จากสาเหตุที่รถของครอบครัวถูกเหล็กฉากก่อสร้างหล่นจากรถที่ทำประกันชั้นหนึ่งจากมิตรแท้ประกันภัย และรถของเราประสบอุบัติเหตุทับเหล็กฉากก่อสร้างชิ้นนั้น แต่คืนที่ประสบอุบัติเหตุเวลาประมาณห้าทุ่ม คู่กรณีได้ขับรถหนีไป ทำให้ทางเราต้องช่วยเหลือกันเอง โดยต้องหารถมาลากรถของเราที่ไม่สามารถขับได้เข้าไปฝากอู่ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งตอนนั้นทางเราก็เห็นแต่ศูนย์ฮอนด้าที่มี รปภ. เฝ้าอยู่ที่สามารถจะเอารถไปฝากไว้ได้ จึงขอร้องให้ รปภ. ช่วยเปิดประตูรับรถของเราจอดเก็บไว้ที่ศูนย์ด้วย เพราะถ้ารถของเราจอดอยู่ข้างถนน รถของเราอาจจะหายได้ ขอแจ้งว่ารถของเรานั้นซ่อมและตรวจตามระยะทางที่ศูนย์มาโดยตลอด ทางเราได้เข้าแจ้งความกับตำรวจตั้งแต่คืนนั้น (วันที่ 1 พ.ค. 2556) และเข้าไปทำเอกสารแจ้งความกับตำรวจในเช้าวันถัดมา ตำรวจสามารถตามคู่กรณีเจออีก 2 อาทิตย์ถัดมา (วันที่ 15 พ.ค. 2556) และทางคู่กรณียอมรับผิดทั้งหมดและให้มิตรแท้ประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถของเราให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม โดยทางตัวแทนของมิตรแท้ประกันภัยชื่อคุณเพชร 086-028-2929 ได้เข้าไปดูรถที่จอดรอซ่อมที่อู่ด้วยกัน และตัวแทนมิตรแท้ประกันภัยคุณเพชร แจ้งว่ามีวงเงินซ่อมประมาณ 50,000 บาท โดยให้ทางเราสำรองจ่ายค่าซ่อมไปก่อนแล้วจึงไปเคลมค่าใช้จ่ายคืนในภายหลัง เวลาทั้งหมด 2 เดือนที่รถของเราซ่อมอยู่ในอู่ เมื่อรถซ่อมเสร็จทุกอย่างในวันที่ 2 ก.ค. 2556 เรื่องทั้งหมดควรจบที่ทางเราได้รับเงินเคลมค่าสินไหมจากค่าซ่อมรถที่ได้สำรองจ่ายไปก่อน แต่ปรากฎว่าเรื่องได้ถูกโยนจากตัวแทนชื่อ คุณเพชร ไปให้ตัวแทนอีกคนชื่อ คุณฐปนรรม์ 084-454-0179 ซึ่งยื้อเวลาการรับเอกสารเพื่อทำเรื่องเคลมค่าสินไหมถึง 2 อาทิตย์ เมื่อคุณฐปนรรม์รับเอกสารการเคลมค่าสินไหมไปให้ส่วนกลาง ทางส่วนกลางของมิตรแท้ประกันภัยก็ไม่ได้ทำการติดต่อกลับทางเราเลย ทางเราจึงต้องพยายามติดต่อไปและติดต่อได้อีกประมาณ 2 อาทิตย์ถัดไป โดยได้พูดคุยกับคุณสมพร 02-647-7777 ต่อ 6205 คุณสมพรแจ้งว่าทางผู้จัดการไม่ยอมรับจำนวนเงินที่ทางเราทำเรื่องเคลมไปและแจ้งว่าทางบริษัทอาจจะจ่ายคืนให้ทางเราประมาณ 20,000 บาท และท้าทายให้ทางเราไปฟ้องค่าเสียหายเพิ่มเติมเอาเอง โดยบอกว่าคุณสมพรแจ้งว่ารถไม่น่าเสียหายมากขนาดนั้น แต่เราไม่สามารถยอมรับในค่าสินไหมนั้นได้ คุณสมพรจึงให้เราไปพบกับตัวแทนอีกคนชื่อคุณพสธร 089-137-8919 โดยให้เราเอาอะหลั่ยที่เสียหาย และภาพถ่ายทั้งหมดไปให้กับคุณพสธร เพื่อยืนยันความเสียหายขอตัวรถ และทำเรื่องขอค่าสินไหมเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2556 และในวันนี้ (1 ส.