อุ่นไอรัก บทที่ ๖

กระทู้สนทนา
เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก http://pantip.com/topic/30777946

บทก่อนหน้า
บทที่ ๑ http://pantip.com/topic/30935459
บทที่ ๒ http://pantip.com/topic/30940219
บทที่ ๓ http://pantip.com/topic/30942490
บทที่ ๔ http://pantip.com/topic/30944733
บทที่ ๕ http://pantip.com/topic/30948641



“มาร์โคคะ” เสียงเรียกจากคนที่เขาไม่ได้พบหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานที่ส่งมาจากข้างหลัง ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำอยู่ และหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียง

“ครับ”
“เดี๋ยวบ่ายๆ ฉันจะไปซื้อของเข้าบ้าน คุณอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถาม เปิดเผยเหตุผลที่เธอเดินมาหาเขาถึงนี่ ชายหนุ่มคิดสักพักก่อนจะกล่าวในสิ่งที่ตัวเองก็แปลกใจ

“เดี๋ยวผมไปช่วยถือ” พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากแต่ในใจกลับเต้นโครมคราม หวังว่าเธอจะไม่รู้ว่านั่นเป็นเพียงข้ออ้างที่จะได้ใช้เวลากับหญิงสาว ชดเชยที่ทิ้งให้เธอต้องกินข้าวเย็นคนเดียวเมื่อคืนนี้ และแอบไปทำในสิ่งที่ทำให้รู้สึกผิดอยู่จนถึงบัดนี้ แม้เขาจะมองไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาต้องรู้สึกผิดเลยก็ตาม

“ไม่เป็นไรค่ะ มีโจอี้ช่วยแล้ว” หญิงสาวบอก ปกติเธอจะไปซื้อของเข้าบ้านกับโจอี้ เพื่อให้เด็กหนุ่มช่วยถือของที่ปกติมักจะซื้อมาเป็นปริมาณค่อนข้างมาก เพราะเป็นการซื้อของเข้าบ้านประจำเดือน

“ผมอยากไปเดินดูอะไรด้วย” ชายหนุ่มไม่ยอมแพ้ ไลลาคิดสักพักก่อนจะตอบตกลง

“ถ้าอย่างนั้นเจอกันที่บ้านตอนบ่ายสามนะคะ” หญิงสาวบอกเขา ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปยังตัวบ้าน มาร์โคมองตามร่างระหงในชุดเสื้อเชิร์ตแขนยาว กางเกงยีนส์เข้ารูป และรองเท้าบูทสำหรับทำงานในไร่พลางถอนหายใจ นี่เขาเป็นบ้าอะไรไป เขาไม่เคยต้องหาข้ออ้างเพื่อที่จะได้ใช้เวลากับผู้หญิงที่ไหนมาก่อน และตอนนี้เขากำลังทำสิ่งนั้นอยู่ และผู้หญิงที่ว่าก็เป็นนางชีที่เขาไม่เห็นว่าจะมีอะไรน่าดึงดูดเลยแม้แต่น้อย เคยคิดว่าการกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม มีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงที่พอใจในรูปร่างหน้าตา จะกำจัดเธอออกไปจากความคิดเขาได้ คิดว่าแอนนาจะทำให้เขาลืมนางชีที่มักจะแวบเข้ามาในความคิดเขาเสมอ แต่กลับทำให้เขารู้สึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปด้วยซ้ำ หรือว่าเขาต้องกลับไปหาลิซ่า บางทีเมื่อได้กลับไปอยู่กับความเคยชินเดิมๆ อาจจะทำให้เขาหายจากอาการบ้านี่ก็ได้

คงต้องหาเวลากลับไปที่เพิร์ธบ้างแล้วล่ะ ชายหนุ่มบอกตัวเองในใจ




“ไปรถของไร่ไม่ดีกว่าเหรอคะ” ไลลาถาม เมื่อเห็นผู้จัดการไร่หนุ่มเดินนำเธอตรงไปยังรถของเขาเอง เมื่อถึงเวลาที่นัดกันไว้

“ผมชอบขับรถตัวเองมากว่า เชิญครับ” ชายหนุ่มว่า พลางเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งผู้โดยสารให้หญิงสาว ไลลาจึงต้องก้าวขึ้นรถของชายหนุ่มตามความต้องการของเจ้าของรถ

เมื่อมาถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตซึ่งเป็นจุดหมายในวันนี้ มาร์โคพารถเข้าไปจอดยังลานจอดรถ ก่อนที่จะเดินไปหยิบรถเข็นที่จอดอยู่ในช่องเก็บและเข็นรถเดินเคียงกับหญิงสาวเข้าไปในอาคารซุปเปอร์มาร์เก็ตตรงหน้า

