สืบเนื่องจากดู the conjuring มาครับ ก็เลยลองไปค้นๆ ดูก็พบว่าในอเมริกา มีบ้านผีสิงอยู่มากพอสมควรเลยทีเดียว
ที่เด่นๆ ก็มี 50 หลัง (ซึ่งบางหลังก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย)
ปล. ไม่ได้จัดเรียงลำดับนะครับ นับจาก 1-50 เอา
ภาค 2 ---->
http://pantip.com/topic/30894610
1. Pittock Mansion
คฤหาสน์ทรงฝรั่งเศสบนภูเขา ซึ่งสามารถมองเห็นย่านดาวน์ทาวน์ของพอร์ตแลนด์ โอริกอน ได้อย่างชัดเจน คฤหาสน์หลังนี้ถูกบันทึกว่าเป็นสถานที่เสียชีวิตของคน 2 คน คือเจ้าของบ้านเดิม จอร์เจียน่า(72ปี)ในปี 1918 และ นาย Henry Pittock (84ปี) ในปี 1919 และในปี 1965 มีการเปิดเผยปรากฏการณ์ลึกลับเหนือธรรมชาติหลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ เช่น หญิงชราลึกลับลอยได้ ,เสียงฝีเท้าที่หาต้นเสียงไม่ได้, รูปภาพที่ขยับเองได้, หน้าต่างที่เปิดปิดเอง แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือ ใบหน้าปริศนาที่โผล่ขึ้นมาบนต้นไม้(รอบบ้าน) คฤหาสน์หลังนี้เคยถูกใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น basic instinct ในปี 1993
2. Farnsworth House
ถูกสร้างขึ้นในปี 1810 แต่หลังจากนั้นถูกยึดครองโดยทหารฝ่ายใต้ ในปี 1863 ในสมรภูมิเก็ตตีสเบิร์ก , Jannie wade วัย 20 ถูกทหารฝ่ายใต้ยิงตาย(เป็นพลเรือน 1 ใน 8000 คนที่ถูกฆ่าในการรบครั้งนี้) บ้านหลังนี้ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงแรม มีห้องนั่งเล่นซึ่งจำลองให้คล้ายสุสาน และในห้อง ลินคอร์น(ชื่อห้อง) มีการสร้างเก้าอี้จำลอง ที่ ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินอคร์น นั่งในคืนที่ถูกลอบสังหาร บ้านหลังนี้ว่ากันว่าความหลอนแทรกซึมอยู่ในทุกห้อง
3. Myrtles Plantation
บ้านสวนที่สวยงามและกว้างขวางหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1796 นัยว่าสร้างบนพื้นที่ฝังศพของพวกอินเดียนแดง (คนสร้างมันคิดยังไง) บ้านหลังนี้ถูกซื้อและปรับปรุงใหม่ในปี 1850 โดยครอบครัวที่มีลูกๆ 9 คน (ห้าคนตายไปตั้งแต่ยังเด็ก) ต่อมาไม่นานเจ้าของบ้านถูกฆ่าตายบนระเบียงบ้านอย่างปริศนา นอกจากนี้ยังมีตำนานของ โคลอี้ ทาสผิวดำซึ่งเป็นเมียเก็บของเจ้าของบ้าน โคลอี้ชอบแอบฟังเจ้านายเขาคุยกัน วันหนึ่งเธอถูกทำโทษโดยการตัดใบหูข้างหนึ่งของเธอ จนเกิดความแค้นเธอเลยอบเค้กวันเกิดโดยใส่ใบยี่โกซึ่งเป็นพืชมีพิษและให้ครอบครัวของนายจ้างกิน จนเป็นเหตุทำให้ภรรยาและบุตรสาวสองคนตายอย่างทรมานในไม่กี่วันต่อมา ส่วนโคลอี้ก็หนีจากบ้านและฆ่าตัวตายโดยการโดดลงในแม่น้ำมิสซิสซิปปี้(บ้างก็ว่าโดนจับได้และถูกแขวนคอ)ในเวลาต่อมา ทำให้สามีเจ้าของบ้านเสียใจต่อการจากไปของภรรยามากเขาเลยปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้านอย่างสวยงาม ก่อนจะอพยพไปนิวออร์ลีน(บางคนบอกว่าไม่มีรายงานว่าทาสโคลอี้นี้มีจริงและลูกสาวที่ว่าตายเพราะจากกินเค้กนั้นยังคงมีชีวิตอยู่) ตำนานผีโคลอี้ โด่งดังพอสมควรในอเมริกา
4. Houghton Mansion
