ใครก็ตามที่ติดตามบรรยากาศในการประชุมของสมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการประชุมเพื่อพิจารณา
ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นการประชุมเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึก “ร่วม” ลึกๆ ประการหนึ่ง
คือ ความรู้สึกของบุคคลที่อยู่ในพรมแดนของ “ผู้แพ้” ไม่ว่าจะมาจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ไม่ว่าจะมาจาก ส.ว.กลุ่ม 40
เป็นความรู้สึกหดหู่และเศร้าหมอง
ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับก็คือ หากมองจากสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เป็นเสียงส่วนน้อย
หากมองจากวุฒิสภา กลุ่ม 40 ส.ว.ก็เป็นจำนวนอันน้อยนิด
แปลกอย่างยิ่งที่ทั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งกลุ่ม 40 ส.ว.มองสภาพทางการเมืองในเชิงสถิต
หยุดนิ่ง ไม่เปลี่ยนแปลง คือ เคยแพ้อย่างไรก็จะต้องแพ้อยู่อย่างนั้น
หมดโอกาสเป็น “ผู้ชนะ”
บรรยากาศอภิปรายต้านร่างพ.ร.บ.รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับที่มาของ
ส.ว.สะท้อนความรู้สึกของ “ผู้แพ้” อย่างเด่นชัด
1 ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง ส.ว.
พวกเขายังเห็นความยอดเยี่ยม ล้ำเลิศ ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ที่กำหนดให้
มี 7 อรหันต์มีบทบาทในการแต่งตั้ง ส.ว.ประเภทสรรหา
ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งมาจากประชาชน สะท้อนอำนาจประชาชน
1 พวกเขาฟันธงว่าการเลือกตั้งจะทำให้หลีกไม่พ้นไปจากอิทธิพลของพรรคการเมือง
และเป็นพรรคการเมืองในฝ่ายของรัฐบาล ทั้งๆ ที่มีพรรคประชาธิปัตย์อยู่
เท่ากับชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะแพ้ตลอดกาล
ทั้งๆ ที่ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่ากลุ่ม 40 ส.ว.ต่างแสดงตัวตนออกมาว่าเป็น
นักการเมืองฝ่ายคนดี เป็น ส.ว.ฝ่ายคุณภาพ
แต่กลับไม่เชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชน
1 ไม่เชื่อว่าความดีมีพลานุภาพ 1 ไม่เชื่อว่าพลานุภาพแห่งความดีไม่ว่าของตน
หรือไม่ว่าที่ดำรงอยู่ในสังคมจะสามารถกำหนดทิศทางประเทศได้ในทางเป็นจริง
ในอีกด้านแสดงถึงความไม่เชื่อมั่นต่อประชาชนและพลังของประชาชน
ในอีกด้านแสดงถึงความรู้สึกที่ดูถูกประชาชน มองเห็นว่าที่ประชาชนเลือก
พรรคการเมืองอื่น เลือกคนอื่น มิใช่ตนเป็นเพราะความโง่เง่าของประชาชน
เป็นเพราะประชาชนตกใต้อำนาจเงิน
เห็นแต่ความโง่ มองไม่เห็นความล้ำเลิศ
หากพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจในอานุภาพแห่งธรรม หากกลุ่ม 40 ส.ว.มั่นใจในอานุภาพแห่งธรรม
ย่อมไม่จำเป็นต้องไปปกป้องคุ้มครองรัฐธรรมนูญอันเป็นเครื่องมือของนักรัฐประหาร
ย่อมไม่หวั่นเกรงต่อแนวทางในการเลือกตั้งของประชาชนอันเป็นเครื่องแสดงอำนาจของประชาชน
ประชาธิปไตย ประชาชนเป็นใหญ่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM09EazVOekE1Tmc9PQ==§ionid=
หากใครจะเห็นแย้งก็ว่ามาได้เลย ไม่ได้เจตนา ด่ามาร์ค อวยปู บูชาแม้ว
แค่แปะบทวิเคราะห์ ของสื่อ ที่ใครๆ ก็กล่าวหาว่าเป็นสีแดง หากไม่เห็นด้วย
ก็อยากได้มุมมองที่หลากหลาย ที่แตกต่างจาก ที่สื่อเขามอง อย่าเอาแต่ ด่าทอ
เสียดสี ถากถาง มันไม่ได้ทำให้ ประเทืองปัญญา ... ขึ้นมาเลย
