และแล้วก็ถึงวันที่ 15 ก.ย. หรือวันที่ทรูมูฟ หมดสัญญากับ กสท และหลายฝ่ายห่วงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซิมดับ
สิ่งที่เกิดขึ้นคือทาง กสทช. ได้อนุญาตให้มีการขยายช่วงระยะเวลาไปอีก 1 ปี เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกที่จะย้ายค่ายด้วยตนเอง
โดยให้ทางทรูมูฟ ประชาสัมพันธ์ว่า ตอนนี้หมดสัมปทานแล้ว ถึงเวลาที่ผู้บริโภคจะต้องแจ้งความจำนงค์ในการย้ายเครือข่ายผู้ให้บริการ
ไม่เช่นนั้นเมื่อหมดช่วงระยะเวลาชดเชย 1 ปี ตามที่กสทช. กำหนด ซิมการ์ดที่ใช้อยู่จะไม่สามารถใช้งานได้
แต่ในความเป็นจริงวิธีการที่ทางทรูมูฟ เลือกคือการย้ายลูกค้าทรูมูฟเดิม ไปยังทรูมูฟ เอช โดยอัตโนมัติ และอ้างว่า การหมดสัมปทานไม่เคยมีกรณีศึกษามาก่อน การกระทำดังกล่าวจึงไม่ผิด
ซึ่งตามกฏของกสทช. น.พ.ประวิทย์ ได้ออกมาให้ความเห็นว่า หลักเกณฑ์การย้ายค่ายเบอร์เดิม ต้องให้ผู้ใช้เป็นคนแจ้งไปโดยสมัครใจ ในจุดนี้ก็ต้องรอดูกันว่าความเคลื่อนไหวของกสทช. จะเป็นอย่างไรต่อไป
แต่ถ้ามองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ตอนที่ทางทรูมูฟ เอช ซื้อ CAT CDMA ถ้าจำกันได้ ก็มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ไม่ย้ายไปใช้งานทรูมูฟ เอช แล้วก็ปิดการให้บริการเมื่อหมดสัญญาทันที
กลับกันในส่วนของการย้ายค่ายมาใช้ 2.1 GHz ในปัจจุบัน ทั้งเอไอเอส และ ดีแทค ก็เปิดให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์ในการย้ายค่ายก่อน ก็ไม่มีการย้ายแบบอัตโนมัติเหมือนของทรูมูฟ
เช่นเดียวกันลูกค้าของ ดีพีซี ที่ใช้คลื่น 1800 MHz ของเอไอเอส ก็ยังมีใช้งานอยู่ในระบบอยู่เช่นกัน แต่ทางเอไอเอส ก็เลือกที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ว่าเมื่อหมดช่วงเวลาที่กำหนด ก็จะปิดระบบ ถ้าอยากใช้ต่อก็ให้ย้ายค่ายซะ ไม่งั้นจะใช้งานไม่ได้
ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นในฝั่งของผู้ใช้งานทรูมูฟก็คือ การที่โดนย้ายไปทรูมูฟ เอช อัตโนมัติ แล้วบังคับให้ใช้งานต่อไปอีก 90 วัน เพราะถือว่าเป็นการย้ายเครือข่ายมา
โดยเปลี่ยนโปรโมชันจากเดิมที่ใช้งาน แล้วรู้สึกว่าไม่คุ้มก็ย้ายออกไม่ได้
แล้วถ้าจำกัดได้ลูกค้าที่ใช้บริการในกลุ่มทรูเยอะๆจะมีโบนัสสะสมอยู่ในหมายเลขโทรศัพท์ ตัวโบนัสดังกล่าวก็หายไป
ปล.ถ้าจะบังคับย้ายอัตโนมัติแบบนี้ ให้กสทช. เอาคลื่น 1800 MHz ไปประมูลเลยไม่ดีกว่าหรอ จะได้ไม่ต้องไปฟ้องนักวิชาการด้วยว่ากรณีไม่ประมูลคลื่น 1800 ชาติจะเสียหายเท่าไหร่
