหาในด้านกฎหมาย และการใช้งานคลื่นความถี่ด้านเทคนิค ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสัญญา
นอกจากนี้ การใช้งานคลื่นความถี่ 2300 MHz ติดปัญหาเรื่องสิทธิแห่งทางการใช้คลื่นความถี่ให้แก่คู่สัญญา ซึ่งไม่ใช่เจ้าของคลื่นความถี่ ซึ่งหากทีโอที แสดงได้ว่ามีสิทธิแห่งทางการใช้คลื่นความถี่ และไม่ไปทับเส้นทางการใช้งานคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการรายอื่นก็สามารถให้บริการได้
ก่อนหน้านี้ ดีแทค บรรลุในข้อตกลงการเป็นคู่ค้าในสัญญาเช่าคลื่น 2300MHz จาก บริษัท ทีโอที คาดทำสัญญาในไตรมาส4ของปีนี้
มีรายงานแจ้งว่าเงื่อนไขที่ทาง ดีแทค เสนอเข้ามาให้กับ ทีโอที ประกอบด้วย ดีแทคจะเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างสถานีฐานจำนวน 20,000 กว่าแห่งทั่วประเทศเพื่อให้ ทีโอที เช่าใช้งาน
นอกจากนี้ ดีแทคจะจ่ายผลตอบแทนคงที่ให้กับ ทีโอที จำนวนปีละ 4,510ล้านบาท เป็นระยะเวลา 8 ปี
ขณะที่ บริษัทลูกของดีแทค บริษัทเทเลเอสเสท จำกัด จะให้เช่าเครื่องและอุปกรณ์โทรคมนาคมและรับจ้างบำรุงรักษาโครงข่ายให้แก่ ทีโอที ภายใต้เงื่อนไขจะต้องมีการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ใช้งาน 80% ขณะที่ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด จะรับซื้อความจุโครงข่าย 60% ของความจุโครงข่ายทั้งหมด
'ทีโอที'ลุ้นกสทช.ไฟเขียวสัญญาคู่ค้า'ดีแทค'ลุยมือถือ 4G
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือTOT ได้เข้าพบ พร้อมนำร่างสัญญาในการเป็นคู่ค้าการให้บริการไร้สายบนคลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ระหว่าง ทีโอที และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ที่จะเปิดให้บริการไร้สาย 4G LTE
อย่างไรก็ตาม ร่างสัญญาดังกล่าวทีโอที ได้นำมาทั้งร่างสัญญาการให้บริการด้านเทคนิค และสัญญาการประกอบธุรกิจ ซึ่งขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ สำนักงาน กสทช.จะต้องตรวจสอบถึงความถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย และการใช้คลื่นความถี่ด้านเทคนิค
ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จ หากอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ(บอร์ดกสทช.) จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาในครั้งต่อไป ซึ่งจะมีการประชุมอีก 2 สัปดาห์ แต่หากไม่อยู่ในอำนาจบอร์ดกสทช. ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุม
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ในการตรวจสอบสัญญา คณะทำงานการตรวจสอบสัญญาทีโอทีคลื่น 2300 MHz ได้ตรวจสอบสัญญาคู่ค้าของทีโอที ที่เสนอมาก่อนหน้านี้แล้วพบว่า สัญญาดังกล่าว ยังติดปัญหาในด้านกฎหมาย และการใช้งานคลื่นความถี่ด้านเทคนิค ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสัญญา
นอกจากนี้ การใช้งานคลื่นความถี่ 2300 MHz ติดปัญหาเรื่องสิทธิแห่งทางการใช้คลื่นความถี่ให้แก่คู่สัญญา ซึ่งไม่ใช่เจ้าของคลื่นความถี่ ซึ่งหากทีโอที แสดงได้ว่ามีสิทธิแห่งทางการใช้คลื่นความถี่ และไม่ไปทับเส้นทางการใช้งานคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการรายอื่นก็สามารถให้บริการได้
ก่อนหน้านี้ ดีแทค บรรลุในข้อตกลงการเป็นคู่ค้าในสัญญาเช่าคลื่น 2300MHz จาก บริษัท ทีโอที คาดทำสัญญาในไตรมาส4ของปีนี้
มีรายงานแจ้งว่าเงื่อนไขที่ทาง ดีแทค เสนอเข้ามาให้กับ ทีโอที ประกอบด้วย ดีแทคจะเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างสถานีฐานจำนวน 20,000 กว่าแห่งทั่วประเทศเพื่อให้ ทีโอที เช่าใช้งาน
นอกจากนี้ ดีแทคจะจ่ายผลตอบแทนคงที่ให้กับ ทีโอที จำนวนปีละ 4,510ล้านบาท เป็นระยะเวลา 8 ปี
ขณะที่ บริษัทลูกของดีแทค บริษัทเทเลเอสเสท จำกัด จะให้เช่าเครื่องและอุปกรณ์โทรคมนาคมและรับจ้างบำรุงรักษาโครงข่ายให้แก่ ทีโอที ภายใต้เงื่อนไขจะต้องมีการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ใช้งาน 80% ขณะที่ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด จะรับซื้อความจุโครงข่าย 60% ของความจุโครงข่ายทั้งหมด