ยาวนิดหนึ่งนะครับ แต่อยากให้อ่านกันครับ
เมื่อ 16 มิถุนาที่ผ่านมา ผมขึ้นรถเมล์กำลังจะไปเดินห้างซื้อของเข้าบ้าน... ขอไม่ระบุสายนะครับ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะเล่า
ผมยืนโหนราวบนรถอยู่กลางๆตัวรถ ซักพัก มีสาวแต่งชุดทำงานขึ้นรถมายืนข้างหน้าผม
แต่เธอยืนจิ้มมือถือครับ ไม่ยอมจับราว หรือพิง/ เกาะเบาะข้างๆตัวซักหน่อยก็ไม่มี
พอรถออกตัว แน่นอนครับ กระชากจนล้อหลังแทบแซงล้อหน้า
เธอเสียการทรงตัว เซถลามาหาผม โชคดีของเธอครับที่เหวี่ยงส้นเข็ม จิกส้นเท้าลงพื้นทรงตัวได้ทัน
แต่โชคร้ายที่มันจิกลงบนหลังเท้าเปลือยๆของผม !!! (ผมใส่รองเท้าแตะคีบ)
เธอหันมาขอโทษผมด้วยหางตาและเสียงที่เบาแทบไม่ได้ยิน
ผมเหรอ กัดฟันจนแทบหักแล้วครับ เจ็บมาก
หลังจากเธอทรงตัวได้ ก็หันไปจิ้มมือถือต่อ ไม่สนใจมองเลยว่าเหยียบโดนอะไรลงไป
ส่วนเท้าผมน่ะเหรอ เลือดไหลเป็นทางเลยครับ ดีที่เข็มเธอไม่แหลมมาก ไม่งั้นคงเห็นไปถึงกระดูก
ซักพักโทรศัพท์เธอดังครับ ผมพยายามไม่ใส่ใจ เพราะไม่อยากไปวอแวกับผู้หญิง
แต่สิ่งที่ผมได้ยินจากบทสนทนาของเธอกับเพื่อน ทำให้ผมต้องรีบเปลี่ยนใจ ลงรถและโบกแท็กซี่กลับบ้านแทน
สิ่งที่ผมได้ยินคือ "แม่ม โชคร้ายชะมัด เจอรถเมล์ขับเฮงซวย แล้วดันมีคนมายืนขวางอีก เลยโดนชั้นเหยียบเข้าไปเต็มเข็ม สมน้ำหน้า !!"
ก่อนที่ผมจะอดกลั้นไม่ไหว ผมเลยเดินหนีไปยืนที่ประตูหลัง และตัดสินใจไปให้พ้นๆจากตรงนั้นซะดีกว่า
ใจผมครึ่งนึง มันก็บอกกับผมว่า คนไม่มีสำนึกต่อผู้อื่นแบบนั้น ไม่เห็นต้องไปไว้หน้าเลย น่าจะสั่งสอนให้รู้จักคิดซะมั่ง
มีปัญญาเรียนจบมาทำงานหาเงิน แต่ไม่มีปัญญาจะคิดถึงความเหมาะสมของการปฏิบัติตนต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ
แต่ไม่พ้นคงโดนตราหน้าว่า "หน้าต tua เมีย" เพราะด่าผู้หญิง
กลับมาบ้าน แฟนกรี้ดเลยครับ เลือดไหลเป็นทาง กว่าจะเอากระดาษกดจนเลือดหยุดไหล
ล้างแผลใส่ยา คืนนั้นเกือบนอนไม่หลับ เพราะปวดแผลมาก
อีกวันตื่นมาเจอว่าแผลบวมมาก ผมเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาล หมอบอกว่า แผลอักเสบ
ได้ล้างแผลและฉีดยาไปเข็มนึง เอากะเค้าสิ โดนส้นเข็มเหยียบมาไม่พอ โดนหมอฉีดยาอีก
ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ผมคิดวนๆ เวียนๆ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ว่านี่คนเราสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด จะอะไรกันนักหนากับมือถือ ไม่เคยคิดจะสนใจโลกรอบข้างกันเลยรึยังไง
ว่าความสะเพร่า เลินเล่อของตัวเอง มันส่งผลกับคนรอบข้างอะไรกันแค่ไหน บลาๆๆๆ บรรยายไม่หมด
ความจริงคือ.....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สิ่งที่ผมจะบอกจริงๆ คือต่อจากนี้ครับ
ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนั้น ไม่ใช่ความจริงครับ
ผมไม่ได้โดนเหยียบ ไม่มีผู้หญิงคนนั้นบนโลกนี้ และผมไม่ได้ขึ้นรถเมล์มาเกือบปีแล้วครับ
แต่ผมอยากถามผู้อ่านทุกๆ ท่านว่าเราได้อะไรจากเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังกันมาบ้างมั้ยครับ ?
คุณได้อะไรดีๆ ไปบ้างมั้ย หรือสิ่งที่คุณได้มีเพียง "ไอ่เขวี้ย ขี้โม้นี่หว่า" แล้วปิดกระทู้ไป แค่นั้น ?
ผมอยากถามจริงๆครับ เรื่องที่เกิดขึ้น "เป็นเรื่องจริงหรือไม่" มันสำคัญแค่ไหนกัน ?
สำคัญมากกว่าหรือเท่ากับ "มันให้อะไรดีๆกับผู้ฟังบ้างหรือเปล่า" มั้ยครับ ?
