ก่อนอื่น
ขออธิบายสั้นๆ สำหรับคนทั่วไปว่า
แพทย์ประจำบ้าน (Resident) คือใคร?
แพทย์ประจำบ้าน
คือหมอที่เรียนจบแพทย์แล้ว
มีใบประกอบวิชาชีพแล้ว
และมาเรียนต่อเฉพาะทางในโรงเรียนแพทย์
เช่น ศัลยแพทย์ อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ ฯลฯ
อนาคตทั้งชีวิต
จะได้เป็นหมอเฉพาะทางหรือไม่
ขึ้นอยู่กับ "อาจารย์แพทย์" เป็นอย่างมาก
⸻
เรื่องที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้
ไม่ใช่ดราม่าไร้สาระ
แต่คือ "ครั้งแรก" ที่แพทย์ประจำบ้านกลุ่มหนึ่ง
ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องที่
สังคมแพทย์ไทยรู้กันมานาน
แต่ไม่เคยถูกกล้าพูดในที่สาธารณะ
เรื่องนี้เกิดในโรงเรียนแพทย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง
และมี 2 ประเด็นหลัก
🔴 ประเด็นแรก
อาจารย์ศัลยแพทย์ท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่า
ใช้กำลัง ข่มขู่
และทำร้ายร่างกายนักเรียนแพทย์และแพทย์ประจำบ้าน
เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ไม่มีใครจัดการอะไร
🔴 ประเด็นที่สอง
อาจารย์ศัลยแพทย์อีกท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่า
ใช้ผลประโยชน์จากคนไข้
กดดันให้คนไข้ต้องดิ้นรนหาเงิน
เพื่อจ่ายค่าผ่าตัดด้วยวิธีพิเศษราคาแพง
จนมีคนไข้บางรายต้องกู้หนี้ยืมสิน
⸻
ขอพูดให้ชัดก่อนเริ่มโพสต์ ว่า..
โพสต์นี้ไม่ได้เขียนเพื่อเหมารวมอาจารย์แพทย์ทุกท่าน
อาจารย์แพทย์ส่วนใหญ่
เป็นคนดี มีเมตตา
และเหมาะสมกับการเป็น “ครูของแพทย์” อย่างแท้จริง
แต่มีเพียงส่วนน้อย
ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
จนไม่ควรถูกเรียกว่า “อาจารย์แพทย์”
⸻
โพสต์นี้
เขียนขึ้นเพื่อชื่นชมแพทย์ประจำบ้านทีมนี้
ที่กล้านำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
และเพื่อหยุดพฤติกรรมไม่ดี
ไม่ให้เกิดซ้ำกับคนอื่นอีก
และ
เขียนขึ้นเพื่อขอให้ทุกคน
ช่วยกันติดตามและช่วยกันปกป้องแพทย์ประจำบ้าน
เพราะในระบบแบบนี้
คนที่กล้าพูด อาจถูกกลั่นแกล้ง
หรือถูกทำให้ “เรียนไม่จบ” ได้
======================
1️⃣ โพสต์ต้นเรื่องจากแพทย์ท่านหนึ่ง ที่ถูกสั่งให้ลบภายในไม่กี่ชั่วโมง
2️⃣ 📄 จดหมายร้องขอความช่วยเหลือจากแพทย์ประจำบ้านที่ถูกทำร้ายโดยคนที่เรียกตัวเองว่า “อาจารย์แพทย์”
3️⃣ เรื่องราวของอาจารย์แพทย์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "โจรปล้นคนไข้"
4️⃣ แถลงการณ์จากโรงพยาบาลต้นเรื่อง
5️⃣ ถ้าคนพูดถูกลงโทษ ระบบนี้จะไม่มีวันดีขึ้น
======================
1️⃣ โพสต์ต้นเรื่องจากแพทย์ท่านหนึ่ง ที่ถูกสั่งให้ลบภายในไม่กี่ชั่วโมง
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2568
ผมได้รับข้อความจากคนคนหนึ่ง