ไลลาเดินเข้าไปยังชั้นแสดงสินค้าตามรายการในมือ ออกจะรู้สึกแปลกๆที่มีชายหนุ่มเข็นรถเข็นเดินตาม หากแต่ก็ไม่พูดอะไรที่จะเปิดเผยถึงความรู้สึกข้างใน

เมื่อเธอหยุดดูของหรือหยิบขึ้นมาอ่านฉลากและเทียบราคา ผู้จัดการไร่หนุ่มเจ้าของใบหน้าเรียบเฉยก็จะเข็นรถเข็นมาหยุดอยู่ข้างๆ หญิงสาวแอบชำเลืองมองคนที่ยืนเกาะรถเข็นอยู่อย่างเงียบเชียบ ก่อนที่จะรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว เมื่อสบตากับนัยน์ตาสีเขียวมรกตที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มทำหน้าเก้อๆไปเหมือนกัน เมื่อสายตาสบเข้ากับคนที่แอบมองอยู่เงียบๆ

“คุณต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามแก้เก้อ และเมื่อเห็นเจ้าของใบหน้าปราศจากอารมณ์ส่ายหน้า เธอจึงหันกลับไปให้ความสนใจกับรายการซื้อของตรงหน้าและไม่กล้าหันกลับมายังทางที่อีกคนยืนอยู่อีกเลย

จนเมื่อรายการซื้อของในมือถูกขีดฆ่าออกจนหมด และปริมาณของกินของใช้ในรถเข็นที่เพิ่มขึ้นมาจนเต็มเกือบล้น นั่นล่ะชายหนุ่มจึงได้เข็นรถเข็นเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์จ่ายเงินโดยมีหญิงสาวเดินตามไปเงียบๆ และเมื่อหลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยทั้งสองก็เดินกลับไปยังรถยนต์ของชายหนุ่มที่ลานจอดรถก่อนจะขับกลับไปที่ไร่

“เย็นนี้ผมจะทำอาหารเย็นเองนะ” มาร์โคบอกกับหญิงสาว เมื่อทั้งสองกำลังขนของที่ซื้อมาเข้าบ้าน โดยมีโจอี้มาช่วยด้วย เพราะของที่ซื้อมามากมายจนเต็มท้ายรถของชายหนุ่มทีเดียว และเมื่อเห็นหญิงสาวผู้ร่วมบ้านมองมาอย่างสงสัย เขาจึงอธิบาย

“คุณทำให้ผมกินมาหลายวันแล้ว ขอให้ผมตอบแทนคุณบ้าง”

“งั้นก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบรับสั้นๆ ก่อนที่จะก้มลงตั้งใจกับการจัดอาหารสดที่ซื้อมาใส่ตู้เย็นตรงหน้า

อาหารเย็นวันนี้มาร์โคทำแลมบ์ชอปหมักโรสแมรี่ย่างราดด้วยน้ำเกรวี่ กินกับมันบดรสชาติกลมกล่อม และข้าวโพดต้มคลุกเนย ในตอนที่ชายหนุ่มยกชิราซมารินใส่แก้วและเสนอให้หญิงสาวนั้น ไลลาสั่นหน้าดิก จนชายหนุ่มผู้เงียบขรึมอย่างมาร์โคถึงกับหัวเราะร่วน เขารินไวน์ให้เธอแม้เธอจะปฏิเสธก็ตาม

“แก้วเดียว คุณไม่รู้สึกอะไรหรอกน่า” ไลลาคิดตามคำพูดของชายหนุ่ม เมื่อเห็นจริงตามนั้นจึงรับแก้วไวน์ไปอย่างเสียไม่ได้

“วันเสาร์คุณมีธุระที่ไหนหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามขึ้นในตอนหนึ่ง

“ว่าจะไปทานข้าวเย็นกับแม่น่ะค่ะ ทำไมเหรอคะ”

“ผมนัดกับเอเจนท์จะเข้าไปดูบ้าน”

“บ้าน?” หญิงสาวทวนคำของชายหนุ่มพลางขมวดคิ้วเล็กๆ

“ผมว่าจะดูบ้านแถวนี้น่ะ ว่าจะชวนคุณไปดูด้วย แต่ถ้าคุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไร”

“นัดไว้กี่โมงล่ะคะ ถ้าเป็นตอนกลางวันก็ได้ เพราะฉันจะไปหาแม่ตอนหกโมงเย็น”

“สิบเอ็ดโมง” ชายหนุ่มบอก พลางจ้องหน้าหญิงสาวอย่างรอคำตอบ

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไปเป็นเพื่อนคุณได้ค่ะ”

“ผมไม่รบกวนคุณใช่ไหม”

