วันนี้ไปทานข้าวเย็นในเมืองมาค่ะ ร้านเป็นแบบกึ่งผับ
ข้อดีที่นี่คือ บรรยากาศ อาหาร และเครื่องดื่มคุณภาพดีค่ะ
พนักงานก็สุภาพ แต่ข้อเสียคือลูกค้าต้องหาโต๊ะให้ตัว
เองนั่ง แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นตรงนี้
เราไปถึงร่านแล้วไม่มีโต๊ะ ซึ่งเป็นธรรมชาติของวันศุกร์
เราก็เดินรอบๆร้านเผื่อมีลูกค้าทานเสร็จแล้วจะออกจาก
ร้าน เดินวนซักสองรอบก็บอกแฟนว่า ออกไปสูดอากาศกัน
หน่อยดีกว่าแล้วมาเดินใหม่ ในขณะที่เดินวนสองรอบแรก
ก็มีลูกค้าท่านอื่นๆหาโต๊ะเหมือนกัน ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่า
ใครมาก่อนหลัง เรากลับเข้ามาอีกที มาหยุดที่โต๊ะหนึ่งที่กำลังจะออก
ลูกค้าที่กำลังจะออกเค้าก็เชิญให้เรากับแฟนนั่งต่อจากเค้า ทันใดนั้นเองลูกค้า
เจ้าปัญหาก็พุ่งตัวออกมาจากบาร์เลยค่ะ ต่อจากนี้เป็นบทสนทนา
She: I have been waiting for this table.
Me: I have been looking for a table as well.
She: But, you guys walked out.
Me: Yes, just to take a fresh air.
She: My friends and I have been ordering our drinks at the bar already and we need a table.
Me: เริ่มงงๆ เอางัยดีว่ะ
My man: Well, take it!
ขณะที่นางกับเพื่อนนางเดินกับเพื่อนนางเดินผ่านเราไปนั่งที่โต๊ะ เราก็ได้หลุดปากพูดไม่เพราะไปว่า
What's a Bitch! นางก็หยุดกึ้ก แต่ก็เดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วหลบๆหน้า
ตอนนั้นเรารูสึกเซ็งตัวเองกะแฟนว่าทำไมถึงให้เค้ามาสอยโต๊ะไปทั้งๆที่เราก็เสียเวลาเดินหา
การสั่งเครื่องเดินรอที่บาร์ก็เป็นแค่การค่าเวลา ไม่ได่เป็นการระบุสิทธ์ในการนั่งโต๊ะแต่อย่างใด
เราได้โต๊ะเราก็สั่งเรื่องดื่มและอาหารเหมือนกัน ทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้ว่าใครมาก่อนหลัง
ถ้าเราแข็งกว่านี้หน่อยก็คงไม่ต้องมารู้สึกอย่างนี้ แต่ที่แย่ที่สุดเราว่าน่าจะเป็นร้านอาหาร
จริงๆเค้าน่าจะจัดคิวชาบูชิบ้านเรานะคะ จัดคนไว้ซักคนไว้ดูแลลูกค้าเรื่องนี้
คงจะไม่หมดเปลืองอะไรมาก เอาไว้อารมณดีขึ้นจะเขียนอีเมล์ไปหาที่ร้าน ร้านอาหาร
อารมณ์ผับที่สวีเดนเป็นอย่างนี้ซะส่วนใหญ่นะคะ ลูกค้าต้องช่วยตัวเอง มินิมอลลิซึ่มก็มีข้อดี
นะคะ แต่ขนาดจะต้องให้ลูกค้ามาต่อปากต่อคำกันมันก็เกินไป
ป.ล. ร้านอาหารกลางวันส่วนมากและร้านอาหารเย็นกึ่งผับจะเป็นแบบ
จ่ายก่อนตักอาหาร หรือ ออเดอร์ ข้อนี้ชอบค่ะคือจ่ายใครจ่ายมันง่าย
ไม่ต้องมาหารกับสิ่งที่เราไม่ได้กิน
โพสต์มาซะยาวขอบคุณที่มาอ่านนะคะ เราก็รู้สึกดีขึ้นที่ได้ระบาย
ขอแท๊กความงามนะคะ ช่วงนี้เล่นอยู่ห้องเดียว