ขอให้ช่วยอ่านโพสต์ของแพทย์ท่านหนึ่งที่กำลังเล่าเรื่องบางอย่าง
แพทย์ที่เขียนโพสต์นี้
เป็นอาจารย์แพทย์ในโรงเรียนแพทย์เดียวกับที่เกิดเหตุ
ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์
เพียงแต่รู้สึกว่า
“สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ถูกต้อง
และคนทำผิดไม่เคยถูกลงโทษเลย”
จึงตัดสินใจออกมาเล่าเรื่องนี้ให้สังคมรับรู้
⸻
เนื้อหาในโพสต์
กล่าวถึงอาจารย์ศัลยแพทย์ 2 ท่าน
🔴 อาจารย์ศัลยแพทย์ท่านที่หนึ่ง
ถูกเล่าว่า
มีพฤติกรรม ข่มขู่ คุกคาม และใช้ความรุนแรง
กับลูกศิษย์ ซึ่งก็คือแพทย์ประจำบ้าน
ทั้งทางร่างกายและวาจา
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ถูกเล่าไว้ เช่น
• กระชากคอเสื้อแพทย์ประจำบ้าน
• ใช้คำพูดหยาบคาย
• ใช้ถ้อยคำกดทับ ทำร้ายจิตใจ (toxic) ต่อผู้ฟัง
เหตุการณ์เหล่านี้
หลายครั้งจบลงด้วยการที่แพทย์ประจำบ้าน
“เจ็บตัวฟรี” และไม่กล้าเอาเรื่อง
ไม่ใช่เพราะไม่เจ็บ
แต่เพราะกลัวอนาคตตัวเองพัง
ในระบบนี้
อาจารย์แพทย์มีอำนาจโดยตรงต่อการเรียน
ถ้าคุณไม่ยอม
คุณอาจถูกกลั่นแกล้ง
หรือถูกทำให้ “เรียนไม่จบ” ได้
จนการเรียนต่อเฉพาะทางศัลยแพทย์
ในสถานที่แห่งนี้
ถูกเล่าขานกันต่อๆ มาว่า
เป็นที่ที่มีความรุนแรงลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
⸻
🔴 อาจารย์ศัลยแพทย์ท่านที่สอง
ถูกเล่าว่า
ปฏิเสธการผ่าตัดคนไข้รายหนึ่ง
เนื่องจากคนไข้ ไม่มีเงินจ่ายค่าอุปกรณ์พิเศษ
คือการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์
เหตุการณ์ที่ถูกเล่าคือ
คนไข้รายนี้
ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว
ก่อนจะมีการแจ้งในห้องผ่าตัดว่า
ไม่มีเงินจ่ายค่าอุปกรณ์พิเศษดังกล่าวได้
ผลคือ
การผ่าตัดถูกยกเลิก
คนไข้ถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัด
และศัลยแพทย์ท่านนั้นกลับบ้านไป
คนที่ต้องรับหน้าพูดคุย
อธิบายและรับแรงกดดันจากคนไข้
คือ แพทย์ประจำบ้าน
⸻
เหตุการณ์นี้เอง
เป็นจุดที่ทำให้อาจารย์ศัลยแพทย์ท่านที่หนึ่ง
ไม่พอใจอย่างรุนแรง
แต่แทนที่จะเผชิญหน้ากับอาจารย์ศัลยแพทย์ท่านที่สอง
ซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์เหมือนกัน
กลับไม่เลือกทำแบบนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นแทนคือ
ความรุนแรงนั้น
ย้ายมาลงที่แพทย์ประจำบ้านแทน
⸻
โพสต์เล่าเรื่องทั้งหมดนี้
ถูกเผยแพร่อยู่บนโซเชียลมีเดีย
เพียงไม่กี่ชั่วโมง
ก่อนที่ผู้เขียนจะได้รับโทรศัพท์
ขอให้ซ่อนโพสต์นี้ไว้
เพื่อจัดการเรื่องกันภายใน
ไม่ให้กลายเป็นกระแสสังคม
ผลคือ
โพสต์ต้นเรื่องนี้
หายไปอย่างรวดเร็ว
และเรื่องราวก็เงียบลงไป
อยู่ช่วงหนึ่ง
======================
2️⃣ 📄 จดหมายร้องขอความช่วยเหลือ จากแพทย์ประจำบ้านที่ถูกทำร้ายโดยคนที่เรียกตัวเองว่า “อาจารย์แพทย์”