บ้านหลังนี้เป็นของ North Adams นายกเทศมนตรีคนแรกของเมือง A.c Houghton สาเหตุที่ทำให้มันเป็นตำนานในเรื่องผี มีอยู่ว่า ลูกสาวของ ท่านนายกฯ , แมรี่ และเพื่อนของเธอเดินทางไป เวอร์มอนต์ โดยให้John Widders คนขับรถของครอบครัวขับรถให้ เมื่อขับไปถึงเขื่อน จอห์นฆ่าแมรี่และเพื่อนของเธอ(สาเหตุเรื่องความรักหรือไงนี่แหละ) วันต่อมามีคนพบศพจอห์นที่ยิงตัวตายในบ้านหลังนี้ และเก้าวันต่อมา ท่านนายกฯ ก็ตายตามไปอีกคน ว่ากันว่าทุกวันนี้ยังมีคนพบเห็นวิญญาณของทั้งหมดวนเวียนอยู่, ความตายอบอวลไปทั่วบ้าน
5. Rispin Mansion
บ้านถูกสร้างโดยนาย Henry Rispin เศรษฐีที่ดินที่ลงทุนสร้างเพื่อให้มันเป็นรีสอร์ทที่หรูหราน่าสนใจ แต่ก็เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (ต่อมานาย ริสปิน ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ขนาดที่ว่าตอนเขาตาย ต้องฝังศพในสุสานคนอนาถา) แมนชั่นถูกแปลงสภาพเป็น คอนแวนต์ และกลายเป็นที่พักอาศัยในทศวรรษ 60 คนที่พักอาศัยหลายคนรายงานตรงกันว่าพวกเขามักจะพบเจอกับ “อาคันตุกะ” ปริศนาในยามวิกาลเสมอ สาเหตุก็มาจากไฟไหม้ที่คร่าชีวิตคนไปจำนวนนับไม่ถ้วนนั่นเอง
6. Croke Patterson Mansion
Thomas B. Croke สร้างบ้านหลังนี้ในปี 1892 เขาขายบ้านในสองปีต่อมาเพราะรู้สึกว่าโครงสร้างบ้านดูน่ากลัว บ้านถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ จนถูกแปลงเป็นสำนักงานในปี 1970 พนักงานคนหนึ่งเล่าว่าเขา อาคารหลังนี้มีสุนัขโดเบอร์แมนสองตัวเฝ้าไว้ ซึ่งวันรุ่งขึ้นสุนัขสองตัวนี่ตายอย่างปริศนา ต่อมาก็มีข้าวของถูกโยนลงมาจากหน้าต่างชั้นสาม พนักงานอีกคนยังเล่าว่าเขาได้ยินเสียงคำราม เสียงเครื่องพิมพ์ดีดที่ทำงานเองในยามค่ำคืน สาเหตุว่ากันว่าเป็นเพราะวิญญาณของเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งถูกฝังไว้ในห้องใต้ดินของบ้านอย่างปริศนา และบ้านหลังนี้มีทางลับและกลไกมากมายที่ถูกพบในภายหลัง
7. Joshua Ward house
Joshua Ward ผู้สร้างบ้านเป็นกัปตันเรือขนส่งผู้ร่ำรวย แต่ผู้ที่ทำให้บ้านหลังนี้เป็นตำนานไม่ใช่เขา แต่เป็นเจ้าของบ้านรายล่าสุดที่ครอบครองบ้านและที่ดินของโจชัว คือนายอำเภอ George Corwin ผู้พิพากษาประหาร Giles Corey ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าของลัทธิแม่มด แม้ Corey จะปฏิเสธแต่เขาก็ถูกประหารโดยการขว้างหินเข้าใส่จนตาย นายอำเภอตายหลังจากนั้นห้าปี ศพของเขาถูกฝังอยู่ในบ้านนั่นเอง แต่ต่อมาก็ได้ย้ายไปที่สุสาน ว่ากันว่าวิญญาณของนายอำเภอและ Corey ยังอาศัยวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้
8. Berkeley Castle/Samuel Taylor Suit Cottage
ปราสาทขนาด 20 ห้องนอนที่สามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งเมืองนี้ ถูกสร้างขึ้นในปี 1885 โดยเจ้าสัว บริษัทสร้างทางรถไฟ Samuel Taylor Suit เพื่อมอบให้เจ้าสาวของเขา โรซ่า ต่อมาเจ้าสัวผู้นี้ก็ตายลงในปี 1888 และโรซ่าก็ได้ใช้มันไปในทางรื่นเริงบันเทิงใจ(ปาร์ตี้เป็นว่าเล่น) ว่ากันว่าวิญญาณของโรซ่ายังอาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้ จวบจนมันถูกขายในปี 1913 (ปราสาทแห่งนี้ถอดแบบมาจาก ปราสาทชื่อเดียวกันในอังกฤษ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมันดูคล้ายกัน)
