ถามความรู้สึกของเพื่อนๆ ที่เขียน [SR] ว่ารู้สึกยังงัยบ้างคับ เวลาเขียนรีวิวแล้ว..........????

อยากถามความรู้สึกของเพื่อนๆ ที่เขียน [SR] ว่ารู้สึกยังงัยบ้างคับ เวลาเขียนรีวิวแล้ว

บางอย่างมันขัดกับความรู้สึกส่วนตัวเช่น อาหารอาหารรสชาติเฉยๆ หรือแย่หน่อยคือไม่อร่อย

แต่เวลาเขียนแล้วต้องบอกว่ามัน"อร่อย" หรือมาเที่ยวที่นี่แล้วห้ามพลาด ทั้งๆที่ความจริงคือมันไม่อร่อย

อาศัยอาหารหน้าตาดี ถ่ายรูปสวย แต่ชั้นไปทานของเค้าฟรีมาแล้วยังงัยๆก็ต้องบอกว่าอร่อย

ช่วง ณ จุดหนึ่งที่ต้องพิมพ์ ว่ามัน"อร่อย" ทั้งๆที่มันไม่อร่อย ณ จุดนั้น คุณรู้สึกกันยังงัยหรือคับ???

แล้วคิดต่อมั้ยว่าเวลาคนไปกินตามรีวิวเราแล้วมันไม่อร่อย แล้วนึกต่อไปถึงคนที่ตามอ่านรีวิว..แล้วตามไปกินจะรู้สึกยังงัย???

หรือว่ามันคือธุรกิจ ชั้นได้กินฟรี/ได้ตังค์...ใครจะไปกินก็เรื่องของคุณไม่เกี่ยวกับชั้น อะไรแบบนี้รึเปล่า

หรือประเภทโรงแรม แบบว่าบางอย่างเรารู้สึกติดลบ อาจจะเป็นด้านบริการ หรืออะไรซักอย่าง ที่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่

แต่เวลาเขียนก็ต้องเขียนสิ่งที่ตรงข้ามความรู้สึก อะไรแบบนี้ ตอนนั้นรู้สึกกันยังงัยหรือคับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3

เที่ยวเอง ทานเอง จ่ายตังเอง ย่อมได้สิทธิ์วิจารณ์ตามความรู้สึกจริงๆ สบายใจกว่าเยอะเลย เหอ เหอ เหอ .. ไม่ชอบฝืนใจตัวเองแบบไม่จำเป็น อมยิ้ม17










+++++++++++++ ดังนั้นกระทู้ที่เป็น [SR] มักไม่เข้าไปดูเลย +++++++++++++++

ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าอยากทราบความรู้สึกจริงๆแบบไม่อิงมาม่าก็ขอบอกในฐานะที่เคยทำรีวิวทั้ง CR และ SR เลยว่าน้อยครั้งมากที่ไป SR แล้วจะเจออาหารไม่อร่อยฮะ

การได้รับเชิญไปทำรีวิวยิ่งเป็นรีวิวประเภทร้านอาหารส่วนมากเมนูมักถูกเซ็ตไว้แล้วโดยที่เราไม่ได้เลือกเองฮะเพราะฉะนั้นบอกเลยว่ายังไงมันก็อร่อย กรณีนี้คงไม่มีใครมากระอักกระอ่วนบอกว่ามันไม่อร่อยแน่ๆ ส่วนถ้าคนอ่านตามไปทานแล้วไม่อร่อยเหมือนที่อ่านในรีวิวอาจจะเพราะสั่งเมนูอื่นก็ได้ฮะ

ส่วนรีวิวโรงแรมบางครั้งได้ฟูลบอร์ดบางครั้งจ่ายเองบางมื้ออาหารเราที่เราทานจะต้องสั่งเองก็อาจจะมีทั้งอร่อยและไม่ค่อยอร่อย ถ้าเป็นผมผมจะบอกตามความจริงฮะ อาหารตามโรงแรม4-5ดาวเชฟคงมีความสามารถพอสมควรอาหารแบบแหลกม่ายล่ายยยคงไม่มี แต่อาหารที่รสชาติพอใช้ได้ผมก็จะบอกว่าพอใช้ได้ฮะ

แต่อย่างว่า .. คุณต้องคิดถึงรสลิ้นของตัวเองกับของคนอื่นด้วยว่ามันไม่เหมือนกัน ผมเองบางทีไปทานข้าวที่ไหนกับภรรยาผมบอกโคตะระอร่อยเลย แต่แฟนบอกไม่เห็นอร่อยเลยก็มีเยอะแยะไปครับ

