รบกวนโหวตให้ทุกท่านเห็นด้วยนะครับ
สาเหตุที่ต้องโหวต เพราะมันจะเป็นรถโดยสารสำหรับชาวกรุงเทพมหานครไปอีกหลายสิบปี ซึ่งหากคุณไม่ร่วมทำประชาพิจารณ์ คุณได้สิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจคุณมา คุณก็ต้องทนมันอีกหลายสิบปี
---------------------------------
ก่อนอื่น
แนะนำให้ทุกท่านคลิ๊กเข้าไปอ่านร่าง TOR ของการจัดซื้อรถเมล์ใหม่กันก่อน
http://www.bmta.co.th/upload/auction/tor%20_car_3,183%20.pdf
กระทู้นี้รบกวนอ่านแล้วช่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง TOR ด้วยนะครับ
-----------------------------------
สำหรับผมนะ มีข้อคัดค้าน 2 ข้อ
ข้อแรก
เอาจากใจจริง ผมรับไม่ได้ครับ ที่การจัดซื้อรถเมล์ใหม่ จะมีรถร้อนมาปนเปอยู่ด้วย สาเหตุไม่ต้องอะไรมาก คุณลองมองประเทศรอบๆเราสิ ฮ่องกง สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ เมืองท่องเที่ยวต้นๆฐานะเดียวกับไทย (และไทยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ1 แต่ระบบขนส่งห่วยสุด) เมืองที่ผมเอ่ยมานั้น ใช้รถปรับอากาศในการให้บริการเกือบทั้งหมดครับ ร้อยละ 95% เลยก็ว่าได้ (เมื่อก่อนสิงคโปร์มีรถร้อนอยุ่นะ 2 ชั้นด้วย ไม่แน่ใจว่ายังให้บริการอยู่ไหม ?) หรือไม่ต้องอะไรมาก รถเมล์ในโฮจิมินห์ ส่วนมากยังเป็นรถแอร์หมดเลย
Q:ทำไมต้องรถแอร์ มันจำเป็นขนาดนั้นเชียวหรือ ??
A:ปีพศ.2556 คนไทยบ่นร้อนตับแล่บ อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ คุณจะเอารถร้อนมาอีกทำไมครับ ? สร้างความหงุดหงิดทั้งตัวผู้โดยสารและผู้ให้บริการ และยิ่งหน้าฝนแบบนี้ รถร้อนปิดหน้าต่างหมด + คนเต็มรถ จะเอาอากาศจากไหนมาหายใจ ?
Q:คนจนก็ไม่มีสิทธิ์ขึ้นสิ?
A:คนจนมีสิทธิ์ขึ้นครับ ค่าโดยสารก็ไม่ควรต่างจากเดิม เช่น รถแอร์ 10-12 บาทตลอดสาย หากใช้บัตร E-ticket ก็จะเฉลี่ยลงไปเหลือเที่ยวละ7-10บาทก็ว่ากันไป
Q:คนขึ้นป้ายใกล้ๆก็ซวยสิ?
A:ต้องมีราคาพิเศษสำหรับผู้ขึ้นรถภายในระยะทางอย่างน้อย5ป้ายแรก อาจจะ 5 บาท ส่วนคนใช้ e-ticket ก็มีระบบคำนวณอัตโนมัติ เมื่อแตะตอนลงรถ
Q:รถฟรีฉันหละ ?
A:ถ้าจะทำให้รถแอร์มันเป็นรถฟรี ก็ทำได้ครับ อยู่ที่นโยบายรัฐบาลล้วนๆ (มาเลย์ยังทำมาแล้ว ทำ2สาย แต่วิ่งครอบคลุมจุดสำคัญทั่วเมือง)
Q:คนใช้ E - ticket ไม่เป็นทำไงหละ ?
A:หาจ้าง outsource มาเป็นผู้แนะนำการให้บริการในช่วงแรกๆ ทำสัญญาจ้างสัก1ปี หลังจากนี้ผมเชื่อว่า สมองคนกรุงเทพร้อยละ 75% คงต้องใช้เป็น และพอมีน้ำใจที่จะสอนผู้อื่น ส่วนกระเป๋ารถเมล์ปัจจุบัน ย้ายไปทำงานในออฟฟิศ
Q:รถแอร์เจอน้ำท่วมทำไง ?