เบื่อตัวเองจังเลยค่ะ รู้สึกว่าตัวเองไม่สู้คน ขอระบายหน่อย
ข้อดีที่นี่คือ บรรยากาศ อาหาร และเครื่องดื่มคุณภาพดีค่ะ
พนักงานก็สุภาพ แต่ข้อเสียคือลูกค้าต้องหาโต๊ะให้ตัว
เองนั่ง แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นตรงนี้
เราไปถึงร่านแล้วไม่มีโต๊ะ ซึ่งเป็นธรรมชาติของวันศุกร์
เราก็เดินรอบๆร้านเผื่อมีลูกค้าทานเสร็จแล้วจะออกจาก
ร้าน เดินวนซักสองรอบก็บอกแฟนว่า ออกไปสูดอากาศกัน
หน่อยดีกว่าแล้วมาเดินใหม่ ในขณะที่เดินวนสองรอบแรก
ก็มีลูกค้าท่านอื่นๆหาโต๊ะเหมือนกัน ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่า
ใครมาก่อนหลัง เรากลับเข้ามาอีกที มาหยุดที่โต๊ะหนึ่งที่กำลังจะออก
ลูกค้าที่กำลังจะออกเค้าก็เชิญให้เรากับแฟนนั่งต่อจากเค้า ทันใดนั้นเองลูกค้า
เจ้าปัญหาก็พุ่งตัวออกมาจากบาร์เลยค่ะ ต่อจากนี้เป็นบทสนทนา
She: I have been waiting for this table.
Me: I have been looking for a table as well.
She: But, you guys walked out.
Me: Yes, just to take a fresh air.
She: My friends and I have been ordering our drinks at the bar already and we need a table.
Me: เริ่มงงๆ เอางัยดีว่ะ
My man: Well, take it!
ขณะที่นางกับเพื่อนนางเดินกับเพื่อนนางเดินผ่านเราไปนั่งที่โต๊ะ เราก็ได้หลุดปากพูดไม่เพราะไปว่า
What's a Bitch! นางก็หยุดกึ้ก แต่ก็เดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วหลบๆหน้า
ตอนนั้นเรารูสึกเซ็งตัวเองกะแฟนว่าทำไมถึงให้เค้ามาสอยโต๊ะไปทั้งๆที่เราก็เสียเวลาเดินหา
การสั่งเครื่องเดินรอที่บาร์ก็เป็นแค่การค่าเวลา ไม่ได่เป็นการระบุสิทธ์ในการนั่งโต๊ะแต่อย่างใด
เราได้โต๊ะเราก็สั่งเรื่องดื่มและอาหารเหมือนกัน ทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้ว่าใครมาก่อนหลัง
ถ้าเราแข็งกว่านี้หน่อยก็คงไม่ต้องมารู้สึกอย่างนี้ แต่ที่แย่ที่สุดเราว่าน่าจะเป็นร้านอาหาร
จริงๆเค้าน่าจะจัดคิวชาบูชิบ้านเรานะคะ จัดคนไว้ซักคนไว้ดูแลลูกค้าเรื่องนี้
คงจะไม่หมดเปลืองอะไรมาก เอาไว้อารมณดีขึ้นจะเขียนอีเมล์ไปหาที่ร้าน ร้านอาหาร
อารมณ์ผับที่สวีเดนเป็นอย่างนี้ซะส่วนใหญ่นะคะ ลูกค้าต้องช่วยตัวเอง มินิมอลลิซึ่มก็มีข้อดี
นะคะ แต่ขนาดจะต้องให้ลูกค้ามาต่อปากต่อคำกันมันก็เกินไป
ป.ล. ร้านอาหารกลางวันส่วนมากและร้านอาหารเย็นกึ่งผับจะเป็นแบบ
จ่ายก่อนตักอาหาร หรือ ออเดอร์ ข้อนี้ชอบค่ะคือจ่ายใครจ่ายมันง่าย
ไม่ต้องมาหารกับสิ่งที่เราไม่ได้กิน
โพสต์มาซะยาวขอบคุณที่มาอ่านนะคะ เราก็รู้สึกดีขึ้นที่ได้ระบาย
ขอแท๊กความงามนะคะ ช่วงนี้เล่นอยู่ห้องเดียว