หลังเหตุการณ์ตามที่เล่าในข้อ 1
แพทย์ประจำบ้านศัลยกรรม
ไม่ได้เลือกจะเงียบตั้งแต่แรก
พวกเขาเคย
ร้องเรียนต่อภาควิชา
ร้องเรียนต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาล
ในสถานที่ที่ตัวเองปฏิบัติงานอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น
ก็เป็นแบบเดิมซ้ำๆ
ไม่มีการลงโทษอย่างจริงจัง
มีเพียงการ “ตักเตือน”
ผู้กระทำผิด
ซื้อของมาขอโทษลูกศิษย์
แล้วก็จบกันไป
ก่อนจะวนกลับมาเกิดซ้ำอีกครั้ง
และอีกครั้ง
⸻
ครั้งนี้
แพทย์ประจำบ้านเลือกจะไม่ทน
พวกเขารวมตัวกัน
เขียนจดหมายร้องขอความช่วยเหลือ
ส่งตรงถึง
ประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย
ใจความในจดหมาย
ตรงกับเรื่องที่เคยถูกเล่าในโพสต์ต้นเรื่อง
คือการร้องเรียน
อาจารย์ศัลยแพทย์ 2 ท่าน
• ท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่ามีปัญหาทางอารมณ์
และใช้ความรุนแรงกับลูกศิษย์เป็นประจำ
• อีกท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่าใช้ผลประโยชน์จากคนไข้
จนถูกเรียกด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า
“โจรปล้นคนไข้”
ผู้เขียนจดหมายระบุชัดว่า
อาจารย์ทั้งสองท่าน
ไม่เหมาะสมจะเป็นต้นแบบ
ไม่เหมาะสมจะเป็นแบบอย่าง
และไม่ควรถูกเรียกว่า
“อาจารย์แพทย์”
⸻
ในจดหมายมีการระบุว่า
มีแพทย์ประจำบ้านลาออกจากที่นี่ไปแล้วหลายคน หลายรุ่น
บางคนตัดสินใจลาออกด้วยตัวเอง
ขณะที่บางคนถูกข่มขู่ กดดัน จนไม่สามารถทนอยู่ต่อได้
ผู้เขียนจดหมายเรียกร้องอย่างตรงไปตรงมาว่า
ควรมีการลงโทษทางวินัยต่ออาจารย์แพทย์ที่ถูกร้องเรียน
และหากเป็นไปได้
ควรถอดถอนออกจากการเป็นอาจารย์แพทย์
เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงของคำว่า “อาจารย์แพทย์”
ต้องมัวหมองไปมากกว่านี้
นอกจากนี้ ยังมีการร้องขอให้มีการประณาม
ภาควิชาศัลยศาสตร์
ที่ไม่เคยปกป้องลูกศิษย์
เลือกช่วยเหลืออาจารย์แพทย์ด้วยกันเอง
เพิกเฉยต่อความไม่เป็นธรรม
และมีส่วนร่วมในการปกปิดเรื่องราวเหล่านี้มาโดยตลอด
⸻
ช่วงหนึ่งของจดหมาย
มีถ้อยคำที่สะเทือนใจอย่างมาก
ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของผู้เขียนได้ชัดเจน
“ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย
เราเป็นผู้ถูกกระทำ
เราเห็นความไม่ถูกต้อง
เราถูกข่มขู่
เราจำยอมต้องทำให้มันไม่มีปัญหา
ภาควิชาศัลยศาสตร์รู้เรื่อง
แต่เมินเฉย
อาจารย์แพทย์
ช่วยเหลืออาจารย์แพทย์ด้วยกันเอง
เราเห็นการขูดรีดผู้ป่วย
เราเห็นความไม่ถูกต้องทางจริยธรรมแพทย์
เราเห็นคนไข้ต้องเป็นหนี้นอกระบบ
เราเสียกำลังใจ
และเราเบื่อหน่าย”
⸻
หลังจากราชวิทยาลัยศัลยแพทย์
ได้รับจดหมายฉบับนี้
เรื่องถูกส่งต่อให้
อนุกรรมการพิจารณากรณีดังกล่าว
และมีการทำหนังสือ
ส่งกลับไปยัง