A:TOR ข้อ 10.2 หน้า 33 ระบุไว้ชัดว่า รถที่จะผ่านการอนุมัติจะต้องลุยน้ำท่วมได้ 70cm
เอาแค่ประเด็นหลักๆไปก่อนครับ
และสิ่งที่ผมรับไม่ได้เลยคือ
8.4 รถโดยสารธรรมดา สําหรับเขตการเดินรถที่ 8 จํานวน 408 คัน ภายในวงเงินจํานวน 1,550,400,000 บาท
กับ
8.5 รถโดยสารปรับอากาศ สําหรับเขตการเดินรถที่ 1 จํานวน 408 คัน ภายในวงเงินจํานวน 1,836,000,000 บาท
จำนวนเงินต่างกัน 285 ล้านบาท แลกกับความสุขของประชาชนประมาณ 5-7 ล้านคน ไปอีก 10 ปี+ มันคุ้มกว่าไหม ??
กู้มา 2.2 ล้านล้าน เจียดเงินไม่กี่% เพิ่มความสุขให้ประชาชนในเมืองหลวงแห่งนี้เถิด ให้กราบก็ยอม !!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใครไม่เห็นด้วยกับผม ขอความคิดเห็นนิดนึง ว่าทำไมถึงไม่ควรมีรถปรับอากาศอย่างเดียว
-------------------------------------------------------
ข้อ2
ผมเสนอให้มีกล้องวงจรปิดทั้งบริเวณคนขับ (แบบรถเมืองจีน) , หน้ารถส่องยาวไปถึงหลังรถ , ทางขึ้นลงประตูหลัง , และท้ายรถเพื่อใช้ในการถอยรถ
ไม่มีอะไรมากครับ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานล้วนๆ
---------------------------------------------------
จริงๆ ผมมองไกลไป 10 ปี ระบบที่บางประเทศมี ประเทศไทยอีก 10 ปีไม่รู้จะมีรึเปล่าคือ
1.ระบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะในจุดสำคัญ
2.ระบบบอกป้ายรถเมล์ถัดไปอัจฉริยะ (คล้ายๆรถไฟฟ้า) ขึ้นแล้วไม่มีหลง ปัจจุบันที่ฮ่องกง และ สิงคโปร์(รถของบริษัทSMRT)มีระบบนี้
ขอบคุณครับ ที่ช่วยกันสร้างอนาคตให้ลูกหลาน
Tag : สยาม (ชีวิตวัยรุ่น) : วัยรุ่นยุคใหม่ ต้องใส่ใจอนาคตตัวเอง
Tag : บลูแพลเน็ต (รถโดยสาร) : ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วย้อนมองอนาคตประเทศตัวเองกันเถิดครับ
Tag : รัชดา (การจราจร) : หลังระบบขนส่งมวลชนบ้านเราดีขึ้น รถไฟฟ้ามีมากขึ้น รถเมล์ดีขึ้น การจราจรน่าจะดีขึ้นนะครับ ถ้าทุกคนช่วยกันขึ้น ระบบขนส่งมวลชน
Tag : กรุงเทพมหานคร : ตรงตัวครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร
Tag : รถโดยสารประจำทาง : ตรงตัวเช่นกัน ^^
ผมไม่ขออะไรมาก ขอทีมงานPantip อย่าเปลี่ยนแปลงแก้ไข Tag ก็พอ เพราะบางทีการเปลี่ยน tag ทำให้กระทู้ร้างได้โดยปริยาย
ฝากไว้สุดท้าย
"อย่าคิดว่าเราอยู่เมืองไทย เราต้องทนรับสภาพเดิมๆ อย่าติดความเชื่อเดิมๆ ทุกสิ่งอยู่ที่การลงมือทำ"
"ถึงเขาไม่ฟัง ก็ดีกว่าเราไม่เสนอเลย"
(ขอเชิญทุกท่านโหวตอีกครั้ง) มาร่วมกันทำประชาพิจารณ์ จัดซื้อรถเมล์ใหม่กัน เพื่ออนาคตลูกหลานเราอีกหลายสิบปี !!!