ผมมีคนรู้จักที่เป็นบล็อกเกอร์ชื่อดังเยอะครับ บอกเลยว่าการจะเลือกไปตามคำเชิญที่ไหนเค้าเลือกนะฮะ ไม่ใช่ออกเดินสายกินฟรีนอนฟรีกันอย่างเดียว อยากให้คิดถึงด้วยว่าบล็อกเกอร์ดีๆมีเยอะฮะและคำว่าบล็อกเกอร์สำหรับในเมืองนอกมันคืออาชีพอาชีพนึงที่เค้าใช้ทำมาหากินกันส่วนเมืองไทยอาจจะยังใหม่อยู่ผู้บริโภคอาจจะยังรู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดให้ดูโฆษณา อันนี้ผมห้ามความคิดไม่ได้แต่แค่อยากบอกให้เปิดใจกว้างฮะ ถ้าคุณคิดว่าไม่สบายใจที่จะดูก็ปิดเหมือนเวลาคุณนั่งดูละครแล้วมีช่วงเบรคโฆษณาคุณก็เปลี่ยนช่องไปดูสาระอื่นๆ ไม่อยากให้แอนตี้ SR ฮะผมว่าสำหรับ SR ห้องบีพีนี่ถือว่ายังธรรมดามากเมื่อเทียบกับห้องอื่นๆที่ได้ทั้งสินค้า ค่าขนม SR บีพีแค่ได้เชิญไปนอนก็หรูแล้วฮะผมทำรีวิว SR มาก็เยอะยังไม่เห็นจะได้เงินมาซื้อเลนส์ซื้อกล้องใหม่ได้เลยซักบาท
ความคิดเห็นที่ 50
ผมขอปูพื้นมาก่อนนะครับว่า ตำนาน/ดราม่า เรื่อง CR,SR ในพันทิปนั้นมีความเป็นมาอย่างไร

เว็บบอร์ดพันทิป มีกฎเหล็กอยู่ข้อหนึ่งตั้งแต่อดีตก็คือ "ห้ามโฆษณา"
แต่กระนั้น ในสมัยก่อนก็มักจะมีกระทู้โฆษณาหลุดเข้ามาอยู่เนืองๆ
อาจจะมาจากคนที่ไม่รู้กฎของพันทิป คิดว่าเหมือนเว็บบอร์ดอื่นทั่วๆไปที่เค้าไม่มานั่งตรวจหรือรับแจ้งกระทู้ผิดกฎบ้าง
หรือบางคนก็อาจจะมาแบบเนียนๆ จงใจโฆษณาแต่แอ๊บๆ นิดหน่อย แต่แอ๊บไม่เนียนเลยถูกจับได้บ้าง
กระทู้ก็จะถูกลบ และคนที่ทำบ่อยๆ ก็จะถูกแบนกันไป

ส่วนเรื่องการรีวิว แต่ก่อนรีวิวส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่พักก็มีนิดหน่อยไม่ค่อยเน้นกันเท่าไหร่
รูปที่ถ่ายมาก็แบบบ้านๆ เพราะเป็นนักท่องเที่ยวไม่ใช่ช่างกล้องมืออาชีพ
พอถัดมาหน่อยนึง ก็เริ่มมีการรีวิวรีสอร์ทโรงแรมที่พักกัน เพราะเริ่มมีการทำบูติกรีสอร์ทหรือโรงแรมสวยๆ กันมากขึ้น
คนไปเที่ยวเมื่อพักโรงแรมสวยๆ ก็ถ่ายรูปมาแล้วเอามาบอกต่อกันว่าโรงแรมที่ไปพักสวยดีนะ