9. Summerwind / lamont mansion
สร้างขึ้นเมื่อ ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพื่อเป็นกระท่อมพักผ่อนสำหรับตกปลา บ้านหลังนี้ถูกกล่าวขานว่ามีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในปี 1930 เมื่อ Robert Lamont ผู้อาศัยขณะนั้นเล่าว่าเขายิง ผีตนหนึ่งด้วยปืนพก ต่อมาในปี 1970 สองสามีภรรยาและลูกๆ 4 คนได้ย้ายเข้ามาอยู่ สามีได้ทำการปรับปรุงบ้านด้วยตัวเอง หลังจากช่างที่จ้างมาขอยกเลิกงานด้วยเหตุผลบางอย่าง หกเดือนต่อมาสามีมีอาการป่วยทางจิต และภรรยาได้พยายามฆ่าตัวอย่างไม่มีเหตุผล ในปี 1988 บ้านที่ถูกทิ้งร้างมานานหลังนี้ถูกฟ้าผ่า และไฟไหม้จนเกือบหมด
10. Walkers House
โรงแรมที่ใหญ่โตโอฬารแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี 1836 สถานที่แห่งนี้ได้รับการรายงานว่าเกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในปี 1960 เช่น เสียงกระซิบปริศนา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเสียงของ William Café ชายที่ถูกตัดสินประหารด้วยการแขวนคอ ในข้อหาฆาตกรรม เขาถูกแขวนคอที่หน้าโรงแรมแห่งนี้ และนี่เป็นที่มาของตำนานความหลอนนั่นเอง
ที่มา : www.houseofghost.com ซึ่งเว็บ offline ไปแล้วครับ ผมทำการเซฟเพจไว้ตั้งแต่ปี 2011 และนำมาแปลให้อ่านกัน
50 บ้านหลอนในอเมริกา Part 1
ที่เด่นๆ ก็มี 50 หลัง (ซึ่งบางหลังก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย)
ปล. ไม่ได้จัดเรียงลำดับนะครับ นับจาก 1-50 เอา
ภาค 2 ----> http://pantip.com/topic/30894610
1. Pittock Mansion
คฤหาสน์ทรงฝรั่งเศสบนภูเขา ซึ่งสามารถมองเห็นย่านดาวน์ทาวน์ของพอร์ตแลนด์ โอริกอน ได้อย่างชัดเจน คฤหาสน์หลังนี้ถูกบันทึกว่าเป็นสถานที่เสียชีวิตของคน 2 คน คือเจ้าของบ้านเดิม จอร์เจียน่า(72ปี)ในปี 1918 และ นาย Henry Pittock (84ปี) ในปี 1919 และในปี 1965 มีการเปิดเผยปรากฏการณ์ลึกลับเหนือธรรมชาติหลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ เช่น หญิงชราลึกลับลอยได้ ,เสียงฝีเท้าที่หาต้นเสียงไม่ได้, รูปภาพที่ขยับเองได้, หน้าต่างที่เปิดปิดเอง แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือ ใบหน้าปริศนาที่โผล่ขึ้นมาบนต้นไม้(รอบบ้าน) คฤหาสน์หลังนี้เคยถูกใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น basic instinct ในปี 1993
2. Farnsworth House
ถูกสร้างขึ้นในปี 1810 แต่หลังจากนั้นถูกยึดครองโดยทหารฝ่ายใต้ ในปี 1863 ในสมรภูมิเก็ตตีสเบิร์ก , Jannie wade วัย 20 ถูกทหารฝ่ายใต้ยิงตาย(เป็นพลเรือน 1 ใน 8000 คนที่ถูกฆ่าในการรบครั้งนี้) บ้านหลังนี้ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงแรม มีห้องนั่งเล่นซึ่งจำลองให้คล้ายสุสาน และในห้อง ลินคอร์น(ชื่อห้อง) มีการสร้างเก้าอี้จำลอง ที่ ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินอคร์น นั่งในคืนที่ถูกลอบสังหาร บ้านหลังนี้ว่ากันว่าความหลอนแทรกซึมอยู่ในทุกห้อง
