ประสบการแรกในการทำงาน

สวัสดีครับ ผมขอเล่านิดเดียวครับ
ทำงานกับเพื่อนมา 3 คนครับ ทำได้ประมาณ 3 เดือน เป็นบริษัท software house เงินเดือนโอเคครับแต่การทำงานในความคิด
มันไม่โอครับ คือเราต้องศึกษาเองทุกอย่างครับเข้าใจครับว่าทำงานก็ต้องศึกษาเองบ้าง แต่ไม่เข้าใจที่โปรเจ็คเดียวรับผิดชอบคนเดียว เด็กจบ
ใหม่ไร้ประสบการณ์ก็ google สิครับช่วยท่านได้ ในเวลาคับขัน แล้วคือก็ไม่รู้ว่าอันไหนมันควรทำยังไง ก็ทำได้แค่ให้มันผลลัพออกมาดี ออกมาถูกครับ (Programmer) และสวัสดิการ ก็พูดตอนเข้างานว่ามีกินเลี้ยงทุกเดือน มีเทียวประจำปี ประกันสังคม โบนัส แต่ทำไป 3 เดือน กินเลี้ยงทุกเดือนยังไม่เคยเจอเลยครับ เที่ยวประจำปีมีจริง แต่ไม่ได้ไป(ไม่ไปเองเพราะบรรยากาศไม่น่าไปครับ) ประกันสังคมยังไม่ได้เพราะยังไม่ผ่านงานอันนี้เข้าใจครับ หลายคนอาจจะคิดว่า แค่กินเลี้ยงประจำเดือนเอง ไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ แต่สำหรับเด็กจบใหม่ที่จะต้องรับภาระทางบ้านด้วย ทุกอย่างที่คุณพูดมาว่าเป็นสวัสดิการที่ควรจะได้รับก็ควรที่จะได้รับครับ
ปัญหาเริ่มเกิดเมื่อ เพื่อนอีก 2 คน ลาออกครับ ผมก็เลยโดย CEO(เค้าชอบเรียกตัวเองว่าอย่างนั้น -" เข้าไปคุย เข้าใจครับว่าเค้าเรียกไปคุยเพื่อไม่อยากให้เราออก แต่เค้าเหมือนจะใช้ผิดแผน โดยการพูด-ดันม.เอกชนที่พวกผมจบมาว่า ตอนแรกไม่เคยไว้ใจเลย (แต่ที่บริษัท มีคนทำงานมาก่อน ก็ม.เอกชนเดียวกัน 3 คน นอกนั้นก็ต่างจังหวัด ม.ราชฎัช) แล้วเค้าก็ว่าเพื่อนผมให้ผมฟัง แหม่ ฟังแล้วอยากจะทำงานให้ที่นี่ต่อเลยครับ บอกตรงๆ ก็คือผมรู้สึกแย่มากกับคำพูดของเค้า ความจริงผมก็หางานไว้บ้าง แต่คือก็ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรอยู่ไปก่อนก็ได้ แต่พอผมได้ยินส่งที่เค้าพูดมาแล้วมันทำให้ผมพยายาม....พยายามที่จะหางานใหม่ให้ได้ครับ ถึงแม้ตอนท้ายเค้าจะพยายามเสนอสวัสดิการที่เค้าคิดจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำ เช่นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสุขภาพ มาให้ แต่ผมคิดว่ามันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อคนทำร้ายความรู้สึกเราไปหมดแล้ว (จากเดิมก็มีน้อยอยู่แล้ว) ผมเลยพยายามหางานจนได้งานใหม่ เงินเดือนน้อยกว่านิดหน่อย แต่เป็นบริษัทค่อนข้างจะใหญ่(อาจจะไม่ใหญ่มาก) ผมคิดอย่างเดียวคือ บริษัทเค้าใหญ่ พนักงานเยอะ ทำงานกันเป็นทีม มีเบี้ยขยัน ผมก็เลยมาขอลาออก ตอนแรกผมไม่กล้าเข้าไปพูดกับ CEO ผมเลยคุยผ่านหัวหน้าไป ดังหวังครับ หัวหน้าเอาไปบอก CEO CEO ก็อารมเสียครับ เพราะ Programmer เหลือน้อย (เหลือเพียงแค่สามารถเติม S ได้) CEO ก็เลยระบายลง หน้าเฟสบุคครับ ซึ่งผมไม่มีเฟสบุคเค้า แต่พี่ที่ทำงานมีครับ (พี่ที่ทำงานคนนี้ก็กำลังจะออก) เค้าก็เปิดให้ผมดูว่าเค้าพูดว่ายังไง เอาคร่าวๆ นะครับ เค้าก็อ้างถึงม.