“ไม่หรอกค่ะ ถ้าฉันไม่ว่างคงไม่รับปาก” หญิงสาวบอก ทำให้ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างพอใจ เขานัดแนะเวลากับเธอสำหรับการไปดูบ้านในวันเสาร์ และเมื่อหญิงสาวปฏิเสธที่จะนั่งดื่มกับเขาหลังอาหารเย็น ชายหนุ่มจึงเก็บจานไปใส่เครื่องล้างจานหลังจากที่หญิงสาวทำท่าว่าอิ่มแล้ว ก่อนที่จะโบกมือให้คนปฏิเสธแอลกอฮอล์ และเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อนั่งดื่มโดยลำพัง




“นายจะซื้อบ้าน! อย่าบอกนะว่านายหลงรักสาวที่นั่นจนถึงกับจะลงหลักปักฐานที่ควีนส์แลนด์” น้ำเสียงเจือหัวเราะพร้อมคำพูดล้อเลียนของเจ้านายที่ส่งมาตามสายทำให้มาร์โคต้องกลอกตา คงจะมีแต่คนที่อยู่ในห้วงแห่งรักอย่างราฟาเอลเท่านั้นล่ะที่จะเห็นอะไรเป็นการตกหลุมรักไปเสียหมด

“ผมแค่จะซื้อบ้านไว้หนีไปพักผ่อนในวันหยุดบ้างเท่านั้นล่ะ ถ้าจะให้อยู่กับนางชีตลอด เดี๋ยวผมเกิดออกบวชตามกันไปคุณจะไม่มีคนปลูกองุ่นให้เอา” เขาตอกกลับเจ้านายที่อารมณ์ดีในระดับที่มากเกินไปจนน่าหงุดหงิด

“อ้าว ไม่ยักรู้ว่าที่ ดาร์ลิง ดาวน์ส มีนางชี ก็เหมาะกับนักพรตอย่างนายแล้วนี่” ราฟาเอลยังคงล้อต่อไป วันๆผู้จัดการไร่ของเขาก็อยู่แต่กับเถาองุ่น ไม่สนใจผู้หญิงที่ไหน จะไม่ให้เขาเรียกว่านักพรตได้อย่างไร มาร์โคเพียงแต่หัวเราะหึหึในใจ โดยไม่คิดจะแก้ความเข้าใจผิดของเจ้านาย เพราะอยู่แบบเขาก็มีความสุขดีอยู่แล้ว

“ตลาดอสังหาที่นั่นเป็นไงบ้าง” ราฟาเอลถามน้ำเสียงจริงจัง หลังจากล้อผู้จัดการไร่ที่สนิทกันเหมือนพี่น้องจนพอใจแล้ว

“กำลังฟื้นตัว ปีนี้ราคาบ้านพุ่งสูงขึ้น แต่ราคาก็ยังถูกกว่าเพิร์ธมาก ผมคิดว่าปีหน้าตอนที่ผมต้องกลับไปเพิร์ธ ถ้าต้องขายก็น่าจะทำกำไรได้ระดับหนึ่ง แต่ผมอาจจะเก็บไว้ก่อน รอไปอีกหน่อยอาจจะได้กำไรมากขึ้น เพราะตลาดดีขึ้นกว่าปีก่อนมาก” มาร์โคตอบยืดยาว การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เขาสนุกที่จะทำ นอกจากการปลูกและปรับปรุงพันธุ์องุ่น เขาซื้อทิ่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้หลายแห่งที่เพิร์ธและบริเวณรอบๆ และติดตามตลาดเสมอ หลายหนที่ราฟาเอลมาปรึกษาเขาเมื่อสนใจในอสังหาริมทรัพย์บางแห่ง

“คุณราฟน่าจะลองดูนะครับ ไหนๆก็ต้องไปๆมาๆที่นี่อยู่แล้ว” ชายหนุ่มแนะ และราฟาเอลเองก็ดูท่าทางสนใจอยู่เหมือนกัน

“อ่อ มาร์โค เดือนหน้าฉันกับลิลลี่จะไปที่นู่นนะ นายอยากกลับบ้านหรือเปล่า” ราฟาเอลถามเมื่อนึกขึ้นได้

มาร์โคคิดชั่วครู่ก่อนตอบตกลง “ดีเหมือนกันครับ”

สองหนุ่มคุยกันต่ออีกเล็กน้อย ก่อนที่ราฟาเอลจะขอวางสาย เพราะลิลลดากลับเข้ามาในห้องพอดี

“แค่นี้นะ เมียเรียก” ว่าก่อนจะวางสายไป โดยที่เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะกล่าวลา ชายหนุ่มส่ายหัวให้กับเจ้านาย ก่อนจะพึมพำเบาๆ
“พวกหลงเมีย”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่