ก่อนอื่นเราต้อง ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเป็นคนเรียบเรียงไม่เก่ง
อาจจะเล่าเรื่องราววกวนไปมานะคะ เราเป็น single mom ค่ะ แยกกับอดีตสามีตั้งแต่ลูกยังไม่คลอด
มีปัญหากันหนักมาก ช่วงที่เราท้อง ก่อนจะคลอดเราเคยเข้ามาปรึกษาปัญหา ในห้องชานเรือนนี่แหละค่ะ
ตอนนั้นได้รับน้ำใจมากมายจากพี่ๆเพื่อนๆ ในห้องนี้เราซาบซึ้งใจมากว่าคนที่ไม่เคยเห็นหน้า กันจะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
จนเราผ่านอุปสรรคตรงนั้นมาได้แล้วและตอนนี้ลูกสาวเราอายุ 4 ขวบแล้ว แต่ตอนนี้มีปัญหาที่ทำให้ท้อแท้ใจมากๆ คือ
เราได้ย้ายที่ทำงานใหม่เนื่องจากสอบบรรจุรับราชการ ได้ต้องย้ายมาอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง
ตำแหน่งงานใหม่นี้ เราไม่เคยได้รู้จักไม่เคยได้สัมผัสเลย แต่สอบได้เพราะว่าวุฒิการศึกษามันเอื้อ
ไหนๆ ก็สอบได้แล้ว เรียกบรรจุแล้ว ก็ลองดูซักตั้ง ตอนแรกกำลังใจเต็มเปี่ยม
พร้อมสู้ทุกอย่าง แต่ว่าพอทำงานไปได้ซักพัก เราเริ่มมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน
เนื่องจากว่างานตำแหน่งนี้เราไม่เคยทำมาก่อนจึงต้องค่อยๆเรียนรู้ไป
บวกกับงานด้านนี้เป็นงานยุทธศาสตร์ ที่ค่อนข้างยากมากต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ
และต้องเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อยๆ ดังนั้นเราจึงทำงานไม่ทันเนื่องจากเอกสารเยอะมาก
แล้วที่เรามีปัญหาคือ พี่ที่ทำงานเรา สมมุติให้ชื่อพี่เอนะคะ
เค้าเป็นหัวหน้ากลุ่มงานของเรา(แต่เค้าไม่ได้เป็นคนประเมินให้ผ่านทดลองราชการนะ มีพี่อีกคนนึงเป็นคนประเมิน)
พี่เอ เนี่ยพื้นเพของเค้าเป็นจังหวัดนี้ ไม่มีครอบครัว(เป็นเกย์) เพื่อนร่วมงานหรือน้องๆ
ไม่ค่อยมีใครชอบ เพราะเค้าถือว่าอยู่มานานจะเกษียณอีก 3-4 ปีนี้แล้ว
เค้าชอบเอาแต่ใจตัวเองจับผิดคนอื่นๆ ชอบพูดยุให้คนอื่นเค้าทะเลาะกัน
เวลาเลิกงานไม่กลับบ้านจะอยู่ สนง. จนดึกๆ เค้าบอกว่าทำงานจริงหรือป่าวเราไม่รู้
เสาร์-อาทิตย์ ก็เหมือนกันเค้าไม่ไปไหนมาอยู่ สนง. (จนผู้บริหารบ่นว่าเปลืองไฟเพราะเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน)
นี่แหละ ชอบมาทำอะไรๆบนโต๊ะทำงานของเรา มารื้อมาค้นเอกสารบนโต๊ะเรา
เวลาเราไม่อยู่ ชอบเอาอะไรมาวาง เท่านี้ยังไม่พอ
ชอบจับผิดเราว่าเราทำงานทำหรือป่าว เราจะคุยกับใครหรือไปทำอะไรตรงไหน
เราเข้าอินเตอร์เนทหรือป่าว เล่นเฟสบุ๊คมั้ย อย่างบางทีให้เราไปงานด้วย
พี่เค้าไม่ได้บอกว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปพิเศษหรือป่าว
เข้าประชุมไม่ได้บอกให้ เราจดการประชุมซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่เราอยู่แล้ว
เราก็จดงานตามที่เราเข้าใจปกติเราจะมีสมุดจดอยู่แล้ว
สุดท้ายเค้ามาถามว่างานที่ไปน่ะทำรายงานหรือยัง
หรือพิมพ์เสร็จหรือยัง เรางงสิคะไม่ได้บอกให้เราทำ
เราก็ต้องบอกว่ายังไม่เสร็จค่ะ แต่ไม่กล้าเถียงเค้าว่าคุณไม่ได้บอกเราทำนะ
แต่ที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ คือ เราว่าเราต่อหน้าคนเยอะๆ