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ของสถาบันต้นเรื่อง
เพื่อขอให้ชี้แจงเหตุการณ์ทั้งหมด
เป็นลายลักษณ์อักษร
ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568
⸻
ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า
กระบวนการพิจารณา
ดำเนินไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้
ไม่สามารถเงียบได้อีกต่อไป คือ
📄 จดหมายร้องขอความช่วยเหลือฉบับนี้
ได้หลุดออกสู่โลกออนไลน์
และถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย
ในวันที่ 12 ธันวาคม 2568
ทำให้สังคม
ได้เห็นสิ่งที่แพทย์ประจำบ้าน
พยายามร้องขอความช่วยเหลือ
มานานแสนนาน
======================
3️⃣ เรื่องราวของอาจารย์แพทย์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "โจรปล้นคนไข้"
หนึ่งในข้อกล่าวหาที่รุนแรงที่สุดในเรื่องนี้
คือกรณีอาจารย์ศัลยแพทย์ท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่ากดดันคนไข้ให้หาเงิน
เพื่อแลกกับการได้คิวผ่าตัดแบบพิเศษ
หากการสอบสวนพบว่าเป็นความจริง
จะถือว่าเป็นการผิดจรรยาบรรณแพทย์อย่างร้ายแรง
⸻
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีต่อ>>>
***มีต่อ
CR
https://www.facebook.com/share/1AHQH9oTT1/?mibextid=wwXIfr
📌 สรุปดราม่าอาจารย์ศัลยแพทย์ 2 ท่าน จากโรงเรียนแพทย์ในกรุงเทพ
ขออธิบายสั้นๆ สำหรับคนทั่วไปว่า
แพทย์ประจำบ้าน (Resident) คือใคร?
แพทย์ประจำบ้าน
คือหมอที่เรียนจบแพทย์แล้ว
มีใบประกอบวิชาชีพแล้ว
และมาเรียนต่อเฉพาะทางในโรงเรียนแพทย์
เช่น ศัลยแพทย์ อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ ฯลฯ
อนาคตทั้งชีวิต
จะได้เป็นหมอเฉพาะทางหรือไม่
ขึ้นอยู่กับ "อาจารย์แพทย์" เป็นอย่างมาก
⸻
เรื่องที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้
ไม่ใช่ดราม่าไร้สาระ
แต่คือ "ครั้งแรก" ที่แพทย์ประจำบ้านกลุ่มหนึ่ง
ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องที่
สังคมแพทย์ไทยรู้กันมานาน
แต่ไม่เคยถูกกล้าพูดในที่สาธารณะ
เรื่องนี้เกิดในโรงเรียนแพทย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง
และมี 2 ประเด็นหลัก
🔴 ประเด็นแรก
อาจารย์ศัลยแพทย์ท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่า
ใช้กำลัง ข่มขู่
และทำร้ายร่างกายนักเรียนแพทย์และแพทย์ประจำบ้าน
เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ไม่มีใครจัดการอะไร
🔴 ประเด็นที่สอง
อาจารย์ศัลยแพทย์อีกท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่า
ใช้ผลประโยชน์จากคนไข้
กดดันให้คนไข้ต้องดิ้นรนหาเงิน
เพื่อจ่ายค่าผ่าตัดด้วยวิธีพิเศษราคาแพง
จนมีคนไข้บางรายต้องกู้หนี้ยืมสิน
⸻
ขอพูดให้ชัดก่อนเริ่มโพสต์ ว่า..