สาเหตุที่ต้องโหวต เพราะมันจะเป็นรถโดยสารสำหรับชาวกรุงเทพมหานครไปอีกหลายสิบปี ซึ่งหากคุณไม่ร่วมทำประชาพิจารณ์ คุณได้สิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจคุณมา คุณก็ต้องทนมันอีกหลายสิบปี
---------------------------------
ก่อนอื่น
แนะนำให้ทุกท่านคลิ๊กเข้าไปอ่านร่าง TOR ของการจัดซื้อรถเมล์ใหม่กันก่อน
http://www.bmta.co.th/upload/auction/tor%20_car_3,183%20.pdf
กระทู้นี้รบกวนอ่านแล้วช่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง TOR ด้วยนะครับ
-----------------------------------
สำหรับผมนะ มีข้อคัดค้าน 2 ข้อ
ข้อแรก
เอาจากใจจริง ผมรับไม่ได้ครับ ที่การจัดซื้อรถเมล์ใหม่ จะมีรถร้อนมาปนเปอยู่ด้วย สาเหตุไม่ต้องอะไรมาก คุณลองมองประเทศรอบๆเราสิ ฮ่องกง สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ เมืองท่องเที่ยวต้นๆฐานะเดียวกับไทย (และไทยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ1 แต่ระบบขนส่งห่วยสุด) เมืองที่ผมเอ่ยมานั้น ใช้รถปรับอากาศในการให้บริการเกือบทั้งหมดครับ ร้อยละ 95% เลยก็ว่าได้ (เมื่อก่อนสิงคโปร์มีรถร้อนอยุ่นะ 2 ชั้นด้วย ไม่แน่ใจว่ายังให้บริการอยู่ไหม ?) หรือไม่ต้องอะไรมาก รถเมล์ในโฮจิมินห์ ส่วนมากยังเป็นรถแอร์หมดเลย
Q:ทำไมต้องรถแอร์ มันจำเป็นขนาดนั้นเชียวหรือ ??
A:ปีพศ.2556 คนไทยบ่นร้อนตับแล่บ อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ คุณจะเอารถร้อนมาอีกทำไมครับ ? สร้างความหงุดหงิดทั้งตัวผู้โดยสารและผู้ให้บริการ และยิ่งหน้าฝนแบบนี้ รถร้อนปิดหน้าต่างหมด + คนเต็มรถ จะเอาอากาศจากไหนมาหายใจ ?
Q:คนจนก็ไม่มีสิทธิ์ขึ้นสิ?
A:คนจนมีสิทธิ์ขึ้นครับ ค่าโดยสารก็ไม่ควรต่างจากเดิม เช่น รถแอร์ 10-12 บาทตลอดสาย หากใช้บัตร E-ticket ก็จะเฉลี่ยลงไปเหลือเที่ยวละ7-10บาทก็ว่ากันไป
Q:คนขึ้นป้ายใกล้ๆก็ซวยสิ?
A:ต้องมีราคาพิเศษสำหรับผู้ขึ้นรถภายในระยะทางอย่างน้อย5ป้ายแรก อาจจะ 5 บาท ส่วนคนใช้ e-ticket ก็มีระบบคำนวณอัตโนมัติ เมื่อแตะตอนลงรถ
Q:รถฟรีฉันหละ ?
A:ถ้าจะทำให้รถแอร์มันเป็นรถฟรี ก็ทำได้ครับ อยู่ที่นโยบายรัฐบาลล้วนๆ (มาเลย์ยังทำมาแล้ว ทำ2สาย แต่วิ่งครอบคลุมจุดสำคัญทั่วเมือง)
Q:คนใช้ E - ticket ไม่เป็นทำไงหละ ?