จากนั้นก็เริ่มมีคนรีวิวโรงแรมที่พักกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เรียกได้ว่าถ่ายกันทุกซอกทุกมุม
และมีการให้ข้อมูลที่ละเอียดยิบ บอกเลยว่าไปพักโรงแรมนี้ห้องไหนมุมสวยสุด ห้อง type ไหนดีสุด
ถ้าไปพักที่นี่ต้องไม่พลาดกิจกรรมหรือมุมสวยๆ ตรงนั้นตรงนี้ เรียกได้ว่ารีวิวกันละเอียดจนแทบจะหลับตาไปพักได้
รูปภาพที่ประกอบรีวิว จากแบบเดิมที่เป็นภาพบ้านๆ ถ่ายโดยตากล้องบ้านๆ
ก็กลายเป็นรูปจากตากล้องมืออาชีพหรือคนที่มีฝีมือในการถ่ายรูป
หรือบางทีมืออาชีพก็เจาะจงเสียเงินไปพักโรงแรมรีสอร์ทนั้นเลยทีเดียวเพื่อให้ได้รูปสวยๆ มาประดับ portfolio ของตัวเอง
คนที่รีวิวแบบมืออาชีพบ่อยๆ ก็เริ่มมีชื่อเสียงในบอร์ด เป็นที่รู้จักและมีคนติดตามผลงานกันอย่างใกล้ชิด
กลายเป็น login ชื่อดังในบอร์ดที่เวลามีรีวิวเมื่อไหร่ก็จะมีคนติดตามกันอย่างเนืองแน่น

ถึงตอนนี้ เจ้าของกิจการโรงแรมรีสอร์ทก็เริ่มเล็งเห็นผลประโยชน์ทางการตลาดแบบปากต่อปากในเว็บบอร์ด
รวมถึงเห็นว่าเป็นช่องทางในการให้ข้อมูลกับผู้บริโภคว่าที่พักของตนเองมีจุดเด่นอย่างไร
ก็เริ่มติดต่อนักรีวิวชื่อดังให้ไปพักฟรีที่โรงแรม และกลับมารีวิวในบอร์ด
ซึ่งในตอนแรก ก็ไม่ได้มีการแบ่งกระทู้เป็น SR, CR ดังในปัจจุบันนี้ ก็รีวิวกันไป
ก็เริ่มมีคนสงสัยว่านักรีวิวเหล่านี้ทำไมได้ไปพักโรงแรมบ่อยจัง มีรีวิวคลอดออกมาให้ได้ดูบ่อยๆ
มีการรับเงินรับทองหรือรับผลประโยชน์แล้วมาทำรีวิวในบอร์ดหรือเปล่า ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎของพันทิป

จนมาแตกหักเมื่อมีโครงการ TBA ของ KTC (ปีไหนผมจำไม่ได้นะ)
ซึ่งรีวิวของโครงการนั้นในพันทิปถูกทางเว็บลบเกลี้ยง เนื่องจากมีคนแจ้งไปว่ารีวิวเป็นการโฆษณาซึ่งผิดกฎของพันทิป
จนกลายเป็นวิวาทะร้อนแรงในบอร์ดพันทิปในช่วงนั้นไปเลย
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เลยมีการปรึกษาคุยกันว่าจะเอาอย่างไรกับรีวิวประเภทนี้ ที่นักรีวิวได้รับอภินันทาการจากโรงแรมให้ไปพักฟรี
แบบนี้จะเรียกว่าเข้าข่ายได้รับผลประโยชน์จากเจ้าของสินค้า/บริการ/ผู้ประกอบการหรือไม่
ซึ่งทางเว็บก็ได้ผ่าปัญหานี้ โดยนำระบบ CR/SR/BR มาใช้ ดังที่ได้เห็นในปัจจุบันนี้
CR ก็คือ นักรีวิวไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากผุ้ประกอบการ จ่ายเองพักเอง สบายเอง เซ็งเอง
SR ก็คือ นักรีวิวจะได้รับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการเป็นผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการเท่านั้น
ไม่สามารถรับเป็นเงินเป็นทองหรือผลตอบแทนอื่นใดจากผู้ประกอบการได้
สำหรับในห้อง blueplanet ก็คือ ให้ไปพักฟรี ทานอาหารฟรี อาจจะมีค่าเดินทางให้ฟรี
แต่ต้องไม่ใช่การจ้างมารีวิวแบบให้เงินให้ทองหรือผลประโยชน์อื่น
ส่วน BR เป็นรีวิวที่ทางผู้ประกอบการร้องขอมาที่ทีมงานพันทิปเพื่อขอทำกระทู้รีวิว ซึ่งก็คือโฆษณาแบบเต็มรูปแบบ
ในกรณีนี้ทางผู้ประกอบการก็ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาให้กับทางพันทิปนั่นเอง
ซึ่ง BR (แบบเป็นทางการ ไม่ใช่แอ๊บ) ยังไม่เคยเห็นปรากฎในห้อง blueplanet