สำนึก การเมือง สำนึก ของฝ่าย “ขี้แพ้” สำนึก “เลือกตั้ง” ....... วิเคราะห์ ... ข่าวสดออนไลน์
ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นการประชุมเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึก “ร่วม” ลึกๆ ประการหนึ่ง
คือ ความรู้สึกของบุคคลที่อยู่ในพรมแดนของ “ผู้แพ้” ไม่ว่าจะมาจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ไม่ว่าจะมาจาก ส.ว.กลุ่ม 40
เป็นความรู้สึกหดหู่และเศร้าหมอง
ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับก็คือ หากมองจากสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เป็นเสียงส่วนน้อย
หากมองจากวุฒิสภา กลุ่ม 40 ส.ว.ก็เป็นจำนวนอันน้อยนิด
แปลกอย่างยิ่งที่ทั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งกลุ่ม 40 ส.ว.มองสภาพทางการเมืองในเชิงสถิต
หยุดนิ่ง ไม่เปลี่ยนแปลง คือ เคยแพ้อย่างไรก็จะต้องแพ้อยู่อย่างนั้น
หมดโอกาสเป็น “ผู้ชนะ”
บรรยากาศอภิปรายต้านร่างพ.ร.บ.รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับที่มาของ
ส.ว.สะท้อนความรู้สึกของ “ผู้แพ้” อย่างเด่นชัด
1 ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง ส.ว.
พวกเขายังเห็นความยอดเยี่ยม ล้ำเลิศ ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ที่กำหนดให้
มี 7 อรหันต์มีบทบาทในการแต่งตั้ง ส.ว.ประเภทสรรหา
ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งมาจากประชาชน สะท้อนอำนาจประชาชน
1 พวกเขาฟันธงว่าการเลือกตั้งจะทำให้หลีกไม่พ้นไปจากอิทธิพลของพรรคการเมือง
และเป็นพรรคการเมืองในฝ่ายของรัฐบาล ทั้งๆ ที่มีพรรคประชาธิปัตย์อยู่
เท่ากับชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะแพ้ตลอดกาล
ทั้งๆ ที่ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่ากลุ่ม 40 ส.ว.ต่างแสดงตัวตนออกมาว่าเป็น
นักการเมืองฝ่ายคนดี เป็น ส.ว.ฝ่ายคุณภาพ
แต่กลับไม่เชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชน
1 ไม่เชื่อว่าความดีมีพลานุภาพ 1 ไม่เชื่อว่าพลานุภาพแห่งความดีไม่ว่าของตน
หรือไม่ว่าที่ดำรงอยู่ในสังคมจะสามารถกำหนดทิศทางประเทศได้ในทางเป็นจริง
ในอีกด้านแสดงถึงความไม่เชื่อมั่นต่อประชาชนและพลังของประชาชน
ในอีกด้านแสดงถึงความรู้สึกที่ดูถูกประชาชน มองเห็นว่าที่ประชาชนเลือก
พรรคการเมืองอื่น เลือกคนอื่น มิใช่ตนเป็นเพราะความโง่เง่าของประชาชน
เป็นเพราะประชาชนตกใต้อำนาจเงิน
เห็นแต่ความโง่ มองไม่เห็นความล้ำเลิศ
หากพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจในอานุภาพแห่งธรรม หากกลุ่ม 40 ส.ว.มั่นใจในอานุภาพแห่งธรรม
ย่อมไม่จำเป็นต้องไปปกป้องคุ้มครองรัฐธรรมนูญอันเป็นเครื่องมือของนักรัฐประหาร
ย่อมไม่หวั่นเกรงต่อแนวทางในการเลือกตั้งของประชาชนอันเป็นเครื่องแสดงอำนาจของประชาชน
ประชาธิปไตย ประชาชนเป็นใหญ่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM09EazVOekE1Tmc9PQ==§ionid=
หากใครจะเห็นแย้งก็ว่ามาได้เลย ไม่ได้เจตนา ด่ามาร์ค อวยปู บูชาแม้ว
แค่แปะบทวิเคราะห์ ของสื่อ ที่ใครๆ ก็กล่าวหาว่าเป็นสีแดง หากไม่เห็นด้วย
ก็อยากได้มุมมองที่หลากหลาย ที่แตกต่างจาก ที่สื่อเขามอง อย่าเอาแต่ ด่าทอ
เสียดสี ถากถาง มันไม่ได้ทำให้ ประเทืองปัญญา ... ขึ้นมาเลย