เมื่อความฝันของเด็กน้อยกลายเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่

สวัสดีค่ะ...

หายหน้าหายตาไปนานไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ในชานเรือนเกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงลูกมาพักใหญ่ๆ ด้วยงานการและภาระกิจต่างๆ แต่แอบแวะเวียนมาดูเป็นพักๆ


มีเรื่องจะมาเล่า พร้อมกับแรงบันดาลใจที่ได้รับมาอย่างเปี่ยมล้น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เกดไปเข้าคอร์สอบรมอันนึงเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต เราจะใช้ชีวิตยังไง ให้มีพลังในทุกๆวัน  ตลอดเวลาของการอบรม เราได้อะไรไปหลายอย่างเยอะแยะมากมาย จนวันสุดท้ายของการอบรม
มีน้องผู้ชาย วัยรุ่นคนนึง ออกมาแบ่งปันประสบการณ์ว่า ในช่วงระยะเวลาอบรม ทำให้น้องมองเห็นความฝันของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น
ณ จุดนั้น เราได้นั่งชื่นชมอยู่ในใจ ในความกล้าคิด กล้าที่จะฝันของเด็กคนนึง

(ขออนุญาตเอามาแบ่งปัน เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ในนี้ ไม่รู้จะผิดกฏหรือเปล่า แต่ถ้ายังไง แจ้งหลังไมค์มาพร้อมจะลบให้นะคะ)

"ผมอยากไปอวกาศ"
"เวลาผมอ่านหนังสือดาราศาสตร์ ภาพของโลก ที่มองมาจากอวกาศมันสวยงามมาก จนผมอยากจะลองไปมองโลกจากข้างนอกนั่นดู มันคงจะสวยมาก"

ฝันนี้ สำหรับเด็กผู้ชายคนนึง เป็นฝันที่ยิ่งใหญ่มาก และเรามั่นใจว่าน้องเค้าต้องทำได้แน่ๆ

แต่สิ่งที่โคชตอบกลับมาคือ

เมื่อคุณได้ไปอวกาศ ได้มองโลกที่สวยงามจากบนนั้นแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณกลับมาบนโลก
โลกใบนี้ ใบที่คุณต้องอาศัยอยู่
โลกใบนี้ ก็ยังคงดำเนินไปแบบนี้ของมัน คุณไม่สามารถไปใช้ชีวิตบนอวกาศ ข้างนอกโลกนั่น แล้วมองลงมา ชื่นชมความสวยงามของโลกได้ตลอดเวลา  

ทำไมคุณไม่ทำให้โลกใบนี้ ที่คุณต้องใช้ชีวิตอยู่ สวยงาม เหมือนความรู้สึกเวลาคุณมองมาจากข้างบนนั้นแล้วคุณสามารถมีความสุขกับโลกใบนี้ได้ในทุกๆ วัน

คำตอบนี้ ทำให้เรามองเห็นอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที

ความฝันที่เราบอกว่าเป็นของเรา ทำเพื่อตัวเราเอง แม้มันจะยิ่งใหญ่แค่ไหนในความคิดของเรามันจะเป็นแค่ของเราเพียงคนเดียว
แต่ถ้าหากความฝันของคนคนนึง ได้รวมความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนรอบข้าง มนุษย์คนอื่นๆ ที่อยู่ร่วมกันในสังคม ในโลกใบนี้เข้าไปด้วยแล้ว
มันจะไม่ใช่ฝันของเราคนเดียวอีกต่อไป  ทุกๆครั้งที่เราเดินตามความฝัน เราจะได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่จากคนรอบข้างเรา เติมเต็มให้เราอยู่เสมอ