3. Myrtles Plantation
บ้านสวนที่สวยงามและกว้างขวางหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1796 นัยว่าสร้างบนพื้นที่ฝังศพของพวกอินเดียนแดง (คนสร้างมันคิดยังไง) บ้านหลังนี้ถูกซื้อและปรับปรุงใหม่ในปี 1850 โดยครอบครัวที่มีลูกๆ 9 คน (ห้าคนตายไปตั้งแต่ยังเด็ก) ต่อมาไม่นานเจ้าของบ้านถูกฆ่าตายบนระเบียงบ้านอย่างปริศนา นอกจากนี้ยังมีตำนานของ โคลอี้ ทาสผิวดำซึ่งเป็นเมียเก็บของเจ้าของบ้าน โคลอี้ชอบแอบฟังเจ้านายเขาคุยกัน วันหนึ่งเธอถูกทำโทษโดยการตัดใบหูข้างหนึ่งของเธอ จนเกิดความแค้นเธอเลยอบเค้กวันเกิดโดยใส่ใบยี่โกซึ่งเป็นพืชมีพิษและให้ครอบครัวของนายจ้างกิน จนเป็นเหตุทำให้ภรรยาและบุตรสาวสองคนตายอย่างทรมานในไม่กี่วันต่อมา ส่วนโคลอี้ก็หนีจากบ้านและฆ่าตัวตายโดยการโดดลงในแม่น้ำมิสซิสซิปปี้(บ้างก็ว่าโดนจับได้และถูกแขวนคอ)ในเวลาต่อมา ทำให้สามีเจ้าของบ้านเสียใจต่อการจากไปของภรรยามากเขาเลยปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้านอย่างสวยงาม ก่อนจะอพยพไปนิวออร์ลีน(บางคนบอกว่าไม่มีรายงานว่าทาสโคลอี้นี้มีจริงและลูกสาวที่ว่าตายเพราะจากกินเค้กนั้นยังคงมีชีวิตอยู่) ตำนานผีโคลอี้ โด่งดังพอสมควรในอเมริกา
4. Houghton Mansion
บ้านหลังนี้เป็นของ North Adams นายกเทศมนตรีคนแรกของเมือง A.c Houghton สาเหตุที่ทำให้มันเป็นตำนานในเรื่องผี มีอยู่ว่า ลูกสาวของ ท่านนายกฯ , แมรี่ และเพื่อนของเธอเดินทางไป เวอร์มอนต์ โดยให้John Widders คนขับรถของครอบครัวขับรถให้ เมื่อขับไปถึงเขื่อน จอห์นฆ่าแมรี่และเพื่อนของเธอ(สาเหตุเรื่องความรักหรือไงนี่แหละ) วันต่อมามีคนพบศพจอห์นที่ยิงตัวตายในบ้านหลังนี้ และเก้าวันต่อมา ท่านนายกฯ ก็ตายตามไปอีกคน ว่ากันว่าทุกวันนี้ยังมีคนพบเห็นวิญญาณของทั้งหมดวนเวียนอยู่, ความตายอบอวลไปทั่วบ้าน
5. Rispin Mansion
บ้านถูกสร้างโดยนาย Henry Rispin เศรษฐีที่ดินที่ลงทุนสร้างเพื่อให้มันเป็นรีสอร์ทที่หรูหราน่าสนใจ แต่ก็เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (ต่อมานาย ริสปิน ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ขนาดที่ว่าตอนเขาตาย ต้องฝังศพในสุสานคนอนาถา) แมนชั่นถูกแปลงสภาพเป็น คอนแวนต์ และกลายเป็นที่พักอาศัยในทศวรรษ 60 คนที่พักอาศัยหลายคนรายงานตรงกันว่าพวกเขามักจะพบเจอกับ “อาคันตุกะ” ปริศนาในยามวิกาลเสมอ สาเหตุก็มาจากไฟไหม้ที่คร่าชีวิตคนไปจำนวนนับไม่ถ้วนนั่นเอง
6. Croke Patterson Mansion
Thomas B. Croke สร้างบ้านหลังนี้ในปี 1892 เขาขายบ้านในสองปีต่อมาเพราะรู้สึกว่าโครงสร้างบ้านดูน่ากลัว บ้านถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ จนถูกแปลงเป็นสำนักงานในปี 1970 พนักงานคนหนึ่งเล่าว่าเขา อาคารหลังนี้มีสุนัขโดเบอร์แมนสองตัวเฝ้าไว้ ซึ่งวันรุ่งขึ้นสุนัขสองตัวนี่ตายอย่างปริศนา ต่อมาก็มีข้าวของถูกโยนลงมาจากหน้าต่างชั้นสาม พนักงานอีกคนยังเล่าว่าเขาได้ยินเสียงคำราม เสียงเครื่องพิมพ์ดีดที่ทำงานเองในยามค่ำคืน สาเหตุว่ากันว่าเป็นเพราะวิญญาณของเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งถูกฝังไว้ในห้องใต้ดินของบ้านอย่างปริศนา และบ้านหลังนี้มีทางลับและกลไกมากมายที่ถูกพบในภายหลัง
