สวัสดีครับ ขอบคุณผู้มีความรู้ทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านนะครับ

คือเมื่อวานนี้ผมโดนไฟดูดที่บริเวณลานจอดรถ ข้างสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง)นะครับ ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของการรถไฟครับ ซึ่งได้ให้บริษัทเอกชนมาเช่าทำเป็นที่จอดรถ จนหมดสัญญาเช่าไปหลายปีแล้ว แต่ก็ยังเปิดบริการมาเรื่อยๆ ข้อมูลตรงนี้ ตำรวจที่ประจำตรงป้อมนั้น เล่าให้ผมฟังครับ เขายังบอกอีกว่า มีคนโดนดูดมาแล้วเป็น10ราย แต่ไม่มีใครกล้าเอาเรื่อง เพราะกลัวเสียเวลา กลัวการฟ้องร้อง เขาจึงสนับสนุนผมให้ฟ้องร้อง เพื่อให้เขาได้ปรับปรุงพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมา เมื่อมีคนโดนดูดแล้วแจ้งไป ก็ได้รับคำตอบแค่ว่า เดี๋ยวให้ช่างไปดู แล้วทำการตัดไฟแค่นั้น จากนั้นก็เปิดไฟใช้ได้ตามเดิม

ตำรวจท่านนั้น จึงพาผมไปลงบันทึกประจำวัน ที่สน.นพวงศ์ครับ จากนั้นแนะนำให้ผมไปตรวจที่รพ. ผมไป ที่ รพ.จุฬา หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ พบว่าปกติ ความดันก็ปกติดี มีเพียงแผลไฟไหม้ที่มือซ้าย กับจุดพุพองนิดหน่อย จึงทำแผลให้ แล้วจ่ายยาแก้ปวดกับยาลดไข้ครับ
พอรักษาเสร็จ ผมกลับไปที่หัวลำโพง เจอตำรวจท่านเดิม เขาแนะนำให้ผมเอาเรื่องครับ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก มันอันตรายมากจริงๆนะครับ ตอนผมโดน ผมคิดว่าตายแน่ๆ ผมโดนไปแค่ประมาณ5วินาที ผมยังมีแผลไฟไหม้เลยครับ ตอนนั้น รู้สึกตัวหดเกร็ง ขนลุกทั้งตัวเลยครับ ตำรวจแนะนำให้ผมติดต่อร้อยเวร เพื่อนัดคู่กรณี ซึ่งในที่นี้ ตำรวจมองว่าเป็นบริษัทเอกชนหรือผู้รับเหมา ให้มาไกล่เกลี่ยนที่โรงพัก แต่ผมมองว่า คู่กรณีที่แท้จริงคือการรถไฟมากกว่า ผมควรเรียกร้องจากการรถไฟแล้วให้การรถไฟไปเคลียร์กับผู้รับเหมาอีกที อันนี้ท่านผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรครับ?

อีกอย่าง ผมควรจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดไหมครับ ผมเองเป็นคนต่างจังหวัด เข้ามาอยู่กรงเทพเพียงลำพัง หาเช้ากินค่ำไปวันๆ นะครับ ผมไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อน ผมเกรงว่าเรื่องนี้มันจะใหญ่ขึ้นเกินกว่าที่จะรับไหว หากถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ผมคงไม่มีปัญญาว่าจ้างทนาย ไปสู้เขาหรอกครับ แต่ผมก็เป็นห่วงคนบ้านนอกเหมือนกันที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร แล้วมาโดนไฟดูดในเมืองหลวงนะครับ