“พี่เบ๊นซ์ คนงานเก็บแบร์ผูกคอตาย “ น้อง ม ทักแชทมาขณะที่ดิฉันกำลังจะเข้านอน เลยได้โทรคุยกันยาว
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนี้มีคนงานไทยมาเก็บแบร์(ผลไม้ป่า ) ที่มณทลที่น้อง ม อยู่ราว 500 คน มาโดยบริษัทจัดหางานของนายทุน แล้วเกิดมีปัญหากับบริษัทฯ หลายกระแสบอกว่า ในการทำงานได้มีการแบ่งคนงานไทยมีการแบ่งออกเป็นกลุ่ม แล้วบางกลุ่มเก็บได้แอบเอาไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่เข้าบริษัท ทำให้บริษัทไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ที่แน่ที่สุด บริษัทจัดงานได้ลอยแพ คนงานทั้งหมดแล้ว
ปัญหาที่เกิดอยู่ตอนนี้คือ คนงานไทยทั้งหมด ไม่ได้เก็บแบร์แล้ว ไม่มีพาสปอร์ตเพราะบริษัทเป็นคนยึดเก็บไว้ ไม่มีเงินจะกิน ไม่มีตั๋วจะกลับบ้าน ทำให้ต้องตั้งแคมป์ประท้วง พวกเขาตอนนี้อยู่ได้ด้วยคนไทย แม่บ้านไทย คนที่ตั้งถิ่นฐานที่เมืองนั้น ทำอาหารไปช่วยกันในฐานะคนไทยด้วยกัน และน้อง ม เองก็เป็น 1 ในนั้น
ม เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้กำลังไปช่วยพี่คนไทยอีกคนทำอาหารเลี้ยงที่แคมป์ แล้วก็มีเสียงร้องตะโกน ว่ามีคนผูกคอตายในห้องน้ำ วิ่งไปดู พบว่า มีคน พยายามบอก ปิดประตูไว้อย่างนั้นอย่าเปิด แต่ทุกคนบอก เปิดออกมา เอาเขาลงมา หลายเสียงชนะ เมื่อเปิดประตูออกและช่วยลงมา ม บอกสภาพลุงเขาคอพับ เลือดไหลออกจากปาก ช่วยกันปั๊มหัวใจ และไม่นานเท่าไหร่ ตำรวจก็มาถึงพร้อมกับรถพยาบาล นำส่งลุงไปโรงพยาบาล
ดิฉันอยู่สวีเดนมาสิบกว่าปี ได้ยินได้รับรู้ปัญหาเรื่องคนงานไทยมาเก็บแบร์ทุกปี ในรูปแบบต่างๆ บางปีก็ลง หนังสือพิมพ์ว่า คนงานเก็บได้เอาเงินเข้าบริษัท และเจ้าของบริษัทเชิ่ดเงินหนีไป เคยมีน้องคนไทยทำงานที่สนามบิน เล่าว่าเคยต้องไปเป็นล่ามจำเป็น ให้กับคนงานไทย ที่เกิดอาการคุ้มคลั่งไม่ยอมขึ้นเครื่อง และตะโกนว่า กลับไปทำไม กลับไปก็ไม่มีเงินไปใช้หนี้ จนน้องต้องปลอบให้ใจเย็นๆและเตือนสติให้คิดถึงคนที่บ้าน สงบลง กัปตันจึงให้ขึ้นเครื่อง
บางปี มาแล้ว ไม่มีแบร์ให้เก็บ เพราะ ผลไม้ป่าเหล่านี้ เราไม่สามารถบอกได้เลยปีไหนจะเยอะ ปีไหนจะน้อย แล้วแต่ดวง ปีนี้ยอมรับว่า แบร์เยอะมาก คิดในใจว่า เออ คนงานที่มา ปีนี้คงไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วมันก็เกิดขึ้น
คนงานส่วนใหญ่ได้รับการบอกเล่า มาเก็บเหอะ ได้เงินเป็นแสน ได้มาเที่ยวต่างประเทศด้วยนะ ทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสิน จ่ายค่าหัว จ่ายค่าเครื่องบินและมาอยู่สภาพนอนในตู้คอนเทนเนอร์ ทำงานตั้งแต่ ตี 3 ยัน สามทุ่ม (หน้าร้อน สวีเดนจะสว่างเร็วและมืดช้า) การเก็บแบร์นี่เคยถามคนทำนาข้าว แล้ว เขาบอก ทำนายังสบายกว่า เพราะ ก้มปัก ยังมีจังหวะได้พักได้เงย แต่ตักแบร์ ลักษณะคือ ผลไม้ป่ามันแนบติดอยู่กับพื้นเราต้องก้มตักๆๆ ตลอด
