ฟ้ามีตา "จำคุกรวด 85 นักรบศรีวิชัย บุก NBT"


ศาลสั่งคุก 1 ปี กลุ่มพันธมิตรยึดช่อง NBT รอลงอาญา 6 คน

Mthainews : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอ่านคำพิพากษาในบุกสถานีวิทยุโทรทัศน์ แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ คดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธเนศร์ คำชุม กับพวก ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัย การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวม 85 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ฯลฯ

ทั้งนี้ โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 22-25 ส.ค.51 จำเลยทั้ง 82 คน กับพวกอีก 3 คน ซึ่งเป็นเยาวชน ร่วมกันบุกรุกอาคารสำนักงานสถานี NBT พร้อมพกอาวุธจำนวนมาก จากนั้นจำเลยได้ร่วมกันทำลายทรัพย์สิน รวมค่าเสียหายทั้งสิ้นกว่า 6 แสนบาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของทางราชการ โดยจำเลยที่ 1 มีเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคม ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่จำเลยที่ 39, 80 มีใบกระท่อม ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 รวมจำนวน 18 ใบไว้ในครอบครอง ในชั้นสอบสวน จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ในข้อหา พกพาอาวุธปืนติดตัวไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจำเลยที่ 39 ให้การรับสารภาพ เฉพาะข้อหามีใบกระท่อมไว้ในครอบครองแต่ภายหลังกลับให้การปฏิเสธ จำเลย ให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 รับว่า ได้ร่วมกับพวกเกินกว่า 5 คน บุกรุกเข้าไปที่สถานีโทรทัศน์ NBT พร้อมกับพกพาอาวุธเข้าไป อันเป็นการกระทำความผิดฐานซ่องโจร แม้ว่าโจทก์จะไม่มีพยานหลักฐานก็ตาม แต่ตามพฤติการณ์บ่งชี้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดดังกล่าว และมีความผิดฐานมีวิทยุสื่อสารในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้จำเลยที่ 1 และ 2 ยังกระทำผิดฐานมีอาวุธปืน และพกพาปืนไปในที่สาธารณะด้วย ส่วนจำเลยอื่นนั้นโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยคนใดพกพาปืนชนิดไหน จึงลงโทษจำเลยอื่นไม่ได้ ส่วนความผิดฐานมั่วสุม บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์นั้น เห็นว่า การวินิจฉัยว่าจำเลยใดกระทำความผิดนั้น ต้องพิจารณาไปตามข้อเท็จจริงเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นเพียงการที่จำเลยร่วมกันบุกรุก สถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุ NBT เท่านั้น

นอกจากนี้ ในความผิดฐานกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น เห็นว่า จากการนำสืบของพนักงานสอบสวนพยานโจทก์ระบุว่า นาย สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศชักชวนอาสาสมัครที่จะไปชุมนุมที่ สถานีโทรทัศน์ NBT ให้ไปรวมกลุ่มที่ ลานพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 ซึ่งเกิดหลังจากที่ กลุ่มจำเลยกระทำการดังกล่าวไปแล้ว จึงไม่อาจรับฟังได้ว่า จำเลยทั้งหมด จะมีเจตนาร่วมกันกับแกนนำได้ อีกทั้งไม่ปรากฏว่าเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แม้จะปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการบุกรุกสถานีโทรทัศน์ NBT ก็ตาม แต่เป็นเพียงความผิดฐานบุกรุก เท่านั้น และจำเลยทั้งหมดยังไม่มีความผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันข่มขืนใจ อีกด้วย เนื่องจากโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดในความผิดฐานดังกล่าว ส่วนจำเลยที่ 39 และ 80 มีความผิดฐานยาเสพติด ใบกระท่อมในครอบครอง

พิพากษาว่า ศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 1-41 และ 43?85 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 210 วรรคแรก 365 (1) (2) (3) ประกอบมาตรา 364 ,83 ขณะกระทำผิด จำเลยที่ 30,47,81 อายุยังไม่เกิน 20 ปี เห็นสมควรลดโทษมาตราส่วนโทษ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 76 จำเลยที่ 83-85 อายุต่ำกว่า 18 ปี เห็นสมควรละโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 75 ฐานเป็นซ่องโจร จำคุกจำเลยที่ 1-29 ที่ 31-41 ที่ 43-46 ที่ 48-80 ที่ 82? จำคุกคนละ 1 ปี จำคุกจำเลยที่ 30 ที่ 47 ที่ 81 คนละ 8 เดือน? สั่งจำคุกจำเลยที่ 83-85คนละ 6 เดือน ฐานบุกรุก จำคุกจำเลยที่ 1-29,31-41 ,43-46,48-80 และที่ 82 คนละ 1ปี จำคุกจำเลยที่ 30 ,47,81 คนละ 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 83-85 คนละ 6 เดือน

จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิวรรคหนึ่ง, 72 วิ วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 1 ปี และความผิดพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 มาตรา 6 และ 23 สั่งจำคุก 1 ปี

จำเลยที่ 2 มีความผิดพ.ร.บ.อาวุธปืน มาตรา 7และ72วรรคสอง สั่งปรับ 1 พันบาท ส่วนจำเลยที่ 39 และ80? มีความผอดตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง 76 วรรคสอง สั่งปรับคนละ 1 พันบาท เพิ่มโทษจำเลยที่ 24 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 92 รวมเป็นจำคุกกระทงละ 1 ปี 4 เดือน การกระทำของจำเลยที่ 1-41 และ 43-85 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำเลยรับข้อเท็จจริงว่าได้ร่วมกันบุกรุกอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน

จำเลย ที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพ ความผิดตามพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ จำเลยที่ 39 และ 80 ให้การรับสารภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา? มีเหตุบรรเทา โทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 18 เดือน และจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน และสั่งปรับ 500 บาท ส่วนจำเลยที่ 3-29, 31-38 ,40,41,43-46 ,48-79 และ 82 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 39และ 80 มีกำหนด 1ปี 6 เดือน ปรับ 500 บาท จำเลยที่ 30,47และ81 มีกำหนด 12 เดือน จำเลยที่ 83-85 มีกำหนด 9 เดือน จำเลยที่ 24 มีกำหนด 1 ปี 12 เดือน ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 30 ,47,81,83,85 ได้รับโทษจำคุกมาก่อน

ขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 30 ,47 และ 81 อายุยังไม่เกิน 20 ปี จำเลยที่ 83-85 ยังเป็นเยาวชน จึงเห็นควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษจำเลยดังกล่าวไว้มีกำหนด 2 ปี ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในกำหนดเวลา 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 หากจำเลยที่ 2 ที่ 39 และ 80 ไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29และ30? และให้ริบของกลางโดยให้วิทยุตมนาคมไว้ใช้ในราชการของสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ข้อหาและคำร้องอื่นให้ยก

โดย Mthai News
จาก http://news.mthai.com/headline-news/98736.html
จาก http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6936220/P6936220.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่