เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 เราได้ตั้งกระทู้ "ไม่มีที่ใดสุขใจเท่าบ้านเรา" ตอนนั้นที่ตั้งกระทู้เราและครอบครัวมีความสุขมาก
ความหวัง ความฝันทุกอย่างมันกลายเป็นความจริง การมีครอบครัวที่อบอุ่น การมีบ้านเป๋นของตัวเอง บลาๆๆๆๆๆ...ทุกอย่างล้วนเป็นความสุข
แต่แล้ววันนี้ความสุขเหล่านั้นเริ่มหายไป กลับกลายเป็นความทุกข์ที่เริ่มเข้ามาแทน...เมื่อวันที่ "มะเร็ง" เข้ามาเยี่ยมเยียน
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนเมษายนอยู่ๆปะป๊าก็เดินมาบอกว่า "ป๊าจะงดกินเบียร์แระนะ" อารมณ์ตอนนั้นงงมากๆ เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ร้องขอจากป๊าตลอดระยะเวลาตั้งแต่จำความได้จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 30 ปีแล้วจะหลุดออกมาจากปาก ตอนนั้นดีใจมาก ดีใจที่สุดที่สุดท้ายสิ่งที่ขอก็เป็นจริงเสียที ป๊าเริ่มพบแพทย์เพื่อเลิกเบียร์ เริ่มออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
แต่แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอยู่ๆป๊าก็บ่นว่าปวดหลัง (ในตอนนั้นคิดกันเองว่าอาจเป็นเพราะการออกกำลังกาย ในตอนแรกป๊าเพียงแค่เดินเร็วๆในสวนสาธารณะเท่านั้น จนมาเริ่มเล่นอุปกรณ์ออกกำลังกายจึงเริ่มมีอาการ) ป๊าก็ทนปวดไปโดยมีแม่เป็นพยาบาลข้างกายคอยทายา นวดยาให้ จนวันหนึ่งก็มานั่งสังเกตกันว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นมันไม่น่าจะเกิดจากการออกกำลังกายแล้วล่ะ เพราะมันปวดมากขึ้น ทั้งๆที่หยุดออกกำลังกายมาเป็นอาทิตย์แล้ว จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลให้หมอวินิจฉัย อ้อ!ลืมเล่าไปในช่วงนี้ป๊ากินข้าวแล้วรู้สึกกลืนลำบากด้วยนะคะ แทบจะกินข้าวคำ น้ำคำ ไปหาหมอที่คลินิกหมอก็บอกว่าเป็นหวัดลงคอเพราะเป็นช่วงอากาศเปลี่ยนด้วย
จนมาเข้าโรงพยาบาลนี่แหละถึงรู้ว่าไอ้อาการกลืนลำบากเนี่ยจริงๆแล้วไม่ใช่หวัดลงคอ แต่มันเป็นเนื้องอกต่างหาก เนื้องอกที่หลอดอาหาร (รู้ได้จากการส่องกล้องค่ะ) หลังจากรูปออกมาแล้วว่ามีเนื้องอกหมอก็ดีค่ะพูดตรงๆเลยว่า "เท่าที่ดูหมอว่า 90% น่าจะเป็นเนื้อร้ายนะคะ ยังไงหมอขอเอาเนื้อเยื่อไปเพาะก่อนเพื่อความชัวร์" (เห้อๆบางทีหมอก็พูดไม่ให้กำลังใจเลย T_T) สุดท้ายวันที่ 11 มิถุนายน ผลก็ออกมาว่าเนื้องอกชิ้นนั้นเป็นเนื้อร้ายจริงๆ
เมื่อวันที่ชีวิตถึงจุดเปลี่ยน...สุขกับทุกข์ห่างกันแค่เข็มนาฬิกา
ความหวัง ความฝันทุกอย่างมันกลายเป็นความจริง การมีครอบครัวที่อบอุ่น การมีบ้านเป๋นของตัวเอง บลาๆๆๆๆๆ...ทุกอย่างล้วนเป็นความสุข
แต่แล้ววันนี้ความสุขเหล่านั้นเริ่มหายไป กลับกลายเป็นความทุกข์ที่เริ่มเข้ามาแทน...เมื่อวันที่ "มะเร็ง" เข้ามาเยี่ยมเยียน
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนเมษายนอยู่ๆปะป๊าก็เดินมาบอกว่า "ป๊าจะงดกินเบียร์แระนะ" อารมณ์ตอนนั้นงงมากๆ เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ร้องขอจากป๊าตลอดระยะเวลาตั้งแต่จำความได้จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 30 ปีแล้วจะหลุดออกมาจากปาก ตอนนั้นดีใจมาก ดีใจที่สุดที่สุดท้ายสิ่งที่ขอก็เป็นจริงเสียที ป๊าเริ่มพบแพทย์เพื่อเลิกเบียร์ เริ่มออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
แต่แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอยู่ๆป๊าก็บ่นว่าปวดหลัง (ในตอนนั้นคิดกันเองว่าอาจเป็นเพราะการออกกำลังกาย ในตอนแรกป๊าเพียงแค่เดินเร็วๆในสวนสาธารณะเท่านั้น จนมาเริ่มเล่นอุปกรณ์ออกกำลังกายจึงเริ่มมีอาการ) ป๊าก็ทนปวดไปโดยมีแม่เป็นพยาบาลข้างกายคอยทายา นวดยาให้ จนวันหนึ่งก็มานั่งสังเกตกันว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นมันไม่น่าจะเกิดจากการออกกำลังกายแล้วล่ะ เพราะมันปวดมากขึ้น ทั้งๆที่หยุดออกกำลังกายมาเป็นอาทิตย์แล้ว จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลให้หมอวินิจฉัย อ้อ!ลืมเล่าไปในช่วงนี้ป๊ากินข้าวแล้วรู้สึกกลืนลำบากด้วยนะคะ แทบจะกินข้าวคำ น้ำคำ ไปหาหมอที่คลินิกหมอก็บอกว่าเป็นหวัดลงคอเพราะเป็นช่วงอากาศเปลี่ยนด้วย
จนมาเข้าโรงพยาบาลนี่แหละถึงรู้ว่าไอ้อาการกลืนลำบากเนี่ยจริงๆแล้วไม่ใช่หวัดลงคอ แต่มันเป็นเนื้องอกต่างหาก เนื้องอกที่หลอดอาหาร (รู้ได้จากการส่องกล้องค่ะ) หลังจากรูปออกมาแล้วว่ามีเนื้องอกหมอก็ดีค่ะพูดตรงๆเลยว่า "เท่าที่ดูหมอว่า 90% น่าจะเป็นเนื้อร้ายนะคะ ยังไงหมอขอเอาเนื้อเยื่อไปเพาะก่อนเพื่อความชัวร์" (เห้อๆบางทีหมอก็พูดไม่ให้กำลังใจเลย T_T) สุดท้ายวันที่ 11 มิถุนายน ผลก็ออกมาว่าเนื้องอกชิ้นนั้นเป็นเนื้อร้ายจริงๆ