ซึ่งการที่พันทิปนำระบบ CR/SR/BR มาใช้ เท่ากับพันทิปได้ยอมรับว่า "อนุญาต" ให้มีการ "โฆษณาแฝง" ในพันทิป อย่างเป็นทางการ
แต่ต้องเป็น "โฆษณา" ที่มีรูปแบบตามที่พันทิปกำหนดนั่นเอง

พอพันทิปมีการกำหนดรูปแบบของรีวิวอย่างชัดเจน ก็เกิดรีวิวแบบ SR ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
โดยมีปัจจัยทั้งจากผู้ประกอบการที่มองเห็นการทำการตลาดผ่านทางสื่อออนไลน์
และจากนักรีวิวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวและการถ่ายภาพ แชร์เรื่องราวการท่องเที่ยวรวมถึงภาพถ่ายของตนเอง จนเป็นที่นิยมในบอร์ด
รวมถึงบรรดาช่างภาพมืออาชีพหลายๆ คนที่ต้องการนำภาพไปประดับ portfolio ของตัวเอง

จนทุกวันนี้ที่มีสื่อสังคมออนไลน์อย่าง facebook
บรรดานักรีวิวชื่อดังหลายคนก็เพิ่มช่องทางในการแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวและภาพถ่ายของตนเองบน fan page
ก็ยังอาศัยช่องทางรีวิวในพันทิป เป็นสื่อที่เชื่อมกับ fan page บน facebook อย่างเป็นระบบและกลมกลืน
และรวมถึงบทบาทใหม่ก็คือ การใช้ fan page บน facebook ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการทำการตลาดของผู้ประกอบการด้วย


-----------------------------------------------------------------------

ที่กล่าวไปข้างต้นเป็นมุมมองของนักรีวิวกับรีวิว CR/SR
ทีนี้มาดูมุมมองของคนที่เล่นบอร์ดทั่วๆไป ที่เป็นคนอ่านรีวิวบ้าง

คนที่เข้ามาเล่นบางคนก็แค่เข้ามาหาข้อมูลการท่องเที่ยว บางคนก็เข้ามาอ่านกระทู้ไปเรื่อยๆ
บางคนก็เข้ามาตั้งกระทู้คำถาม บางคนก็เข้ามาตอบกระทู้ ให้ข้อมูล แบ่งปันประสบการณ์ ซึ่งก็รวมถึงการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวด้วย
กระทู้รีวิวเหล่านี้ จึงมีบทบาทสำคัญเป็นข้อมูลให้กับผู้ที่ต้องการหาข้อมูลกาารท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการตอบกระทู้คำถาม
และสิ่งที่คนเล่นบอร์ดจะรับรู้เป็นการทั่วไปอย่างหนึ่งก็คือ พันทิป "ห้ามโฆษณา"

แต่ก็มีหลายครั้งที่การให้ข้อมูลหรือการแบ่งปันประสบการณ์ของบางคน ดูเหมือนเป็นการโฆษณาแฝง หรือที่เรียกว่า "หน้าม้า"
ซึ่งก็มีการแจ้งให้ผู้ดูแลบอร์ดทราบ มีการลบกระทู้และแบน login ที่โฆษณาอยู่เป็นครั้งคราวไป
(โดยมีช่วงหนึ่งที่มีการใช้ระบบ ไฟเขียว/ไฟแดง กดลบหรือกดปล่อยกระทู้ เพื่อลดภาระของผู้ดูแลบอร์ด แต่ก็ได้ยกเลิกไปแล้ว)

การ "ห้ามโฆษณา" จึงเป็นธรรมเนียมปฎิบัติหรือสิ่งที่คนเล่นบอร์ดพันทิปรับรู้มาโดยตลอด และฝังอยู่ในความรู้สึกมาเป็นระยะเวลายาวนาน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากเรื่อง CR/SR ก็เป็นเหมือนเหตุการณ์ที่ทำให้ความรู้สึกของคนเล่นบอร์ดพันทิป รู้สึกสั่นคลอน
เพราะคนที่เล่นพันทิปมานาน จะรู้สึกว่า จุดยืนที่พันทิปยึดถือมาโดยตลอดว่า "ห้ามโฆษณา" ได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว
จึงเป็นประเด็นอ่อนไหวในเรื่องความรู้สึกของคนเล่นบอร์ด
จากเดิมที่อ่าน ถาม ตอบกระทู้ รีวิว เพื่อการแบ่งปัน แชร์ประสบการณ์ที่ได้พบเจอจริงๆ ในฐานะลูกค้าผู้ใช้บริการ
คุยกัน แชร์กัน จัดมิตติ้ง จัดพาเที่ยว โดยไม่มีเรื่องธุรกิจหรือผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
มาบัดนี้พอมีเรื่อง SR พวกเขาก็รู้สึกว่า มันกลายเป็นธุรกิจและการตลาดมากขึ้นกว่าแต่ก่อนไปแล้ว

