เวลานั่งดูซีรีย์อย่างพวก House หรือ Royal Pains ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับหมอ เราดูแล้วเชื่อว่าพวกเขาเป็นหมอจริงๆ เพราะข้อมูลที่พ่นออกมา ดูมีหลักการและเหตุผล มีการใช้ศัพท์เฉพาะ พูดกันในแง่การรักษาล้วนๆเวลาที่ต้องเป็นหมอ แต่ก็ไม่ทิ้งส่วนที่เป็นดรามาติค
หรือแม้แต่พวกซีรีย์ทนายความ อย่าง Law and Order ภาคยิบย่อยต่างๆ ก็นำเสนอกระบวนการในชั้นศาล ที่ดูลึกดูเป็นวงในมาก จนเราเชื่อถือ
แต่การที่ละครไทย ถูกจับผิดในความไม่สมจริง ความไม่ถูกต้องตามหลักการ อย่างเรื่องทางการแพทย์หรือศาสนาบ่อยๆ นี่เป็นเพราะอะไร
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งคงเป็นเรื่องของทุนสร้างและทีมงาน เขาอาจจะมีทีมรีเซิร์ซที่ปึ้กกว่า แต่สาเหตุจริงๆคือ เพราะฝรั่งเขาออกอากาศหลายช่องทางทั่วโลก เลยปล่อยไก่ไม่ได้อะไรงี้หรือเปล่า คือนอกจากคนอเมริกันจะดูแล้ว เขาคงต้องคิดว่ามีคนที่ดูผ่านเคเบิล ดาวเทียม ฯลฯ ดังนั้นการจะส่งข้อมูลอะไรออกไปถึงคนดู จึงพลาดไม่ได้ ต้องรัดกุม
ขณะที่คนไทย ทำละครออนแอร์ก็ดูกันในประเทศ หรืออาจดูกันตามประเทศเพื่อนบ้าน เต็มที่ก็มีคนจีนดู ดูกันเองในอาเซียน บางเรื่องฉายแป๊บๆก็จบ เขาเลยไม่จำเป็นต้องลงทุนทำวิจัย หรือหาข้อมูลอะไรให้แน่นเท่าไหร่ ด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่า ละครไทยถึงได้กลายเป็นปัญหาของการวิพากษ์ในเรื่องความสมจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันเกี่ยวโยงกับเรื่อง อาชีพ ศาสนา ประเด็นทางสังคม
ซึ่งแม้แต่ละครน้ำเน่าบางเรื่อง เราก็ยอมปล่อยผ่าน เพราะมองว่ามันเป็นแค่ละครน้ำเน่าดูเพื่อประโลมโลก เพราะจริงๆแล้วเราก็ไม่เคยสนใจจริงๆเวลาที่เห็นพระเอกเศรษฐีเขาทำมาหากินอะไรถึงรวย รู้แต่ว่าเขารวย แล้วก็เจอนางเอกที่อาจจะเป็นสาวออฟฟิศ แล้วก็รู้แค่พนักงานออฟฟิศกินเงินเดือนก็พอแล้ว แต่ไม่สนใจว่าในเนื้องานที่ตัวละครทำเป็นอะไรยังไง
เหมือนที่มีละครเรื่องหนึ่งถูกเอามาแซว ที่พระเอกเป็นสถาปนิกเล่นโดยณเดช กำลังปั้นโมเดลอย่างหล่อ แล้วก็มีภาพสถาปนิกตัวจริงเวลาทำงาน หน้ามัน หัวฟู ใส่เสื้อกล้าม อดนอนทำโมเดล แล้วก็ขึ้นเท็กซ์ว่าละคร กับ ความจริง
หรือจริงๆแล้วปัญหามาจากคนดูอย่างเรา ที่ไม่เคยแคร์อยู่แล้ว ว่าจะสมจริงไปทำไม เพราะดูเพื่อความบันเทืง
ปัญหาการจับผิดละครไทยว่าไม่สมจริง เช่น เรื่องแพทย์หรือศาสนา หรือเป็นเพราะว่าละครไทยไม่ออนแอร์กว้างเท่าฝรั่ง?
หรือแม้แต่พวกซีรีย์ทนายความ อย่าง Law and Order ภาคยิบย่อยต่างๆ ก็นำเสนอกระบวนการในชั้นศาล ที่ดูลึกดูเป็นวงในมาก จนเราเชื่อถือ
แต่การที่ละครไทย ถูกจับผิดในความไม่สมจริง ความไม่ถูกต้องตามหลักการ อย่างเรื่องทางการแพทย์หรือศาสนาบ่อยๆ นี่เป็นเพราะอะไร
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งคงเป็นเรื่องของทุนสร้างและทีมงาน เขาอาจจะมีทีมรีเซิร์ซที่ปึ้กกว่า แต่สาเหตุจริงๆคือ เพราะฝรั่งเขาออกอากาศหลายช่องทางทั่วโลก เลยปล่อยไก่ไม่ได้อะไรงี้หรือเปล่า คือนอกจากคนอเมริกันจะดูแล้ว เขาคงต้องคิดว่ามีคนที่ดูผ่านเคเบิล ดาวเทียม ฯลฯ ดังนั้นการจะส่งข้อมูลอะไรออกไปถึงคนดู จึงพลาดไม่ได้ ต้องรัดกุม
ขณะที่คนไทย ทำละครออนแอร์ก็ดูกันในประเทศ หรืออาจดูกันตามประเทศเพื่อนบ้าน เต็มที่ก็มีคนจีนดู ดูกันเองในอาเซียน บางเรื่องฉายแป๊บๆก็จบ เขาเลยไม่จำเป็นต้องลงทุนทำวิจัย หรือหาข้อมูลอะไรให้แน่นเท่าไหร่ ด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่า ละครไทยถึงได้กลายเป็นปัญหาของการวิพากษ์ในเรื่องความสมจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันเกี่ยวโยงกับเรื่อง อาชีพ ศาสนา ประเด็นทางสังคม
ซึ่งแม้แต่ละครน้ำเน่าบางเรื่อง เราก็ยอมปล่อยผ่าน เพราะมองว่ามันเป็นแค่ละครน้ำเน่าดูเพื่อประโลมโลก เพราะจริงๆแล้วเราก็ไม่เคยสนใจจริงๆเวลาที่เห็นพระเอกเศรษฐีเขาทำมาหากินอะไรถึงรวย รู้แต่ว่าเขารวย แล้วก็เจอนางเอกที่อาจจะเป็นสาวออฟฟิศ แล้วก็รู้แค่พนักงานออฟฟิศกินเงินเดือนก็พอแล้ว แต่ไม่สนใจว่าในเนื้องานที่ตัวละครทำเป็นอะไรยังไง
เหมือนที่มีละครเรื่องหนึ่งถูกเอามาแซว ที่พระเอกเป็นสถาปนิกเล่นโดยณเดช กำลังปั้นโมเดลอย่างหล่อ แล้วก็มีภาพสถาปนิกตัวจริงเวลาทำงาน หน้ามัน หัวฟู ใส่เสื้อกล้าม อดนอนทำโมเดล แล้วก็ขึ้นเท็กซ์ว่าละคร กับ ความจริง
หรือจริงๆแล้วปัญหามาจากคนดูอย่างเรา ที่ไม่เคยแคร์อยู่แล้ว ว่าจะสมจริงไปทำไม เพราะดูเพื่อความบันเทืง