โพสต์นี้ไม่ได้เขียนเพื่อเหมารวมอาจารย์แพทย์ทุกท่าน
อาจารย์แพทย์ส่วนใหญ่
เป็นคนดี มีเมตตา
และเหมาะสมกับการเป็น “ครูของแพทย์” อย่างแท้จริง
แต่มีเพียงส่วนน้อย
ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
จนไม่ควรถูกเรียกว่า “อาจารย์แพทย์”
⸻
โพสต์นี้
เขียนขึ้นเพื่อชื่นชมแพทย์ประจำบ้านทีมนี้
ที่กล้านำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
และเพื่อหยุดพฤติกรรมไม่ดี
ไม่ให้เกิดซ้ำกับคนอื่นอีก
และ
เขียนขึ้นเพื่อขอให้ทุกคน
ช่วยกันติดตามและช่วยกันปกป้องแพทย์ประจำบ้าน
เพราะในระบบแบบนี้
คนที่กล้าพูด อาจถูกกลั่นแกล้ง
หรือถูกทำให้ “เรียนไม่จบ” ได้
======================
1️⃣ โพสต์ต้นเรื่องจากแพทย์ท่านหนึ่ง ที่ถูกสั่งให้ลบภายในไม่กี่ชั่วโมง
2️⃣ 📄 จดหมายร้องขอความช่วยเหลือจากแพทย์ประจำบ้านที่ถูกทำร้ายโดยคนที่เรียกตัวเองว่า “อาจารย์แพทย์”
3️⃣ เรื่องราวของอาจารย์แพทย์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "โจรปล้นคนไข้"
4️⃣ แถลงการณ์จากโรงพยาบาลต้นเรื่อง
5️⃣ ถ้าคนพูดถูกลงโทษ ระบบนี้จะไม่มีวันดีขึ้น
======================
1️⃣ โพสต์ต้นเรื่องจากแพทย์ท่านหนึ่ง ที่ถูกสั่งให้ลบภายในไม่กี่ชั่วโมง
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2568
ผมได้รับข้อความจากคนคนหนึ่ง
ขอให้ช่วยอ่านโพสต์ของแพทย์ท่านหนึ่งที่กำลังเล่าเรื่องบางอย่าง
แพทย์ที่เขียนโพสต์นี้
เป็นอาจารย์แพทย์ในโรงเรียนแพทย์เดียวกับที่เกิดเหตุ
ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์
เพียงแต่รู้สึกว่า
“สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ถูกต้อง
และคนทำผิดไม่เคยถูกลงโทษเลย”
จึงตัดสินใจออกมาเล่าเรื่องนี้ให้สังคมรับรู้
⸻
เนื้อหาในโพสต์
กล่าวถึงอาจารย์ศัลยแพทย์ 2 ท่าน
🔴 อาจารย์ศัลยแพทย์ท่านที่หนึ่ง
ถูกเล่าว่า
มีพฤติกรรม ข่มขู่ คุกคาม และใช้ความรุนแรง
กับลูกศิษย์ ซึ่งก็คือแพทย์ประจำบ้าน
ทั้งทางร่างกายและวาจา
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ถูกเล่าไว้ เช่น
• กระชากคอเสื้อแพทย์ประจำบ้าน
• ใช้คำพูดหยาบคาย
• ใช้ถ้อยคำกดทับ ทำร้ายจิตใจ (toxic) ต่อผู้ฟัง
เหตุการณ์เหล่านี้
หลายครั้งจบลงด้วยการที่แพทย์ประจำบ้าน
“เจ็บตัวฟรี” และไม่กล้าเอาเรื่อง
ไม่ใช่เพราะไม่เจ็บ
แต่เพราะกลัวอนาคตตัวเองพัง
ในระบบนี้
อาจารย์แพทย์มีอำนาจโดยตรงต่อการเรียน
ถ้าคุณไม่ยอม
คุณอาจถูกกลั่นแกล้ง
หรือถูกทำให้ “เรียนไม่จบ” ได้
จนการเรียนต่อเฉพาะทางศัลยแพทย์
ในสถานที่แห่งนี้
ถูกเล่าขานกันต่อๆ มาว่า
เป็นที่ที่มีความรุนแรงลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
⸻
🔴 อาจารย์ศัลยแพทย์ท่านที่สอง
ถูกเล่าว่า
