Ka-50 "Black Shark" เมื่อประสิทธิภาพไม่ได้การันตีความสำเร็จ
เฮลิคอปเตอร์ Kamov Ka-50 "Black Shark" (ฉลามดำ) เป็นเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่นั่งเดี่ยวของรัสเซีย โดดเด่นด้วยระบบใบพัดแกนร่วมหมุนสวนทางกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวและทำให้สามารถทำท่าผาดโผนได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติการลำแรกของโลกที่มีระบบดีดตัวเพื่อช่วยชีวิตนักบิน
การพัฒนาและรุ่นที่สำคัญ
ต้นกำเนิด: พัฒนาจากต้นแบบ V-80Sh-1 ได้รับการอนุมัติการผลิตในปี 1987 และเข้าประจำการในกองทัพรัสเซียปี 1995
Ka-50-2 "Erdogan": รุ่นสองที่นั่งที่พัฒนาขึ้นร่วมกับอิสราเอล เพื่อเข้าแข่งขันในโครงการเฮลิคอปเตอร์โจมตีของตุรกี แต่ไม่ได้รับเลือก
Ka-52 "Alligator": รุ่นสองที่นั่งแบบเคียงข้างกันที่ได้รับการพัฒนาเพื่อทำภารกิจลาดตระเวนและประสานงานการโจมตี มีระบบเรดาร์และระบบเล็งเป้าที่ทันสมัยกว่า Ka-50
Ka-52 "Nile Crocodile": รุ่นส่งออกสำหรับอียิปต์ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างและระบบอิเล็กทรอนิกส์การบินให้เหมาะสมกับการปฏิบัติงานในสภาพอากาศร้อน รวมถึงมีระบบป้องกันตัวเองและระบบเล็งเป้าที่อัปเกรด
Ka-52K "Katran": รุ่นสำหรับกองทัพเรือ โดยมีใบพัดและปีกที่สามารถพับได้เพื่อจัดเก็บในเรือบรรทุก และมีแผนจะติดตั้งเรดาร์และขีปนาวุธใหม่
Ka-52M: รุ่นอัปเกรดใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงหลายส่วน เช่น ระบบเล็งเป้า, ล้อลงจอด, การใช้งานร่วมกับกล้องมองกลางคืน และสามารถใช้อาวุธใหม่ได้
คุณสมบัติเด่นและการออกแบบ
ระบบใบพัด: ระบบแกนร่วมหมุนสวนทางทำให้ไม่ต้องมีใบพัดหาง ช่วยลดการสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ และทำให้เฮลิคอปเตอร์มีความคล่องตัวสูง
การป้องกัน: ห้องนักบินหุ้มเกราะอย่างดีเพื่อป้องกันกระสุนขนาด 12.7 มม. และสะเก็ดระเบิดขนาด 23 มม. ใบพัดสามารถทนทานต่อการถูกยิงจากอาวุธปืนอัตโนมัติได้
ระบบดีดตัว: เป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นแรกที่มีระบบดีดตัว K-37-800 โดยใบพัดจะถูกระเบิดทิ้งก่อนที่นักบินจะดีดตัวออก
อาวุธยุทโธปกรณ์: มีปืนใหญ่อัตโนมัติ Shipunov 2A42 ขนาด 30 มม. ติดตั้งด้านข้างพร้อมกระสุน 460 นัด และมีจุดติดตั้งอาวุธใต้ปีก 4 จุด (รวมถึงที่ปลายปีก 2 จุด) สำหรับบรรทุกขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีด้วยเลเซอร์ เช่น Vikhr และ Ataka รวมถึงจรวดชนิดต่างๆ
ประวัติการปฏิบัติงาน
สงครามเชเชนครั้งที่สอง: Ka-50 ถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มกบฏในเชชเนียเป็นครั้งแรกในปี 2001 โดยได้พิสูจน์ประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ภูเขา
สงครามกลางเมืองซีเรีย: Ka-52 ถูกนำไปใช้สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย รวมถึงการคุ้มกันฐานทัพและการค้นหาและกู้ภัย
สงครามรัสเซีย-ยูเครน: เฮลิคอปเตอร์ Ka-52 ถูกนำไปใช้อย่างหนักในความขัดแย้งนี้และได้พิสูจน์ว่าเป็นระบบอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงในการโจมตีภาคพื้นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยขีปนาวุธ LMUR ที่มีระยะโจมตีไกลถึง 15 กม. ทำให้สามารถโจมตีได้นอกระยะการป้องกันทางอากาศของยูเครน อย่างไรก็ตาม ก็มีการสูญเสียจำนวนมากจากขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบพกพา (MANPADS) และจรวด