ก่อนหน้านี้ เราเคยมีฝันมากมาย เยอะแยะเต็มไปหมด  แต่ด้วยสิ่งต่างๆ ที่หล่อหลอมขึ้นมาเป็นตัวเรา มันทำให้ ฝันเราค่อยๆ หายไปทีละน้อย ละน้อย  
จากเด็กน้อยคนนึง ที่มีฝันเยอะแยะมากมาย เพื่อตัวเอง และโลกใบนี้  
ฝันอันนั้น ค่อยๆ ลดขนาดลง จากโลกใบนึง เหลือ แค่ ฝันของคนเดียว  จากฝันของคนคนเดียว ลดขนาดลง
เอาแค่ว่า ฉันอยู่ของฉันได้ แบบมีความสุขก็พอ ความกล้าหาญ ความเป็นไปได้ พลังในการใช้ชีวิต ค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา
พอเหลือแค่ ฝันของฉัน ก็คือฝันของฉัน...ดังนั้น ฉันจะทำมันหรือไม่ทำมันก็ได้  ไม่มีใครต้องมารับผลของการกระทำอันนี้
เราก็เริ่มหาเหตุผลต่างๆ นาๆ ที่จะ ทำ หรือไม่ทำ อะไรบางอย่าง  เพราะมันไม่ผลกับชีวิตใครนี่

พ่อแม่บอกว่า "อย่าทำ" "ไม่ดีหรอก ไม่ได้หรอก" "หนูยังเด็กอยู่" "ไม่ได้ ไม่เอา"  "คนอื่นเค้าจะว่ายังไง" "เราไม่มีเงิน เราทำไม่ได้หรอก"
พ่อแม่บอกว่า "ทำไมลูกบ้านนั้นบ้านนี้ ถึงเก่งกว่านะ ดูอย่างลูกบ้านนั้นสิ เค้าทำอันนี้ได้ ทำอันนี้ได้
พ่อแม่บอกว่า "ต้องเรียนเก่งๆ สิลูก จะได้มีงานที่ดี สังคมจะได้ยอมรับ" "เดี๋ยวคนอื่นเค้าว่าเอา" "ทำแบบนี้แล้วจะไม่รัก"

และอื่นๆ อีกมากมาย  ที่เป็นสาเหตุทำให้ความฝันของเด็กน้อยๆ ค่อยๆลดขนาดเล็กลง เล็กลง

ในทางกลับกัน ถ้าฝันนั้นมันยิ่งใหญ่กว่าแค่ตัวเอง  คุณมีเดิมพันเป็นชีวิตที่ดีกว่าของคนอีกไม่รู้กี่ร้อย กี่ล้านที่อยู่ร่วมโลกเดียวกันกับคุณ  
แน่นอนว่ามันต้องใช้ความกล้าหาญและความรับผิดชอบมากมาย มีเหตุผลร้อยแปดที่จะไม่ทำ

เรามองเห็นความเป็นไปได้ใหม่อย่างนึงว่า
สำหรับตัวเองแล้วการเลี้ยงลูก ไม่ใช่แค่เลี้ยงให้เค้าเป็นเด็กดี มีความสุข เก่ง ฉลาด ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่แม่ที่ดีแล้ว
เป้าหมายของการเลี้ยงลูกเราที่เกิดขึ้นมาใหม่ คือ ช่วยหล่อเลี้ยงความฝันที่ยิ่งใหญ่ในวัยเด็กให้คงอยู่ และ สนับสนุนให้เค้ามีความกล้าหาญที่จะทำมัน  นอกจากเพื่อตัวเองแล้ว ยังเพื่อสังคม และคนรอบข้างอีกด้วย เพื่อโลกที่เค้าจะต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไปในวันข้างหน้า  
เราจะได้ไม่ต้องหวาดระแวง พร่ำบ่น และนั่งมองเฉยๆ ว่า โลกนี้ที่เราอาศัยอยู่ มันก็เป็นแบบนี้แหละ  มีแต่คนเห็นแก่ตัว มีแต่คนไม่รับผิดชอบ มีแต่คนไม่รู้จักหน้าที่ มีแต่คนเอารัดเอาเปรียบ ขี้โกง รัฐบาลมันแย่ ระบบมันไม่เวริค คนชั่วเต็มบ้านเต็มเมือง นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน นี่ก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน.....

ถ้าไม่ใช่เรื่องของเรา แล้วมันเรื่องของใคร.....

เราเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคน สามารถทำได้เช่นกันนะคะ...


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่