สุขุมอ้าง เณรคำยังเป็นพระภิกษุ

กระทู้สนทนา
24 ก.ค.56 เมื่อเวลา 15.00น. นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรรม พร้อมนายสุริ สุขผล น้องชายนายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเรรคำ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี กรรมาธิการฝ่ายปกครอง กรรมาธิการฝ่ายต่างประเทศ กรรมาธิการฝ่ายสาธารณสุข แพทยสภา รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานพระพุทธศาสนา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม ตั้งกรรมการสอบสวนลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด

                โดยระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ดีเอสไอ ปปง.  และปปส. ประโคมข่าวใหญ่โตในคดีหลวงปู่เณรคำ จนกลายเป็นอาชญากรข้ามชาติ และยังได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการสกัดกั้นการเดินทาง รวมทั้งระงับหนังสือเดินทาง และขอให้ประเทศต่างๆ ส่งตัวกลับ โดยใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จยื่นให้ฝ่ายปกครองสงฆ์สึกพระวิรพล แบบไม่เป็นตามหลักพระธรรมวินัย ซึ่งหลักฐานที่สำคัญคือ ภาพพระหนุนหมอนใบเดียวกับสีกา แต่ภายหลังมีนักวิชาการทางพระธรรมวินัยออกมาคัดค้าน ทางสำนักพระพุทธศาสนาจึงออกมาแก้ข่าวว่า พระวิรพล ยังไม่ได้ถือว่าลาสิกขา ยังอยู่ในขั้นอุทธรณ์ และถ้าหากสึกจะต้องให้สมเด็จพระวรรณรัตน์มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร

                นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ความผิดจริงๆ ของพระวิรพล ทางพระธรรมวินัยมีข้อเดียวคือ โลกะวัชชะ หรือโลกติเตียนเท่านั้น ที่พระสามารถปลงอาบัติด้วยกันได้ แต่ถึงขั้นต้องออกหมายจับ หรือยกเลิกวีซ่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จึงอยากให้เข้ามาช่วยเหลือเพื่อหาทางออกให้กับพระวิรพล ที่ถูกดีเอสไอใช้อำนาจแทรกแซงการปกครองของสงฆ์ และช่วยตั้งกระทู้ถามถึงนายกฯ ถึงการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมดูแลหน่วยงานของรัฐอย่างไร และมีมาตราการลงโทษการกระทำผิดของข้าราชการอย่างไร นอกจากนี้ยัง ขอให้ร.ต.อ.เฉลิม ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย หาทางออกในเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

                ทั้งนี้ ยังขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนลงโทษขั้นเด็ดขาด กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่ใช้อำนาจรัฐในทางมิชอบ เข้าแทรกแซงการปกครองฝ่ายสงฆ์ นพ.เอกนก ยมจินดา ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ได้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ในการนำผลการพิสูจน์ภาพดังกล่าวส่งไปให้ดีเอสไอใช้เป็นหลักฐานในการสึกพระวิรพล รวมถึง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ปปส. ที่มีการให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่เณรคำ 20 คน พัวพันกับยาเสพติด แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกับไม่พบตามที่กล่าวหา ซึ่งถือเป็นการทำลายชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำอย่างร้ายแรง และขอให้ตั้งกรรมการสอบสวน สำนักงาน ปปง. ประธาน ปปง. และร.ต.อ.หญิง สีวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ปปง. ที่ปฏิบัติหน้าที่ละเว้นฯ ซึ่งทำให้เงินในบัญชีของพระวิรพล และทรัพย์ต่างๆ ที่อายัดไว้ 200 ล้าน ได้สูญหายจนเหลือเพียง 3 แสนบาท

                ภายหลังการยื่นหนังสือ นายสุขุม กล่าวว่า ตอนนี้หลวงปู่เณรคำยังคงเป็นพระอยู่ และจะกลับมาต่อสู้คดีในประเทศไทยในวันที่ 31 ก.ค.นี้แน่ หากสำนักพระพุทธศาสนายืนยันว่า จะไม่มีการจับพระวิรพลไปสึก เพราะหากสึกพระรูปหนึ่งเท่ากับประหารชีวิตคนหนึ่งคน เพราะท่านได้เสียสละบวชเข้าในพระพุทธศาสนามาหลายสิบปี แต่วันนี้กลับจะประหารโดยยังไม่มีหลักฐานและไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งท่านก็ยืนยันมาตลอด และยินดีที่จะแถลงกับผู้ที่มีคุณธรรม

                ด้านนายสุริ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าคือ คนในภาพ ซึ่งสาเหตุที่ตนไม่ได้ออกมาแสดงตัวในตอนแรกว่าเป็นบุคคลในภาพนั้น เนื่องจากมีผลกระทบหลายอย่าง ซึ่งตนก็พร้อมและยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการตรวจดีเอ็นเอ ส่วนในภาพคล้ายไฝด้านข้าง และตนไม่มีนั้น ที่จริงแล้วเป็นเพียงรอยสิวซึ่งตอนนี้หายแล้ว




http://www.komchadluek.net/detail/20130724/164174/%E0%B8%9C%E0%B8%AD.%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AF%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88DNA%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B3.html#.UfDaLm2CD_g
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่