นักรีวิวที่เคยรีวิวเพราะต้องการแบ่งปันประสบการณ์  ก็กลายเป็นรีวิวเพราะเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดจากผู้ประกอบการ
ทำให้คนเล่นบอร์ดอีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกว่า  รีวิว SR เหมือนกับรีวิว "ใบสั่ง" จากผู้ประกอบการ
ที่ต้องเข้ามา "อวย" หรือเสนอแต่แง่มุมดีๆ ของโรงแรมรีสอร์ท
ข้อมูลคุณภาพของการบริการ ก็อาจจะไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง
ก็จะไม่มีความเที่ยงธรรมหรือเป็นกลางในการรีวิว เนื่องจากได้รับผลประโยชน์นั่นเอง

อย่างที่หลายท่านได้บอกไว้ว่า "ยุคทอง" ของห้อง blueplanet ที่เคยอยู่กันคุยกันเล่นกันอย่างอบอุ่นไม่มีเรื่องธุรกิจแอบแฝง
มันได้ผ่านพ้นไปแล้วนั่นเอง...


--------------------------------------------

เรื่องมหากาพย์ CR/SR จะว่าไปก็อยู่ที่มุมมองและความรู้สึกล่ะครับว่าจะมองจากมุมไหน

จะมองว่าคือการตลาด การร่วมมือกันทำมาหากินระหว่างผู้ประกอบการกับนักรีวิว ก็อาจจะมองอย่างนั้นได้

จะมองว่า โลกเราเปลี่ยนไป ทุกช่องทางทุกอย่างทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต ก็มีการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมด
เรื่องการตลาดในห้อง blueplanet ก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ก็มองได้เช่นกัน

จะมองว่า พื้นที่โฆษณาในโลกนี้มันมีเยอะอยู่แล้ว ขอที่แห่งนี้ บอร์ด blueplanet ไว้สักที่
ที่เป็นที่แบ่งปันประสบการณ์โดยไม่มีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง คุยกัน เล่นกัน แชร์กันอย่างอบอุ่นเหมือน "ยุคทอง" ก็ไม่ผิด


ที่เล่ามาทั้งหมดก็คือสิ่งที่ผมพบเจอมาในการเข้ามาเล่นในห้อง blueplanet ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา

ผมไม่มีบทสรุปของเรื่องราวนี้

แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ "ความเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์"
แล้วแต่ว่า เราจะเลือก "ความเปลี่ยนแปลง" อันนั้นในมุมไหนที่จะเป็นประโยชน์ และเราสบายใจกับมันมากที่สุด

ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 10
รู้แต่ว่า ไม่ค่อยกดเข้าไปดูเลยถ้าเป็นSR
ความคิดเห็นที่ 27
เล่าเรื่องนึงดีกว่า ....
ส่วนตัวผมเอง ทางผู้สนับสนุนที่รู้จักกัน (เจ้าหลักๆ ที่หลายๆ ท่านคุ้นหน้ากันดี) จะรู้อยู่แล้วว่าผมมีเนเจอร์แบบไหน
คือ หลักของผม ผมเขียนตามจริง ตามสิ่งที่เจอ เพราะ ผมไม่อยากให้ใครมาด่าผมลับหลังได้ ถึงไม่ได้ยินแต่ก็เป็นบาปครับ