หลังจากคุยกับน้อง ม เสร็จ ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเดินในบ้านตัวเองที่มีเครื่องความร้อน ก็ยังหนาวเย็นเป็นบางจุด ทำให้หวนคิดไปถึงคนงานที่ตั้งแคมป์ ไม่มีเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่พวกเขาคาดว่าจะได้อยู่ยาวนานจนต้องมาเผชิญกับอากาศอันเริ่มหนาวเย็นของสวีเดน คิดถึงลุงแกตัดสินใจปลิดชีวิตเพราะหาทางออกไม่ได้ เลยทำให้อยากเขียนบทความเพื่อเตือนสติคนไทยที่จะคิดมาเก็บแบร์ปีหน้าว่า อย่ามาเลย นอกเสียจากคิดว่า มาเล่นๆสนุกๆ ได้มาดูสวีเดนในหน้าร้อน และไม่ได้คาดหวังที่จะได้เงินถุงเงินถังจากการเก็บแบร์
ล่าสุด จากการอัพเดทข่าว ลุงตอนนี้ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว เย็นนี้ ม กับพี่ๆ คนไทยท้องถิ่นจะไปเยี่ยมจะไปให้กำลังใจลุง และก็จะทำหน้าที่ส่งเสบียงไปให้คนงานไทยทั้งหมดที่กำลังประสบปัญหาเช่นเคย แต่คนงานไทยเหล่านั้นจะทำยังไงต่อไปกับชีวิต กับ สภาพอากาศที่หนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ พาสปอร์ตก็ยังไม่มี ตั๋วก็ยังไม่มีกลับ และหนี้สินก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม หรืออาจจะมากขึ้นกว่าเดิมจากดอกเบี้ย ...
http://www.vk.se/981337/barplockare-ford-till-sjukhus 
คนงานไทยมาเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดนตัดสินใจปลิดชีพหลังจากโดนบริษัทจัดหางานลอยแพ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนี้มีคนงานไทยมาเก็บแบร์(ผลไม้ป่า ) ที่มณทลที่น้อง ม อยู่ราว 500 คน มาโดยบริษัทจัดหางานของนายทุน แล้วเกิดมีปัญหากับบริษัทฯ หลายกระแสบอกว่า ในการทำงานได้มีการแบ่งคนงานไทยมีการแบ่งออกเป็นกลุ่ม แล้วบางกลุ่มเก็บได้แอบเอาไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่เข้าบริษัท ทำให้บริษัทไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ที่แน่ที่สุด บริษัทจัดงานได้ลอยแพ คนงานทั้งหมดแล้ว
ปัญหาที่เกิดอยู่ตอนนี้คือ คนงานไทยทั้งหมด ไม่ได้เก็บแบร์แล้ว ไม่มีพาสปอร์ตเพราะบริษัทเป็นคนยึดเก็บไว้ ไม่มีเงินจะกิน ไม่มีตั๋วจะกลับบ้าน ทำให้ต้องตั้งแคมป์ประท้วง พวกเขาตอนนี้อยู่ได้ด้วยคนไทย แม่บ้านไทย คนที่ตั้งถิ่นฐานที่เมืองนั้น ทำอาหารไปช่วยกันในฐานะคนไทยด้วยกัน และน้อง ม เองก็เป็น 1 ในนั้น
ม เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้กำลังไปช่วยพี่คนไทยอีกคนทำอาหารเลี้ยงที่แคมป์ แล้วก็มีเสียงร้องตะโกน ว่ามีคนผูกคอตายในห้องน้ำ วิ่งไปดู พบว่า มีคน พยายามบอก ปิดประตูไว้อย่างนั้นอย่าเปิด แต่ทุกคนบอก เปิดออกมา เอาเขาลงมา หลายเสียงชนะ เมื่อเปิดประตูออกและช่วยลงมา ม บอกสภาพลุงเขาคอพับ เลือดไหลออกจากปาก ช่วยกันปั๊มหัวใจ และไม่นานเท่าไหร่ ตำรวจก็มาถึงพร้อมกับรถพยาบาล นำส่งลุงไปโรงพยาบาล