ว่างานที่ให้ทำไปไม่เคยเสร็จซักอย่าง (ความจริงพูดแรงมากแต่เราสรุปมาได้ประมาณนี้)
แล้วเราเดินไปทางไหนก็จะเดินมา พูดแขวะมางานนั้นเสร็จแล้วเหรอ
งานนี้เสร็จแล้วเหรอ ซึ่งบางงานไม่ใช่งานที่เกี่ยวกับเค้าเลย และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ
เค้าไปบอกพี่ที่เป็นคนประเมินงานเราว่า อย่างงี้จะให้ผ่านงานเหรอวันๆเห็นแต่เล่นเฟสบุ๊คกับตอแ...ล
เราอึ้งค่ะ รู้สึกแย่มาก เรายอมรับ เราเป็นคนบ้านนอก เคยชินกับระบบราชการวัฒนธรรมแบบบ้านๆ
เราค่อนข้างที่จะเรียนรู้งานช้า แต่เราก็พยายามขวนขวายอยู่ตลอดเวลา
เวลาพี่ๆ คนอื่น หรือว่า ผอ. สั่งงานจะทำทันที มีปัญหาจะเข้าไปถามทันที
ไม่เคยมีใครว่า ใครตำหนิเรื่องงานมาเรานำมาแก้ไขทุกอย่าง
สำหรับเฟสบุ๊คเราจะเล่นเฉพาะตอนเที่ยงซึ่งเราถือว่าเป็นเวลาพัก
เราเครียดมากค่ะที่จะต้องมาร่วมงานกับคนแบบนี้ แค่จากบ้านมาไกลก็แย่แล้ว
โทรกลับบ้านร้องไห้กับแม่ทุกวัน เคยขอแม่ว่าหนูไม่เป็นแล้วได้มั้ยราชการน่ะ
หนูอยากกลับไปอยุ่บ้านกับแม่และลูก เป็นห่วงแม่ ห่วงลูก ห่วงยาย
เพราะที่บ้านเรามีกันอยุ่แค่นี้ อยากกลับบ้านไปทำไร่ เลี้ยงหมู ตามประสาคนบ้านนอก
แต่แม่บอกว่า มันเป็นความภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูลเรานะ ที่มีลูกหลานรับราชการ
อดทนเอาต่อไปเราจะผ่านไปได้เอง เฮ้ออออ..... ช่วงนี้เราเลยรู้สึกจิตตกมากๆ
ฟังธรรมะ ก็แล้ว หาหนังสืออ่านก็แล้ว มันยังปลงไม่ได้ซักที
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะอาจจะยาวนิดนึงเนอะ เราแค่มาขอกำลังใจค่ะ

ขอกำลังใจค่ะ
ก่อนอื่นเราต้อง ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเป็นคนเรียบเรียงไม่เก่ง
อาจจะเล่าเรื่องราววกวนไปมานะคะ เราเป็น single mom ค่ะ แยกกับอดีตสามีตั้งแต่ลูกยังไม่คลอด
มีปัญหากันหนักมาก ช่วงที่เราท้อง ก่อนจะคลอดเราเคยเข้ามาปรึกษาปัญหา ในห้องชานเรือนนี่แหละค่ะ
ตอนนั้นได้รับน้ำใจมากมายจากพี่ๆเพื่อนๆ ในห้องนี้เราซาบซึ้งใจมากว่าคนที่ไม่เคยเห็นหน้า กันจะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
จนเราผ่านอุปสรรคตรงนั้นมาได้แล้วและตอนนี้ลูกสาวเราอายุ 4 ขวบแล้ว แต่ตอนนี้มีปัญหาที่ทำให้ท้อแท้ใจมากๆ คือ
เราได้ย้ายที่ทำงานใหม่เนื่องจากสอบบรรจุรับราชการ ได้ต้องย้ายมาอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง
ตำแหน่งงานใหม่นี้ เราไม่เคยได้รู้จักไม่เคยได้สัมผัสเลย แต่สอบได้เพราะว่าวุฒิการศึกษามันเอื้อ
ไหนๆ ก็สอบได้แล้ว เรียกบรรจุแล้ว ก็ลองดูซักตั้ง ตอนแรกกำลังใจเต็มเปี่ยม
พร้อมสู้ทุกอย่าง แต่ว่าพอทำงานไปได้ซักพัก เราเริ่มมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน
เนื่องจากว่างานตำแหน่งนี้เราไม่เคยทำมาก่อนจึงต้องค่อยๆเรียนรู้ไป
บวกกับงานด้านนี้เป็นงานยุทธศาสตร์ ที่ค่อนข้างยากมากต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ
และต้องเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อยๆ ดังนั้นเราจึงทำงานไม่ทันเนื่องจากเอกสารเยอะมาก
แล้วที่เรามีปัญหาคือ พี่ที่ทำงานเรา สมมุติให้ชื่อพี่เอนะคะ