ปฏิเสธการผ่าตัดคนไข้รายหนึ่ง
เนื่องจากคนไข้ ไม่มีเงินจ่ายค่าอุปกรณ์พิเศษ
คือการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์
เหตุการณ์ที่ถูกเล่าคือ
คนไข้รายนี้
ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว
ก่อนจะมีการแจ้งในห้องผ่าตัดว่า
ไม่มีเงินจ่ายค่าอุปกรณ์พิเศษดังกล่าวได้
ผลคือ
การผ่าตัดถูกยกเลิก
คนไข้ถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัด
และศัลยแพทย์ท่านนั้นกลับบ้านไป
คนที่ต้องรับหน้าพูดคุย
อธิบายและรับแรงกดดันจากคนไข้
คือ แพทย์ประจำบ้าน
⸻
เหตุการณ์นี้เอง
เป็นจุดที่ทำให้อาจารย์ศัลยแพทย์ท่านที่หนึ่ง
ไม่พอใจอย่างรุนแรง
แต่แทนที่จะเผชิญหน้ากับอาจารย์ศัลยแพทย์ท่านที่สอง
ซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์เหมือนกัน
กลับไม่เลือกทำแบบนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นแทนคือ
ความรุนแรงนั้น
ย้ายมาลงที่แพทย์ประจำบ้านแทน
⸻
โพสต์เล่าเรื่องทั้งหมดนี้
ถูกเผยแพร่อยู่บนโซเชียลมีเดีย
เพียงไม่กี่ชั่วโมง
ก่อนที่ผู้เขียนจะได้รับโทรศัพท์
ขอให้ซ่อนโพสต์นี้ไว้
เพื่อจัดการเรื่องกันภายใน
ไม่ให้กลายเป็นกระแสสังคม
ผลคือ
โพสต์ต้นเรื่องนี้
หายไปอย่างรวดเร็ว
และเรื่องราวก็เงียบลงไป
อยู่ช่วงหนึ่ง
======================
2️⃣ 📄 จดหมายร้องขอความช่วยเหลือ จากแพทย์ประจำบ้านที่ถูกทำร้ายโดยคนที่เรียกตัวเองว่า “อาจารย์แพทย์”
หลังเหตุการณ์ตามที่เล่าในข้อ 1
แพทย์ประจำบ้านศัลยกรรม
ไม่ได้เลือกจะเงียบตั้งแต่แรก
พวกเขาเคย
ร้องเรียนต่อภาควิชา
ร้องเรียนต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาล
ในสถานที่ที่ตัวเองปฏิบัติงานอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น
ก็เป็นแบบเดิมซ้ำๆ
ไม่มีการลงโทษอย่างจริงจัง
มีเพียงการ “ตักเตือน”
ผู้กระทำผิด
ซื้อของมาขอโทษลูกศิษย์
แล้วก็จบกันไป
ก่อนจะวนกลับมาเกิดซ้ำอีกครั้ง
และอีกครั้ง
⸻
ครั้งนี้
แพทย์ประจำบ้านเลือกจะไม่ทน
พวกเขารวมตัวกัน
เขียนจดหมายร้องขอความช่วยเหลือ
ส่งตรงถึง
ประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย
ใจความในจดหมาย
ตรงกับเรื่องที่เคยถูกเล่าในโพสต์ต้นเรื่อง
คือการร้องเรียน
อาจารย์ศัลยแพทย์ 2 ท่าน
• ท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่ามีปัญหาทางอารมณ์
และใช้ความรุนแรงกับลูกศิษย์เป็นประจำ
• อีกท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่าใช้ผลประโยชน์จากคนไข้
จนถูกเรียกด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า
“โจรปล้นคนไข้”
ผู้เขียนจดหมายระบุชัดว่า
อาจารย์ทั้งสองท่าน
ไม่เหมาะสมจะเป็นต้นแบบ
ไม่เหมาะสมจะเป็นแบบอย่าง
และไม่ควรถูกเรียกว่า
