ฟังดูอาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไหร่ ว่าละครช่อง 7 มันมากระทบต่อการเข้ารอบของวอลเล่ย์บอลไทยได้อย่างไร
แต่จริงๆแล้วมันเกี่ยวพันกันอย่างที่สุด
เริ่มต้น จะเห็นว่าทีมไทยแข่งเวลา 14.00 น. ของทุกวัน ซึ่งถ้าไปดูเวลาที่ประเทศที่เขี้ยวทั้งในและนอกสนาม เช่น ญี่ปุ่น จัดการแข่งขัน
เค้าจะให้ทีมลงเล่นเป็นคู่สุดท้ายของวัน เริ่มประมาณ 6 โมงเย็น เหตุผลหนึ่งคือให้แฟนๆที่เรียนหรือทำงาน สามารถเข้ามาเชียร์ที่สนามได้
อีกเหตุผลนึงคือ ได้รู้ว่าผลการแข่งขันคู่อื่นๆเป็นอย่างไร จะได้วางแผนลงทำการแข่งขัน และรักษาความได้เปรียบสูงสุด
พอมาจัดเมืองไทย ซึ่งช่อง 7 ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ถ้าแข่งช่วงเย็น มันก็จะไปติดเวลาของละครซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเค้า
แต่ถ้าไม่ถ่ายทอดสด ก็จะโดนแฟนวอลเล่ย์ด่าประนามเอาได้ เลยเป็นที่มาของ โปรแกรมการแข่งขันที่จัดให้ทีมไทยมาเล่นเวลา 14.00 น.
ถ้าดูโปรแกรมวันนี้จะเห็นว่า 14.00 ไทยต้องเจอเวียดนามก่อน ซึ่งเราต้องเล่นเต็มกำลังเพื่อเก็บผล 3-0 และแต้มขาดลอยก่อน
ญี่ปุ่นเล่นเป็นคู่ถัดมา 16.30 ซึ่งเค้าสามารถคำนวณได้เลยว่าอยากจะเล่นเต็มแค่ไหน ในการเลือกอันดับเข้ารอบ 1-2-3 หรืออย่างน้อยสามารถตัดสินใจเลือกพักผู้เล่นหลักได้
ต่อมา 19.00 จีนเจอกับเกาหลี เห็นผลของ Pool E เรียบร้อย คราวนี้เลือกได้เลยว่าอยากเจอใครหลบใคร
กลับกันถ้าไทยแข่งเป็นคู่สุดท้าย อย่างน้อยถ้าเรารู้ ผลการแข่งญี่ปุ่น-คาซัคก่อน โค้ชอาจสามารถเลือกพักตัวผู้เล่นบางคนที่เริ่มมีอาการบาดเจ็บ
ไม่ต้องถึงกับจัดเต็มกับเวียดนาม เอาแค่ชนะก็พอ ไม่ต้องชนะขาด 3-0 ก็ได้ เป็นต้น
จริงอยู่ที่ว่าถ้าเราหวังแชมป์ต้องชนะให้ได้ทุกทีม แต่การรักษาความได้เปรียบสูงสุดในฐานะเจ้าภาพ กลับหมดไป
ปล. ผมไม่ได้ต้องการกล่าวโทษใคร หรือละครนะครับ เพียงเป็นความคิดเห็นต่อโปรแกรมการแข่งขัน
เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ละครช่อง 7 กระทบต่อการเข้ารอบของวอลเล่ย์บอลไทย
แต่จริงๆแล้วมันเกี่ยวพันกันอย่างที่สุด
เริ่มต้น จะเห็นว่าทีมไทยแข่งเวลา 14.00 น. ของทุกวัน ซึ่งถ้าไปดูเวลาที่ประเทศที่เขี้ยวทั้งในและนอกสนาม เช่น ญี่ปุ่น จัดการแข่งขัน
เค้าจะให้ทีมลงเล่นเป็นคู่สุดท้ายของวัน เริ่มประมาณ 6 โมงเย็น เหตุผลหนึ่งคือให้แฟนๆที่เรียนหรือทำงาน สามารถเข้ามาเชียร์ที่สนามได้
อีกเหตุผลนึงคือ ได้รู้ว่าผลการแข่งขันคู่อื่นๆเป็นอย่างไร จะได้วางแผนลงทำการแข่งขัน และรักษาความได้เปรียบสูงสุด
พอมาจัดเมืองไทย ซึ่งช่อง 7 ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ถ้าแข่งช่วงเย็น มันก็จะไปติดเวลาของละครซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเค้า
แต่ถ้าไม่ถ่ายทอดสด ก็จะโดนแฟนวอลเล่ย์ด่าประนามเอาได้ เลยเป็นที่มาของ โปรแกรมการแข่งขันที่จัดให้ทีมไทยมาเล่นเวลา 14.00 น.
ถ้าดูโปรแกรมวันนี้จะเห็นว่า 14.00 ไทยต้องเจอเวียดนามก่อน ซึ่งเราต้องเล่นเต็มกำลังเพื่อเก็บผล 3-0 และแต้มขาดลอยก่อน
ญี่ปุ่นเล่นเป็นคู่ถัดมา 16.30 ซึ่งเค้าสามารถคำนวณได้เลยว่าอยากจะเล่นเต็มแค่ไหน ในการเลือกอันดับเข้ารอบ 1-2-3 หรืออย่างน้อยสามารถตัดสินใจเลือกพักผู้เล่นหลักได้
ต่อมา 19.00 จีนเจอกับเกาหลี เห็นผลของ Pool E เรียบร้อย คราวนี้เลือกได้เลยว่าอยากเจอใครหลบใคร
กลับกันถ้าไทยแข่งเป็นคู่สุดท้าย อย่างน้อยถ้าเรารู้ ผลการแข่งญี่ปุ่น-คาซัคก่อน โค้ชอาจสามารถเลือกพักตัวผู้เล่นบางคนที่เริ่มมีอาการบาดเจ็บ
ไม่ต้องถึงกับจัดเต็มกับเวียดนาม เอาแค่ชนะก็พอ ไม่ต้องชนะขาด 3-0 ก็ได้ เป็นต้น
จริงอยู่ที่ว่าถ้าเราหวังแชมป์ต้องชนะให้ได้ทุกทีม แต่การรักษาความได้เปรียบสูงสุดในฐานะเจ้าภาพ กลับหมดไป
ปล. ผมไม่ได้ต้องการกล่าวโทษใคร หรือละครนะครับ เพียงเป็นความคิดเห็นต่อโปรแกรมการแข่งขัน