เอกชนว่า ทำไมเด็กสมัยนี้ คิดจะออกก็ออก เสียหายไป 400000 บาท สวัสดิการเพียบจะเอาอะไรกันอีก ซึ่งไอ้สวัสดิการเพียบที่เค้าว่ามา ที่ผมได้รับตอนทำงานอยู่ก็อย่างที่พูดมาครับ อ้อ ยังมีอีก 2 อย่างที่ผมได้มาคือ เสื้อบริษัท กับ แต่งกายตามสบาย เค้าก็บอกว่ามันคือสวัสดิการ ผมอ่านผมก็อึ้งเล็กน้อยว่า เฮ้ยยย เราทำให้ม.เอกชนเสียชื่อ ซึ่งผมก็ต้องขอโทษด้วยครับสำหรับเรื่องนี้ แต่ไอ้เสียหาย 400000 นี่ผมก็ไม่เข้าใจว่าในฐานะ CEO เค้าคิดยังไง เพราะเงินเดือนพวกผม 3 รวมกัน 3 เดือนยังไม่ถึง 150000 ด้วยซ้ำ และแล้วเวลาที่ CEO เรียกผมเข้าไปคุยก็มาถึง(คือกะจะเข้าไปบอกเค้าแต่เค้าดันเรียกเค้าไปก่อน) ตอนแรกผมจะขอออกตอนสิ้นเดือนครับ แต่พอเข้าไปคุย เค้าบอกให้ผมจ่ายงานให้หัวหน้า (หัวหน้าทีงานเยอะอยู่แล้ว) แล้วก็ทำแค่วันศุกก็พอ (ศุกร์กลางๆ เดือน) แล้วเค้าก็ถามหาวันหยุดว่าผมหยุดไปเยอะไหม (คือเดือนที่จะออกผมยังไม่ได้หยุดครับ แต่ 3 เดือนที่ผ่านมา ก็ไม่เกิน 5 วัน ป่วยบ้าง หางานบ้าง แต่ก็ยอมรับว่าเยอะ) ผมก็ไม่รู้จะตอบของเดือนไหน เค้าเลยบอกว่าไม่เป็นไร มีใบลานิ เด๋วเช็คจากใบลาเอา ซึ่งผมอึ้งครับ ว่าเค้าจะเอาวันหยุดมาหักสำหรับเวลาที่เหลือของเดือนนี้เหรอ ผมเลยรู้สึกนิดๆ ว่า ผมคิดถูกแล้วที่ลาออกมา ต่อให้ผมจะดูไม่ดีในสายตาเค้า แต่ชีวิตคนเราเรา(มนุษย์เงินเดือน) มันก็ยังที่จะต้องก้าวหน้าและเดินต่อไป มันไม่ง่ายเลยครับที่จะหางานที่ทำให้เราก้าวหน้าได้ และในสายอาชีพแบบนี้ผมคิดวาถ้าผมแก่ตัวไปจนตามเทคโนโลยีไม่ทันผมก็ต้องหาบริษัทที่ผมยังสามารถอยู่ได้ ในตำแหน่งอื่น โดยใช้ประสบการณ์มากกว่าความถนัดในการเขียน code (เพ้อฝันอยู่ครับ) ผมก็แค่อยากจะมาเล่าให้ฟังเท่านั้นละครับ ใครจะคิดยังไง ตอนนี้ผมก็ได้ออกมาแล้ว ยังไง เด็กที่จบใหม่ ถ้าไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้ก็ค่อยๆ หานะครับ ลองศึกษาดูให้ดีนะครับ เพราะจากการทำงานมา 3 เดือน บอกตรงๆ ว่าเราได้งาน แต่ความรู้ที่เราได้ มันแทบไม่สามรถเอาไปใช้ในการสมัครงานใหม่ได้เลย เพราะเราพึ่งพี่ google ซะส่วนใหญ่ครับ มันเลยกลายเป็นความจำฉันสั้น แต่งานฉันยาววววววววววววววว  
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมก็ต้องขอโทษที่ทำให้ม.เอกชน ดีๆ กลายแห่งถูกเหมารวมในสถานะนั้นไปด้วยนะครับ
ผมเพิ่งตั้งกระทู้เป็นครั้งแรก ผิดพลาดอะไร ขอโทษด้วยนะครับ