“อาจารย์แพทย์”
⸻
ในจดหมายมีการระบุว่า
มีแพทย์ประจำบ้านลาออกจากที่นี่ไปแล้วหลายคน หลายรุ่น
บางคนตัดสินใจลาออกด้วยตัวเอง
ขณะที่บางคนถูกข่มขู่ กดดัน จนไม่สามารถทนอยู่ต่อได้
ผู้เขียนจดหมายเรียกร้องอย่างตรงไปตรงมาว่า
ควรมีการลงโทษทางวินัยต่ออาจารย์แพทย์ที่ถูกร้องเรียน
และหากเป็นไปได้
ควรถอดถอนออกจากการเป็นอาจารย์แพทย์
เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงของคำว่า “อาจารย์แพทย์”
ต้องมัวหมองไปมากกว่านี้
นอกจากนี้ ยังมีการร้องขอให้มีการประณาม
ภาควิชาศัลยศาสตร์
ที่ไม่เคยปกป้องลูกศิษย์
เลือกช่วยเหลืออาจารย์แพทย์ด้วยกันเอง
เพิกเฉยต่อความไม่เป็นธรรม
และมีส่วนร่วมในการปกปิดเรื่องราวเหล่านี้มาโดยตลอด
⸻
ช่วงหนึ่งของจดหมาย
มีถ้อยคำที่สะเทือนใจอย่างมาก
ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของผู้เขียนได้ชัดเจน
“ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย
เราเป็นผู้ถูกกระทำ
เราเห็นความไม่ถูกต้อง
เราถูกข่มขู่
เราจำยอมต้องทำให้มันไม่มีปัญหา
ภาควิชาศัลยศาสตร์รู้เรื่อง
แต่เมินเฉย
อาจารย์แพทย์
ช่วยเหลืออาจารย์แพทย์ด้วยกันเอง
เราเห็นการขูดรีดผู้ป่วย
เราเห็นความไม่ถูกต้องทางจริยธรรมแพทย์
เราเห็นคนไข้ต้องเป็นหนี้นอกระบบ
เราเสียกำลังใจ
และเราเบื่อหน่าย”
⸻
หลังจากราชวิทยาลัยศัลยแพทย์
ได้รับจดหมายฉบับนี้
เรื่องถูกส่งต่อให้
อนุกรรมการพิจารณากรณีดังกล่าว
และมีการทำหนังสือ
ส่งกลับไปยัง
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ของสถาบันต้นเรื่อง
เพื่อขอให้ชี้แจงเหตุการณ์ทั้งหมด
เป็นลายลักษณ์อักษร
ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568
⸻
ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า
กระบวนการพิจารณา
ดำเนินไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้
ไม่สามารถเงียบได้อีกต่อไป คือ
📄 จดหมายร้องขอความช่วยเหลือฉบับนี้
ได้หลุดออกสู่โลกออนไลน์
และถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย
ในวันที่ 12 ธันวาคม 2568
ทำให้สังคม
ได้เห็นสิ่งที่แพทย์ประจำบ้าน
พยายามร้องขอความช่วยเหลือ
มานานแสนนาน
======================
3️⃣ เรื่องราวของอาจารย์แพทย์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "โจรปล้นคนไข้"
หนึ่งในข้อกล่าวหาที่รุนแรงที่สุดในเรื่องนี้
คือกรณีอาจารย์ศัลยแพทย์ท่านหนึ่ง
ถูกกล่าวหาว่ากดดันคนไข้ให้หาเงิน
เพื่อแลกกับการได้คิวผ่าตัดแบบพิเศษ
หากการสอบสวนพบว่าเป็นความจริง
จะถือว่าเป็นการผิดจรรยาบรรณแพทย์อย่างร้ายแรง
⸻
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
***มีต่อ
CR https://www.facebook.com/share/1AHQH9oTT1/?mibextid=wwXIfr