Ka-50 "Black Shark" เมื่อประสิทธิภาพไม่ได้การันตีความสำเร็จ
การพัฒนาและรุ่นที่สำคัญ
ต้นกำเนิด: พัฒนาจากต้นแบบ V-80Sh-1 ได้รับการอนุมัติการผลิตในปี 1987 และเข้าประจำการในกองทัพรัสเซียปี 1995
Ka-50-2 "Erdogan": รุ่นสองที่นั่งที่พัฒนาขึ้นร่วมกับอิสราเอล เพื่อเข้าแข่งขันในโครงการเฮลิคอปเตอร์โจมตีของตุรกี แต่ไม่ได้รับเลือก
Ka-52 "Alligator": รุ่นสองที่นั่งแบบเคียงข้างกันที่ได้รับการพัฒนาเพื่อทำภารกิจลาดตระเวนและประสานงานการโจมตี มีระบบเรดาร์และระบบเล็งเป้าที่ทันสมัยกว่า Ka-50
Ka-52 "Nile Crocodile": รุ่นส่งออกสำหรับอียิปต์ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างและระบบอิเล็กทรอนิกส์การบินให้เหมาะสมกับการปฏิบัติงานในสภาพอากาศร้อน รวมถึงมีระบบป้องกันตัวเองและระบบเล็งเป้าที่อัปเกรด
Ka-52K "Katran": รุ่นสำหรับกองทัพเรือ โดยมีใบพัดและปีกที่สามารถพับได้เพื่อจัดเก็บในเรือบรรทุก และมีแผนจะติดตั้งเรดาร์และขีปนาวุธใหม่
Ka-52M: รุ่นอัปเกรดใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงหลายส่วน เช่น ระบบเล็งเป้า, ล้อลงจอด, การใช้งานร่วมกับกล้องมองกลางคืน และสามารถใช้อาวุธใหม่ได้
คุณสมบัติเด่นและการออกแบบ
ระบบใบพัด: ระบบแกนร่วมหมุนสวนทางทำให้ไม่ต้องมีใบพัดหาง ช่วยลดการสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ และทำให้เฮลิคอปเตอร์มีความคล่องตัวสูง
การป้องกัน: ห้องนักบินหุ้มเกราะอย่างดีเพื่อป้องกันกระสุนขนาด 12.7 มม. และสะเก็ดระเบิดขนาด 23 มม. ใบพัดสามารถทนทานต่อการถูกยิงจากอาวุธปืนอัตโนมัติได้
ระบบดีดตัว: เป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นแรกที่มีระบบดีดตัว K-37-800 โดยใบพัดจะถูกระเบิดทิ้งก่อนที่นักบินจะดีดตัวออก
อาวุธยุทโธปกรณ์: มีปืนใหญ่อัตโนมัติ Shipunov 2A42 ขนาด 30 มม. ติดตั้งด้านข้างพร้อมกระสุน 460 นัด และมีจุดติดตั้งอาวุธใต้ปีก 4 จุด (รวมถึงที่ปลายปีก 2 จุด) สำหรับบรรทุกขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีด้วยเลเซอร์ เช่น Vikhr และ Ataka รวมถึงจรวดชนิดต่างๆ
ประวัติการปฏิบัติงาน
สงครามเชเชนครั้งที่สอง: Ka-50 ถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มกบฏในเชชเนียเป็นครั้งแรกในปี 2001 โดยได้พิสูจน์ประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ภูเขา
สงครามกลางเมืองซีเรีย: Ka-52 ถูกนำไปใช้สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย รวมถึงการคุ้มกันฐานทัพและการค้นหาและกู้ภัย
สงครามรัสเซีย-ยูเครน: เฮลิคอปเตอร์ Ka-52 ถูกนำไปใช้อย่างหนักในความขัดแย้งนี้และได้พิสูจน์ว่าเป็นระบบอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงในการโจมตีภาคพื้นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยขีปนาวุธ LMUR ที่มีระยะโจมตีไกลถึง 15 กม. ทำให้สามารถโจมตีได้นอกระยะการป้องกันทางอากาศของยูเครน อย่างไรก็ตาม ก็มีการสูญเสียจำนวนมากจากขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบพกพา (MANPADS) และจรวด