วายร้ายใกล้ตัว..ที่เรามักมองข้ามไป

กระทู้สนทนา
หลายครั้ง หลายหน ที่ความลังเล,ความกลัว,ความหวังดีจากคนรอบข้างถูกระบุเป็นจำเลยสำคัญที่ทำให้เราไปไม่ถึงไหน แต่มีสาเหตุอยู่อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ดิฉันไม่เคยมองเห็นมันเลย ว่ามันเป็นสาเหตุสำคัญที่ฉุดดึงรั้ง ผลสำเร็จเอาไว้

สิ่งนั้นก็คือ"ทางเลือก"ค่ะ

ทางเลือกที่มีรอเราอยู่ ทางสำรองที่คอยให้เราหันไปหามัน เวลาที่เราทำอะไรสักอย่าง ซึ่งทีแรกเราก็ปราถนาจะทำมันจริงๆจังๆนั่นแหละ แต่ไม่ว่าการจะทำอะไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่ประกอบไปด้วยส่วนที่เราชอบและส่วนที่เราไม่ชอบ ในช่วงแรกจะเริ่มด้วยส่วนที่เราชอบก่อน(แน่นอน..ไม่งั้นเราคงไม่เริ่มลงมือหรอก..จริงไหม?) เมื่อเวลาช่วงแรกนี้ผ่านไป(ดิฉันเรียกมันว่า"ช่วงฮันนีมูน) ก็เริ่มเข้าสู้โหมด"ชีวิตจริง" ที่เราต้องเริ่มเผชิญแล้ว

เช่น เราอยากเปิดร้านกาแฟ ช่วงแรกๆ ก็จะเป็นการคิดชื่อร้าน หาโลเกชั่น หาคอนเซ็ปต์ร้าน ออกแบบร้าน อู๊ยยย!น่าสนุกทั้งนั้น งานท้าทายทั้งนั้นเลย แต่พอเราเริ่มเปิดไปไม่นาน เราก็ต้องเผชิญกับ นานาแบบทดสอบ ที่เริ่มดาหน้าเรียงแถวกันเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้าไม่ค่อยเข้าร้าน...พนักงานขาดงานบ่อย...สิ้นเดือนอีกแล้ว ต้องจ่ายค่าเช่าอีกแล้วสิ(ไม่พอก็ต้องควักทุนเพิ่ม)...จนกระทั่ง มีคู่แข่งมาเปิดใกล้ๆแต่แต่งร้านน่าเข้ากว่าเราและชงกาแฟอร่อยกว่าเรา

  ถ้าเราไม่มีทางเลือก ถ้าเงินที่ลงทุนลงไปทั้งหมด คือเงินก้อนเดียวที่เรามี อาชีพอื่นเราก็ไม่มีแล้ว เพราะเราทุ่มหมดตัวหมดใจกับสิ่งนี้ เท่ากับตอนนี้เราไม่มี"ทางเลือก"แล้ว ใช่ไหมคะ? สิ่งเดียวที่เราทำได้ ก็คือ"สู้ตาย"เท่านั้น

  ไม่ว่า จะเป็น คิดค้นโปรโมชั่น...ออกไปแจกใบปลิว...หาช่องทางโฆษณาประชาสัมพันธ์ร้าน หรือคิดกลยุทธสารพันบรรดามี เพื่อให้เราประคองนาวานี้ผ่านไปได้

  แต่ถ้าไม่ใช่ ร้านกาแฟนี้ก็แค่หนึ่งในร้อยโครงการที่เราคิดและทำ(อีกแล้ว) เงินทุนก็หาใหม่ได้เหลือเฟือ หรือมีคุณพ่อคุณแม่พร้อมจะสนับสนุนอีกกี่ร้อยพันโปรเจ็คที่เราขายฝันให้เขา สิ่งที่เราทำ ก็แค่หาคำแก้ตัวดีๆ ฟังดูสละสลวย ฟังดูดี ที่จะบอกกับใครๆ(หลังจากที่เราอุตส่าห์ทุ่มเทเวลาไปแล้ว ตั้ง2เดือน!!)

  ไม่ว่าจะเป็น..ไม่มีเวลาเลย ติดโปรเจคอื่น ยุ่งมว้ากกกกค่ะ...เด็กพนักงานหาดีไม่ได้ ที่หาได้ก็ไม่ดี.....ทำเลที่ได้ ไม่ดีเลย ไม่มีคน...บลาๆๆๆ

  แล้วเราก็กลับไปสู่โหมด"ทางเลือก" ที่มีอยู่อย่างมากมาย รอเราอยู่อย่างอบอุ่นและมีไมตรี พร้อมที่จะโอบกอดปลอบประโลม หาเหตุผลมาสนับสนุนเรา("ทางเลือก"เค้าอ่อนโยนเสมอ ไม่โหดร้ายเหมือน"ความมุ่งมั่น"หรอกค่ะ เจ้าความมุ่งมั่นเนี่ยะ ดีแต่จะผลักดันให้เราสู้ยิบตา ไม่เค้ย ไม่เคยปราณี ต่อความอ่อนล้าหรือท้อถอยของเราเล้ยยย)

   เห็นไหมคะ? ว่าบางครั้ง สิ่งที่ทำให้เราทำอะไรไม่สำเร็จลุล่วงไปได้ คือเจ้าตัว ที่หน้าตาซื้อ ซื่อ ดูใสๆไร้เดียงสา ที่ชื่อว่า"ทางเลือก"นี่เอง ดูไร้พิษสง จนเราไม่อาจคาดคิดถึงผลกระทบจากมันเชียวค่ะ

   เมื่อวานนี้ ดิฉันโพสต์ แนะนำหนังสือเล่มหนึ่งไป

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เอามาลงไว้ เผื่อถ้าท่านยังไม่เห็น นักเขียน(จอห์น แนช) เขียนได้อย่างตรงไปตรงมา เหมือนแส้คมๆ ที่โบยตีเข้ากลางหลังดิฉัน เหมือนกระจกเงาคุณภาพสูง ชัดเป๊ะ จนเราต้องเบือนหน้าหนี ค่าที่สะท้อนภาพ สิวไฝฝ้า รอยเหี่ยวย่นออกมาครบทีเดียว

หลังจากอ่านบทความนี้จบครั้งแรก หลังจากกระแทกปิดหนังสือหน้านั้นด้วยความขุ่นเคือง หลังจากพูดรัวๆต่อเนื่องว่า"ใช่ซี้..ชั้นมัน...,ใช่ซี้ๆๆๆๆ"ผ่านไปได้สักพัก สติเริ่มกลับคืน เริ่มมองเห็นและยอมรับว่า มันก็จริงนะ"

   (ถ้าใครจะจำได้ กระทู้แนะนำเกี่ยวกับชายคนหนึ่ง ที่มาแชร์ประสบการณ์ขายหนอน "ชีวิตจากข้างถนนสู่เดือนละสน" มีอยู่คำนึงที่เค้าพูไว้"ถ้าคุณทำอะไรให้ใครแบบ"เผื่อๆ" สิ่งที่คุณได้รับกลับมาก็จะเป็นแบบ"เผื่อๆ"เหมือนกัน)

คุณล่ะคะ เคยมั้ย? เคยมีประสบการณ์ที่ถูก"ทางเลือกอันไม่สิ้นสุด"ทำให้เราสู้แบบเผื่อๆไหมคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่