A:หาจ้าง outsource มาเป็นผู้แนะนำการให้บริการในช่วงแรกๆ ทำสัญญาจ้างสัก1ปี หลังจากนี้ผมเชื่อว่า สมองคนกรุงเทพร้อยละ 75% คงต้องใช้เป็น และพอมีน้ำใจที่จะสอนผู้อื่น ส่วนกระเป๋ารถเมล์ปัจจุบัน ย้ายไปทำงานในออฟฟิศ
Q:รถแอร์เจอน้ำท่วมทำไง ?
A:TOR ข้อ 10.2 หน้า 33 ระบุไว้ชัดว่า รถที่จะผ่านการอนุมัติจะต้องลุยน้ำท่วมได้ 70cm
เอาแค่ประเด็นหลักๆไปก่อนครับ
และสิ่งที่ผมรับไม่ได้เลยคือ
8.4 รถโดยสารธรรมดา สําหรับเขตการเดินรถที่ 8 จํานวน 408 คัน ภายในวงเงินจํานวน 1,550,400,000 บาท
กับ
8.5 รถโดยสารปรับอากาศ สําหรับเขตการเดินรถที่ 1 จํานวน 408 คัน ภายในวงเงินจํานวน 1,836,000,000 บาท
จำนวนเงินต่างกัน 285 ล้านบาท แลกกับความสุขของประชาชนประมาณ 5-7 ล้านคน ไปอีก 10 ปี+ มันคุ้มกว่าไหม ??
กู้มา 2.2 ล้านล้าน เจียดเงินไม่กี่% เพิ่มความสุขให้ประชาชนในเมืองหลวงแห่งนี้เถิด ให้กราบก็ยอม !!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-------------------------------------------------------
ข้อ2
ผมเสนอให้มีกล้องวงจรปิดทั้งบริเวณคนขับ (แบบรถเมืองจีน) , หน้ารถส่องยาวไปถึงหลังรถ , ทางขึ้นลงประตูหลัง , และท้ายรถเพื่อใช้ในการถอยรถ
ไม่มีอะไรมากครับ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานล้วนๆ
---------------------------------------------------
จริงๆ ผมมองไกลไป 10 ปี ระบบที่บางประเทศมี ประเทศไทยอีก 10 ปีไม่รู้จะมีรึเปล่าคือ
1.ระบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะในจุดสำคัญ
2.ระบบบอกป้ายรถเมล์ถัดไปอัจฉริยะ (คล้ายๆรถไฟฟ้า) ขึ้นแล้วไม่มีหลง ปัจจุบันที่ฮ่องกง และ สิงคโปร์(รถของบริษัทSMRT)มีระบบนี้
ขอบคุณครับ ที่ช่วยกันสร้างอนาคตให้ลูกหลาน
Tag : สยาม (ชีวิตวัยรุ่น) : วัยรุ่นยุคใหม่ ต้องใส่ใจอนาคตตัวเอง
Tag : บลูแพลเน็ต (รถโดยสาร) : ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วย้อนมองอนาคตประเทศตัวเองกันเถิดครับ
Tag : รัชดา (การจราจร) : หลังระบบขนส่งมวลชนบ้านเราดีขึ้น รถไฟฟ้ามีมากขึ้น รถเมล์ดีขึ้น การจราจรน่าจะดีขึ้นนะครับ ถ้าทุกคนช่วยกันขึ้น ระบบขนส่งมวลชน
Tag : กรุงเทพมหานคร : ตรงตัวครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร
Tag : รถโดยสารประจำทาง : ตรงตัวเช่นกัน ^^
ผมไม่ขออะไรมาก ขอทีมงานPantip อย่าเปลี่ยนแปลงแก้ไข Tag ก็พอ เพราะบางทีการเปลี่ยน tag ทำให้กระทู้ร้างได้โดยปริยาย
ฝากไว้สุดท้าย
"อย่าคิดว่าเราอยู่เมืองไทย เราต้องทนรับสภาพเดิมๆ อย่าติดความเชื่อเดิมๆ ทุกสิ่งอยู่ที่การลงมือทำ"
"ถึงเขาไม่ฟัง ก็ดีกว่าเราไม่เสนอเลย"