กรณีศึกษา - ทรูมูฟย้ายลูกค้าอัตโนมัติ ใครเสียประโยชน์รวมตัวกันร้องเรียนดีกว่าครับ
สิ่งที่เกิดขึ้นคือทาง กสทช. ได้อนุญาตให้มีการขยายช่วงระยะเวลาไปอีก 1 ปี เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกที่จะย้ายค่ายด้วยตนเอง
โดยให้ทางทรูมูฟ ประชาสัมพันธ์ว่า ตอนนี้หมดสัมปทานแล้ว ถึงเวลาที่ผู้บริโภคจะต้องแจ้งความจำนงค์ในการย้ายเครือข่ายผู้ให้บริการ
ไม่เช่นนั้นเมื่อหมดช่วงระยะเวลาชดเชย 1 ปี ตามที่กสทช. กำหนด ซิมการ์ดที่ใช้อยู่จะไม่สามารถใช้งานได้
แต่ในความเป็นจริงวิธีการที่ทางทรูมูฟ เลือกคือการย้ายลูกค้าทรูมูฟเดิม ไปยังทรูมูฟ เอช โดยอัตโนมัติ และอ้างว่า การหมดสัมปทานไม่เคยมีกรณีศึกษามาก่อน การกระทำดังกล่าวจึงไม่ผิด
ซึ่งตามกฏของกสทช. น.พ.ประวิทย์ ได้ออกมาให้ความเห็นว่า หลักเกณฑ์การย้ายค่ายเบอร์เดิม ต้องให้ผู้ใช้เป็นคนแจ้งไปโดยสมัครใจ ในจุดนี้ก็ต้องรอดูกันว่าความเคลื่อนไหวของกสทช. จะเป็นอย่างไรต่อไป
แต่ถ้ามองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ตอนที่ทางทรูมูฟ เอช ซื้อ CAT CDMA ถ้าจำกันได้ ก็มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ไม่ย้ายไปใช้งานทรูมูฟ เอช แล้วก็ปิดการให้บริการเมื่อหมดสัญญาทันที
กลับกันในส่วนของการย้ายค่ายมาใช้ 2.1 GHz ในปัจจุบัน ทั้งเอไอเอส และ ดีแทค ก็เปิดให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์ในการย้ายค่ายก่อน ก็ไม่มีการย้ายแบบอัตโนมัติเหมือนของทรูมูฟ
เช่นเดียวกันลูกค้าของ ดีพีซี ที่ใช้คลื่น 1800 MHz ของเอไอเอส ก็ยังมีใช้งานอยู่ในระบบอยู่เช่นกัน แต่ทางเอไอเอส ก็เลือกที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ว่าเมื่อหมดช่วงเวลาที่กำหนด ก็จะปิดระบบ ถ้าอยากใช้ต่อก็ให้ย้ายค่ายซะ ไม่งั้นจะใช้งานไม่ได้
ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นในฝั่งของผู้ใช้งานทรูมูฟก็คือ การที่โดนย้ายไปทรูมูฟ เอช อัตโนมัติ แล้วบังคับให้ใช้งานต่อไปอีก 90 วัน เพราะถือว่าเป็นการย้ายเครือข่ายมา
โดยเปลี่ยนโปรโมชันจากเดิมที่ใช้งาน แล้วรู้สึกว่าไม่คุ้มก็ย้ายออกไม่ได้
แล้วถ้าจำกัดได้ลูกค้าที่ใช้บริการในกลุ่มทรูเยอะๆจะมีโบนัสสะสมอยู่ในหมายเลขโทรศัพท์ ตัวโบนัสดังกล่าวก็หายไป
ปล.ถ้าจะบังคับย้ายอัตโนมัติแบบนี้ ให้กสทช. เอาคลื่น 1800 MHz ไปประมูลเลยไม่ดีกว่าหรอ จะได้ไม่ต้องไปฟ้องนักวิชาการด้วยว่ากรณีไม่ประมูลคลื่น 1800 ชาติจะเสียหายเท่าไหร่