มีอยู่กาลครั้งหนึ่ง โครงการ Thailand Boutique Award ปี 2011 หรือ 2554 เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
มีสถานที่พักแห่งหนึ่ง 1 ใน 6 แห่ง ที่ผมไป มีปัญหาหนักมาก เข้าขั้นวิกฤต ใครบอกว่า SR ต้องได้รับการดูแลที่ดี ผมว่าไม่เสมอไปนะเพราะ
1. ที่พักแห่งนึ้ ไม่มีใครยอมไป เพราะเดินทางไกล ผมจึงตัดสินใจเดินทางไปเอง (ค่าน้ำมัน ค่าเดินทางออกเอง)
2. ผมเลือกที่พักแห่งนี้ ในคืนสุดท้าย หลังจากที่ไปเก็บข้อมูล 2 แห่งแรกมาเรียบร้อยแล้ว โดยเปิดห้องพักอีกโรงแรมหนึ่งคู่กัน (จ่ายเอง)
3. เหตุผลที่เปิดห้องพักอีกโรงแรมหนึ่งแบบ CR เพราะเรื่องการบริการที่แบบว่า
-- First Impression : เจ้าหน้าที่ Front มองตั้งแต่หัวจรดเท้า (ผมก็แต่งตัวตามปกติ เหมือนนักท่องเที่ยว) มองด้วยหางตา พร้อมทั้ง ให้กรอกเอกสารเช็คอิน แล้วยื่นกุญแจให้
-- ที่พักลักษณะนี้ ส่วนใหญ่จะต้องมี เจ้าหน้าที่พาไปส่งที่ห้องพัก แต่ที่นี่ ผมจะต้องหาห้องพักเอง โดยมีสุนัขนำทางไปส่งถึงห้องครับ (มีอยู่รีวิวเดียว ที่ผมเอ่ยถึงสุนัข พาไปส่งด้วย) ในขณะที่คนแบบว่าไม่ไหวแล้ว
-- ผู้จัดการ she เชิ่ดมากกก ไม่มีการทักทายใดๆ (ซึ่งปกติ ยิ่งเป็นโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ ผู้จัดการมักจะมาคุยด้วย หรือมีเจ้าหน้าที่พาแนะนำสถานที่ แต่ผมก็ไม่แคร์นะ) เผอิญว่า เย็นวันนั้น มีนิตยสารท่องเที่ยวมาถ่ายภาพ she ก็จัดแจงทุกสิ่งอย่างซะเพอร์เฟค จัดโต๊ะริมแม่น้ำ นั่นนู่นนี่ พร้อมดูแลเป็นอย่างดี ส่วนตัวผม ผมก็ใช้บริการตามปกติ แต่ก็รู้สึกได้ว่า เป็น SR ที่มองเราเหมือนเรามาขอพักฟรี กินฟรี ยังไงก็ไม่รู้ เพราะ she ก็มองผมด้วยหางตาแบบแปลกๆ ไม่ได้สนใจใยดี ผมแค่รู้สึกว่า "ขอบริการผมแบบปกติจะได้ไหม"
-- ห้องพักทุกอย่าง ก็ตามปกติครับ ไม่มีอะไรพิเศษ เราก็ถ่ายภาพ ตามหน้าที่ นำเสนอตามสิ่งที่เห็น
-- ประสบการณ์สุดช๊อค : ในเช้าวันรุ่งขึ้น ผมเจอ 'งู' ยาวขนาดครึ่งเมตร เลื้อยผ่านเท้าอย่างรวดเร็ว บนทางเดินด้วย
-- ตอนเช็คเอ้าท์ เจ้าหน้าที่ยื่น CD ให้บอกว่า อยากทราบข้อมูลอะไรก็เปิดใน CD เอาเองแล้วกัน มีครบทุกอย่างแล้ว

โอ้ววววว เป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างแรงใช้ได้ ไม่ลืมเลยครับกับที่นี่ ให้จ่ายเองก็จะไม่มีวันกลับไปเหยียบอีก
หลังจากที่กลับมา เค้าจะมีแบบฟอร์มให้ report ไปยังคณะกรรมการ
ผมก็จัดหนักจัดเต็มทุกอย่างครับ เขียนซะเละเทะไม่มีชิ้นดี แต่สำหรับรีวิวที่ออกสื่อทั่วไปนั้น ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลโครงการบอกว่า ....
"เนื่องจากโครงการเราเป็นโครงการที่ช่วยโปรโมตโรงแรมบูติก อย่างไรรบกวนช่วยเขียนออกไปในเชิงโปรโมตให้เขาหน่อยแล้วกันค่ะ"

รีวิวนั้น จึงเป็นรีวิวเดียว ที่ผม "กัดฟัน" ตัดประสบการณ์ไม่ดีออก แค่ไม่พูดถึงสิ่งไม่ดี ส่วนสิ่งที่ดีก็เขียนตามที่พบเห็นพบเจอ เท่านั้นเองครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่