เราทำงานในหน่วยงานราชการมา 5 ปี (แต่ไม่ใช่ข้าราชการนะคะ) และไม่เคยคิดว่าจะสอบเข้ารับราชการ บอกตรงๆว่าเห็นการคอรัปชั่นในรูปแบบต่างๆมาเยอะจนเบื่อและเหนื่อยใจ ตัวเองก็ต้องไปมีส่วนรับรู้โดยที่ทำอะไรไม่ได้ (ตรงนี้ขออภัยนะคะหากพาดพิงใคร ข้าราชการที่ดีก็มีมากค่ะ) แต่เหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้รู้สึกว่าท้อแท้กับระบบการทำงานราชการก็คือโดนประเมินให้ออกจากงาน โดยผู้บังคับเรียกเข้าพบและชี้แจงว่า "เคมีไม่ตรงกันและสีลิปสติกสีเดียวกันที่ทาบนปากเรา ก็ไม่ใช่คนทุกคนที่บอกว่ามันสวยหรอกนะ" ... มันอึ้งค่ะ!!! เราทำงานเต็มที่ตั้งแต่วันแรกเพราะคิดว่าจะทำงานในที่ปัจจุบันนี้เป็นที่สุดท้าย ทุ่มเทจนป่วยหลายครั้ง แต่สุดท้ายคนที่อยู่ต่อได้กลับเป็นคนที่เข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี เรารู้ตัวเองว่าไม่มีตรงนี้ ไม่ชอบเข้าหาใครถ้าใจไม่รู้สึกจริงๆ ปัจจุบันยังทนทำงานที่เดิมต่อไปเพราะสัญญาจ้างยังไม่สิ้นสุด แต่ความรู้สึกรักองค์กรมันหมดไปนานแล้ว
จนเมื่ออาทิตย์ก่อน นั่งหางานทางอินเตอร์เนทจนไปเจองานตำแหน่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่อเมริกา คุณสมบัติและประสบการณ์ได้ตามที่เค้าต้องการ ก็เลยรบกวนให้อาจารย์ที่ปรึกษาครั้งสมัยยังเรียนปริญญาโท อาจารย์เจ้าของภาษาที่เคยสอนเรา และหัวหน้าคนปัจจุบันที่พร้อมจะช่วยเหลือเขียน Recommendation Letter 3 ฉบับ ดีใจมากเลยที่ทุกคนพร้อมจะช่วยเหลือในยามที่ท้อแท้ จริงๆก็ไม่เคยคิดว่าอยากไปทำงานเมืองนอกไกลบ้านเลยค่ะ อยากอยู่ใกล้ครอบครัวดูแลพ่อแม่ แต่ตอนนี้น้องชาย2คนพร้อมจะทำหน้าที่แทน ก็เลยคุยกับท่านว่าอยากลองไปทำงานในต่างประเทศ ท่านอนุญาตและพร้อมสนับสนุน คุณแม่ก็เคยไปทำงานพยาบาลที่อเมริกา ท่านเลยตามใจ
รายได้จากงานทุกวันนี้มีเพียงพอสำหรับการผ่อนบ้านเดือนละ 10,000 บาทและใช้จ่ายส่วนตัว เงินเก็บมีแค่บางเดือน เงินให้ทางบ้านก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีงานพิเศษเข้ามามั้ย ส่วนตัวชอบสอนหนังสือ เลยไม่สมัครทำงานบริษัทเลยทั้งที่จะได้เงินเดือนเยอะกว่ามาก ตอนนี้สอนภาษาอาเซียนระดับมหาวิทยาลัยอยู่ค่ะ เคยลองส่งประวัติสมัครไปตามโรงเรียนสอนภาษาที่อเมริกา เค้าก็สนใจอยากสัมภาษณ์เพราะประสบการณ์เรามากพอสมควร แต่เค้าแจ้งว่าจะไม่จัดการเรื่องวีซ่าทำงานให้ก็เลยงงเรื่องระบบการขอวีซ่าทำงานในอเมริกานิดนึงค่ะ ตอนนี้ก็หาข้อมูลใน UCIS อยู่ อีกเหตุผลนึงคือหากจะสอนในมหาวิทยาลัยในเมืองไทยต้องเรียนต่อปริญญาเอก ในใจลึกๆอยากทำงานหาประสบการณ์มากกว่าเรียนค่ะ มีเพื่อนๆคนไหนกำลังหาข้อมูลการไปทำงานที่อเมริกาบ้างก็มาร่วมแบ่งปันกันนะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เอาอีเมล์ฉบับนี้มาให้เพื่อนๆช่วยดูด้วยค่ะ อะไรคือ indepentdent work authorization กันค่ะ เข้าใจผิดมาตลอดเลยเหรอเนี่ยว่านายจ้างจะจัดการวีซ่าทำงานให้เรา
มีใครกำลังอยากไปทำงานที่อเมริกาบ้างมั้ยคะ
จนเมื่ออาทิตย์ก่อน นั่งหางานทางอินเตอร์เนทจนไปเจองานตำแหน่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่อเมริกา คุณสมบัติและประสบการณ์ได้ตามที่เค้าต้องการ ก็เลยรบกวนให้อาจารย์ที่ปรึกษาครั้งสมัยยังเรียนปริญญาโท อาจารย์เจ้าของภาษาที่เคยสอนเรา และหัวหน้าคนปัจจุบันที่พร้อมจะช่วยเหลือเขียน Recommendation Letter 3 ฉบับ ดีใจมากเลยที่ทุกคนพร้อมจะช่วยเหลือในยามที่ท้อแท้ จริงๆก็ไม่เคยคิดว่าอยากไปทำงานเมืองนอกไกลบ้านเลยค่ะ อยากอยู่ใกล้ครอบครัวดูแลพ่อแม่ แต่ตอนนี้น้องชาย2คนพร้อมจะทำหน้าที่แทน ก็เลยคุยกับท่านว่าอยากลองไปทำงานในต่างประเทศ ท่านอนุญาตและพร้อมสนับสนุน คุณแม่ก็เคยไปทำงานพยาบาลที่อเมริกา ท่านเลยตามใจ
รายได้จากงานทุกวันนี้มีเพียงพอสำหรับการผ่อนบ้านเดือนละ 10,000 บาทและใช้จ่ายส่วนตัว เงินเก็บมีแค่บางเดือน เงินให้ทางบ้านก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีงานพิเศษเข้ามามั้ย ส่วนตัวชอบสอนหนังสือ เลยไม่สมัครทำงานบริษัทเลยทั้งที่จะได้เงินเดือนเยอะกว่ามาก ตอนนี้สอนภาษาอาเซียนระดับมหาวิทยาลัยอยู่ค่ะ เคยลองส่งประวัติสมัครไปตามโรงเรียนสอนภาษาที่อเมริกา เค้าก็สนใจอยากสัมภาษณ์เพราะประสบการณ์เรามากพอสมควร แต่เค้าแจ้งว่าจะไม่จัดการเรื่องวีซ่าทำงานให้ก็เลยงงเรื่องระบบการขอวีซ่าทำงานในอเมริกานิดนึงค่ะ ตอนนี้ก็หาข้อมูลใน UCIS อยู่ อีกเหตุผลนึงคือหากจะสอนในมหาวิทยาลัยในเมืองไทยต้องเรียนต่อปริญญาเอก ในใจลึกๆอยากทำงานหาประสบการณ์มากกว่าเรียนค่ะ มีเพื่อนๆคนไหนกำลังหาข้อมูลการไปทำงานที่อเมริกาบ้างก็มาร่วมแบ่งปันกันนะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เอาอีเมล์ฉบับนี้มาให้เพื่อนๆช่วยดูด้วยค่ะ อะไรคือ indepentdent work authorization กันค่ะ เข้าใจผิดมาตลอดเลยเหรอเนี่ยว่านายจ้างจะจัดการวีซ่าทำงานให้เรา