7. Joshua Ward house
Joshua Ward ผู้สร้างบ้านเป็นกัปตันเรือขนส่งผู้ร่ำรวย แต่ผู้ที่ทำให้บ้านหลังนี้เป็นตำนานไม่ใช่เขา แต่เป็นเจ้าของบ้านรายล่าสุดที่ครอบครองบ้านและที่ดินของโจชัว คือนายอำเภอ George Corwin ผู้พิพากษาประหาร Giles Corey ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าของลัทธิแม่มด แม้ Corey จะปฏิเสธแต่เขาก็ถูกประหารโดยการขว้างหินเข้าใส่จนตาย นายอำเภอตายหลังจากนั้นห้าปี ศพของเขาถูกฝังอยู่ในบ้านนั่นเอง แต่ต่อมาก็ได้ย้ายไปที่สุสาน ว่ากันว่าวิญญาณของนายอำเภอและ Corey ยังอาศัยวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้
8. Berkeley Castle/Samuel Taylor Suit Cottage
ปราสาทขนาด 20 ห้องนอนที่สามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งเมืองนี้ ถูกสร้างขึ้นในปี 1885 โดยเจ้าสัว บริษัทสร้างทางรถไฟ Samuel Taylor Suit เพื่อมอบให้เจ้าสาวของเขา โรซ่า ต่อมาเจ้าสัวผู้นี้ก็ตายลงในปี 1888 และโรซ่าก็ได้ใช้มันไปในทางรื่นเริงบันเทิงใจ(ปาร์ตี้เป็นว่าเล่น) ว่ากันว่าวิญญาณของโรซ่ายังอาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้ จวบจนมันถูกขายในปี 1913 (ปราสาทแห่งนี้ถอดแบบมาจาก ปราสาทชื่อเดียวกันในอังกฤษ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมันดูคล้ายกัน)
9. Summerwind / lamont mansion
สร้างขึ้นเมื่อ ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพื่อเป็นกระท่อมพักผ่อนสำหรับตกปลา บ้านหลังนี้ถูกกล่าวขานว่ามีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในปี 1930 เมื่อ Robert Lamont ผู้อาศัยขณะนั้นเล่าว่าเขายิง ผีตนหนึ่งด้วยปืนพก ต่อมาในปี 1970 สองสามีภรรยาและลูกๆ 4 คนได้ย้ายเข้ามาอยู่ สามีได้ทำการปรับปรุงบ้านด้วยตัวเอง หลังจากช่างที่จ้างมาขอยกเลิกงานด้วยเหตุผลบางอย่าง หกเดือนต่อมาสามีมีอาการป่วยทางจิต และภรรยาได้พยายามฆ่าตัวอย่างไม่มีเหตุผล ในปี 1988 บ้านที่ถูกทิ้งร้างมานานหลังนี้ถูกฟ้าผ่า และไฟไหม้จนเกือบหมด
10. Walkers House
โรงแรมที่ใหญ่โตโอฬารแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี 1836 สถานที่แห่งนี้ได้รับการรายงานว่าเกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในปี 1960 เช่น เสียงกระซิบปริศนา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเสียงของ William Café ชายที่ถูกตัดสินประหารด้วยการแขวนคอ ในข้อหาฆาตกรรม เขาถูกแขวนคอที่หน้าโรงแรมแห่งนี้ และนี่เป็นที่มาของตำนานความหลอนนั่นเอง
ที่มา : www.houseofghost.com ซึ่งเว็บ offline ไปแล้วครับ ผมทำการเซฟเพจไว้ตั้งแต่ปี 2011 และนำมาแปลให้อ่านกัน