ดิฉันอยู่สวีเดนมาสิบกว่าปี ได้ยินได้รับรู้ปัญหาเรื่องคนงานไทยมาเก็บแบร์ทุกปี ในรูปแบบต่างๆ บางปีก็ลง หนังสือพิมพ์ว่า คนงานเก็บได้เอาเงินเข้าบริษัท และเจ้าของบริษัทเชิ่ดเงินหนีไป เคยมีน้องคนไทยทำงานที่สนามบิน เล่าว่าเคยต้องไปเป็นล่ามจำเป็น ให้กับคนงานไทย ที่เกิดอาการคุ้มคลั่งไม่ยอมขึ้นเครื่อง และตะโกนว่า กลับไปทำไม กลับไปก็ไม่มีเงินไปใช้หนี้ จนน้องต้องปลอบให้ใจเย็นๆและเตือนสติให้คิดถึงคนที่บ้าน สงบลง กัปตันจึงให้ขึ้นเครื่อง
บางปี มาแล้ว ไม่มีแบร์ให้เก็บ เพราะ ผลไม้ป่าเหล่านี้ เราไม่สามารถบอกได้เลยปีไหนจะเยอะ ปีไหนจะน้อย แล้วแต่ดวง ปีนี้ยอมรับว่า แบร์เยอะมาก คิดในใจว่า เออ คนงานที่มา ปีนี้คงไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วมันก็เกิดขึ้น
คนงานส่วนใหญ่ได้รับการบอกเล่า มาเก็บเหอะ ได้เงินเป็นแสน ได้มาเที่ยวต่างประเทศด้วยนะ ทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสิน จ่ายค่าหัว จ่ายค่าเครื่องบินและมาอยู่สภาพนอนในตู้คอนเทนเนอร์ ทำงานตั้งแต่ ตี 3 ยัน สามทุ่ม (หน้าร้อน สวีเดนจะสว่างเร็วและมืดช้า) การเก็บแบร์นี่เคยถามคนทำนาข้าว แล้ว เขาบอก ทำนายังสบายกว่า เพราะ ก้มปัก ยังมีจังหวะได้พักได้เงย แต่ตักแบร์ ลักษณะคือ ผลไม้ป่ามันแนบติดอยู่กับพื้นเราต้องก้มตักๆๆ ตลอด
หลังจากคุยกับน้อง ม เสร็จ ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเดินในบ้านตัวเองที่มีเครื่องความร้อน ก็ยังหนาวเย็นเป็นบางจุด ทำให้หวนคิดไปถึงคนงานที่ตั้งแคมป์ ไม่มีเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่พวกเขาคาดว่าจะได้อยู่ยาวนานจนต้องมาเผชิญกับอากาศอันเริ่มหนาวเย็นของสวีเดน คิดถึงลุงแกตัดสินใจปลิดชีวิตเพราะหาทางออกไม่ได้ เลยทำให้อยากเขียนบทความเพื่อเตือนสติคนไทยที่จะคิดมาเก็บแบร์ปีหน้าว่า อย่ามาเลย นอกเสียจากคิดว่า มาเล่นๆสนุกๆ ได้มาดูสวีเดนในหน้าร้อน และไม่ได้คาดหวังที่จะได้เงินถุงเงินถังจากการเก็บแบร์
ล่าสุด จากการอัพเดทข่าว ลุงตอนนี้ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว เย็นนี้ ม กับพี่ๆ คนไทยท้องถิ่นจะไปเยี่ยมจะไปให้กำลังใจลุง และก็จะทำหน้าที่ส่งเสบียงไปให้คนงานไทยทั้งหมดที่กำลังประสบปัญหาเช่นเคย แต่คนงานไทยเหล่านั้นจะทำยังไงต่อไปกับชีวิต กับ สภาพอากาศที่หนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ พาสปอร์ตก็ยังไม่มี ตั๋วก็ยังไม่มีกลับ และหนี้สินก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม หรืออาจจะมากขึ้นกว่าเดิมจากดอกเบี้ย ...
http://www.vk.se/981337/barplockare-ford-till-sjukhus