เค้าเป็นหัวหน้ากลุ่มงานของเรา(แต่เค้าไม่ได้เป็นคนประเมินให้ผ่านทดลองราชการนะ มีพี่อีกคนนึงเป็นคนประเมิน)
พี่เอ เนี่ยพื้นเพของเค้าเป็นจังหวัดนี้ ไม่มีครอบครัว(เป็นเกย์) เพื่อนร่วมงานหรือน้องๆ
ไม่ค่อยมีใครชอบ เพราะเค้าถือว่าอยู่มานานจะเกษียณอีก 3-4 ปีนี้แล้ว
เค้าชอบเอาแต่ใจตัวเองจับผิดคนอื่นๆ ชอบพูดยุให้คนอื่นเค้าทะเลาะกัน
เวลาเลิกงานไม่กลับบ้านจะอยู่ สนง. จนดึกๆ เค้าบอกว่าทำงานจริงหรือป่าวเราไม่รู้
เสาร์-อาทิตย์ ก็เหมือนกันเค้าไม่ไปไหนมาอยู่ สนง. (จนผู้บริหารบ่นว่าเปลืองไฟเพราะเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน)
นี่แหละ ชอบมาทำอะไรๆบนโต๊ะทำงานของเรา มารื้อมาค้นเอกสารบนโต๊ะเรา
เวลาเราไม่อยู่ ชอบเอาอะไรมาวาง เท่านี้ยังไม่พอ
ชอบจับผิดเราว่าเราทำงานทำหรือป่าว เราจะคุยกับใครหรือไปทำอะไรตรงไหน
เราเข้าอินเตอร์เนทหรือป่าว เล่นเฟสบุ๊คมั้ย อย่างบางทีให้เราไปงานด้วย
พี่เค้าไม่ได้บอกว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปพิเศษหรือป่าว
เข้าประชุมไม่ได้บอกให้ เราจดการประชุมซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่เราอยู่แล้ว
เราก็จดงานตามที่เราเข้าใจปกติเราจะมีสมุดจดอยู่แล้ว
สุดท้ายเค้ามาถามว่างานที่ไปน่ะทำรายงานหรือยัง
หรือพิมพ์เสร็จหรือยัง เรางงสิคะไม่ได้บอกให้เราทำ
เราก็ต้องบอกว่ายังไม่เสร็จค่ะ แต่ไม่กล้าเถียงเค้าว่าคุณไม่ได้บอกเราทำนะ
แต่ที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ คือ เราว่าเราต่อหน้าคนเยอะๆ
ว่างานที่ให้ทำไปไม่เคยเสร็จซักอย่าง (ความจริงพูดแรงมากแต่เราสรุปมาได้ประมาณนี้)
แล้วเราเดินไปทางไหนก็จะเดินมา พูดแขวะมางานนั้นเสร็จแล้วเหรอ
งานนี้เสร็จแล้วเหรอ ซึ่งบางงานไม่ใช่งานที่เกี่ยวกับเค้าเลย และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ
เค้าไปบอกพี่ที่เป็นคนประเมินงานเราว่า อย่างงี้จะให้ผ่านงานเหรอวันๆเห็นแต่เล่นเฟสบุ๊คกับตอแ...ล
เราอึ้งค่ะ รู้สึกแย่มาก เรายอมรับ เราเป็นคนบ้านนอก เคยชินกับระบบราชการวัฒนธรรมแบบบ้านๆ
เราค่อนข้างที่จะเรียนรู้งานช้า แต่เราก็พยายามขวนขวายอยู่ตลอดเวลา
เวลาพี่ๆ คนอื่น หรือว่า ผอ. สั่งงานจะทำทันที มีปัญหาจะเข้าไปถามทันที
ไม่เคยมีใครว่า ใครตำหนิเรื่องงานมาเรานำมาแก้ไขทุกอย่าง
สำหรับเฟสบุ๊คเราจะเล่นเฉพาะตอนเที่ยงซึ่งเราถือว่าเป็นเวลาพัก
เราเครียดมากค่ะที่จะต้องมาร่วมงานกับคนแบบนี้ แค่จากบ้านมาไกลก็แย่แล้ว
โทรกลับบ้านร้องไห้กับแม่ทุกวัน เคยขอแม่ว่าหนูไม่เป็นแล้วได้มั้ยราชการน่ะ
หนูอยากกลับไปอยุ่บ้านกับแม่และลูก เป็นห่วงแม่ ห่วงลูก ห่วงยาย
เพราะที่บ้านเรามีกันอยุ่แค่นี้ อยากกลับบ้านไปทำไร่ เลี้ยงหมู ตามประสาคนบ้านนอก
แต่แม่บอกว่า มันเป็นความภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูลเรานะ ที่มีลูกหลานรับราชการ
อดทนเอาต่อไปเราจะผ่านไปได้เอง เฮ้ออออ..... ช่วงนี้เราเลยรู้สึกจิตตกมากๆ
ฟังธรรมะ ก็แล้ว หาหนังสืออ่านก็แล้ว มันยังปลงไม่ได้ซักที
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะอาจจะยาวนิดนึงเนอะ เราแค่มาขอกำลังใจค่ะ