ค. 2556) ทางเราได้โทรสอบถามคุณสมพรถึงการสรุปยอดค่าสินไหมจากการเคลม คุณสมพรแจ้งว่าทางมิตรแท้ประกันภัยสามารถจ่ายค่าสินไหมที่ยอด 32,000 บาท และค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถจำนวน 2 เดือนเมื่อได้รับเอกสารจากคุณพสธรที่ยอด 10,000 บาท รวมยอดทั้งหมดคือ 42,000 บาท ถ้าหากเรายอมรับยอดค่าสินไหมนั้นทางมิตรแท้จะส่งเอกสารมาให้เซ็นต์ แต่ทางเราไม่สามารถยอมรับในค่าสินไหมนั้นได้ ขอเรียนให้ทราบว่าค่าใช้จ่ายจากการซ่อมรถจากอุบัติเตุครั้งนี้ เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 52,206 บาท หากหักค่าใช่จ่ายที่เป็นของเหลวออกจะเหลือค่าใช้จ่ายจากการซ่อมที่ทางมิตรแท้ควรต้องจ่ายคืนให้ทางเราที่จำนวน 49,000 บาท รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการที่เราต้องเช่ารถใช้อีก 2 เดือนช่วงที่รถเข้าซ่อมที่อู่ เพราะเรามีรถใช้เพียงคันเดียว
ถ้าหากทางมิตรแท้ประกันภัยเห็นควรให้จ่ายสินไหมให้ทางเราตามยอด 42,000 บาท ตามที่คุณสมพรแจ้งมา ทางเราไม่สามารถยอมรับยอดค่าสินไหมนั้นได้ และจะเข้าดำเนินการฟ้องร้องค่าเสียหายทั้งหมดที่เป็นธรรมกับทาง คปภ. ต่อไป (ทางเราได้ติดต่อทางคู่กรณีและแจ้งเรื่องการเคลมค่าสินไหมที่เราได้รับยอดจากทางมิตรแท้ประกันภัย และขอให้คู่กรณีที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับมิตรแท้ประกันภัยช่วยเหลือด้วยเช่นกัน)
...ขอให้ทุกท่านที่อ่านทราบว่าการบริการของมิตรแท้ประกันภัยเป็นเช่นนี้ ทางเราไม่มีความผิดใดๆ เลย แต่ต้องมาเสียเวลาในการซ่อมรถถึง 2 เดือน และเสียเวลาจากการขอรับเงินเคลมค่าสินไหมตามยอดที่เราควรได้รับจากการเป็นบุคคลที่ 3 ที่ได้รับความเสียหาย เป้นเวลา 1 เดือนจนถึงปัจจุบัน และอาจยืดเยื้อไปอีก....
...เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ เป็นแค่ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุที่ต้องการขอความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ครั้งนี้...
ร้องเรียนมิตรแท้ประกันภัย หมายเลขเคลม: C130502977
ถ้าหากทางมิตรแท้ประกันภัยเห็นควรให้จ่ายสินไหมให้ทางเราตามยอด 42,000 บาท ตามที่คุณสมพรแจ้งมา ทางเราไม่สามารถยอมรับยอดค่าสินไหมนั้นได้ และจะเข้าดำเนินการฟ้องร้องค่าเสียหายทั้งหมดที่เป็นธรรมกับทาง คปภ. ต่อไป (ทางเราได้ติดต่อทางคู่กรณีและแจ้งเรื่องการเคลมค่าสินไหมที่เราได้รับยอดจากทางมิตรแท้ประกันภัย และขอให้คู่กรณีที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับมิตรแท้ประกันภัยช่วยเหลือด้วยเช่นกัน)
...ขอให้ทุกท่านที่อ่านทราบว่าการบริการของมิตรแท้ประกันภัยเป็นเช่นนี้ ทางเราไม่มีความผิดใดๆ เลย แต่ต้องมาเสียเวลาในการซ่อมรถถึง 2 เดือน และเสียเวลาจากการขอรับเงินเคลมค่าสินไหมตามยอดที่เราควรได้รับจากการเป็นบุคคลที่ 3 ที่ได้รับความเสียหาย เป้นเวลา 1 เดือนจนถึงปัจจุบัน และอาจยืดเยื้อไปอีก....
...เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ เป็นแค่ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุที่ต้องการขอความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ครั้งนี้...