ผมเห็นนักสืบพันทิพย์ หรือ กองพิสูจน์หลักฐานพันทิพย์นี่ เก่งกันเหลือเกิน
ถ้าเป็นในเรื่องที่มันสมควรมันก็ดีนะ เช่น การเปิดโปงพวกสิบแปดมงกุฏ อันนี้หนับหนุนเลย เป็นประโยชน์มากๆ
แต่ผมว่ามันดูไม่เข้าท่าเลย เวลามาจับผิดกับเรื่องราว เรื่องเล่าให้แง่คิดในสังคม
เรื่องที่เล่า เค้าเล่าว่า เราควรมีมารยาทในสังคม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน รู้จักแบ่งปัน มีน้ำใจต่อกัน และช่วยเหลือกัน
แต่เรากลับมานั่งจับผิดถามโน่นหานี่ ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจะเอาความจริงจากที่เค้าเล่าไปทำไม ?
เรื่องที่ผมเล่า ก็ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ถามว่า ตัวละครสาวออฟฟิศ ในเรื่องที่ผมเล่า ที่มาเหยียบเท้าผม
มารยาทแย่มั้ย ? สมควรที่จะไม่เอาเยี่ยงเอาอย่างมั้ย ?
พอฟัง (อ่าน) แล้วคิดได้มั้ยว่า ถ้าเราเป็นผู้หญิงคนนั้น เราควร หรือไม่ควรทำอะไรบ้าง ?
ซึ่งในชีวิตจริง ผมว่ามันมีแน่ๆ และเราสักวันคงได้เจอพวกเค้าเหล่านั้นแน่ๆ
เห็นมั้ยครับ ว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย ว่าสิ่งที่ผมเล่า จริงหรือไม่จริง
แต่เราทุกคนตอบได้ครับ ว่าการกระทำตามเนื้อเรื่อง สิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี
สำหรับผม เรื่องเล่าแบบนี้ ความจริง หรือไม่จริงของเรื่อง ไม่มีนัยยะสำคัญเลย
ถ้าคำสอน เรื่องเล่า เพื่อจรรโลงสังคม "มันต้องมาจากเรื่องจริงเท่านั้น"
นิทานอีสป นิยายจรรโลงโลก มันคงสูญพันธ์ไปนานแล้วครับ
"เป็นเด็กเลี้ยงแกะมันไม่ดี".... เป็นเรื่องที่ใช้กันตั้งแต่เล็กยันโต เป็นแค่เรื่องเล่าจรรโลงสังคมเรื่องนึงเท่านั้น
ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนซักคนว่ามันจริงหรือไม่จริง แล้วทีเรื่องเล่าของคนอื่นในเวบบอร์ดล่ะหากันจัง ความจริงเนี่ย
.................เพิ่มเติม อีกนิด
ผมเองก็คิดว่า คงมีคน ประมาณหนึ่ง ที่ชอบ ใส่สีตีไข่ ให้เรื่องราวมันอ่านสนุก
และในบางแง่มุม มันอาจจะส่งเสริมให้ผู้เล่านี่ดูดี๊ดูดี (คล้ายๆกับแบบที่ผมทำข้างบน
)
อยากจะบอกว่า ช่างหัวคนมีปมด้อยเถอะครับ อย่าไปเดือดร้อนเลย
** แก้ไขเนื้อหาเล็กๆ น้อยๆ ครับ
ขอสักหน่อย.... นานๆ ที ว่าด้วยการแบ่งปัน
เมื่อ 16 มิถุนาที่ผ่านมา ผมขึ้นรถเมล์กำลังจะไปเดินห้างซื้อของเข้าบ้าน... ขอไม่ระบุสายนะครับ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะเล่า
ผมยืนโหนราวบนรถอยู่กลางๆตัวรถ ซักพัก มีสาวแต่งชุดทำงานขึ้นรถมายืนข้างหน้าผม
แต่เธอยืนจิ้มมือถือครับ ไม่ยอมจับราว หรือพิง/ เกาะเบาะข้างๆตัวซักหน่อยก็ไม่มี
พอรถออกตัว แน่นอนครับ กระชากจนล้อหลังแทบแซงล้อหน้า
เธอเสียการทรงตัว เซถลามาหาผม โชคดีของเธอครับที่เหวี่ยงส้นเข็ม จิกส้นเท้าลงพื้นทรงตัวได้ทัน
แต่โชคร้ายที่มันจิกลงบนหลังเท้าเปลือยๆของผม !!! (ผมใส่รองเท้าแตะคีบ)
เธอหันมาขอโทษผมด้วยหางตาและเสียงที่เบาแทบไม่ได้ยิน
ผมเหรอ กัดฟันจนแทบหักแล้วครับ เจ็บมาก
หลังจากเธอทรงตัวได้ ก็หันไปจิ้มมือถือต่อ ไม่สนใจมองเลยว่าเหยียบโดนอะไรลงไป
ส่วนเท้าผมน่ะเหรอ เลือดไหลเป็นทางเลยครับ ดีที่เข็มเธอไม่แหลมมาก ไม่งั้นคงเห็นไปถึงกระดูก
ซักพักโทรศัพท์เธอดังครับ ผมพยายามไม่ใส่ใจ เพราะไม่อยากไปวอแวกับผู้หญิง
แต่สิ่งที่ผมได้ยินจากบทสนทนาของเธอกับเพื่อน ทำให้ผมต้องรีบเปลี่ยนใจ ลงรถและโบกแท็กซี่กลับบ้านแทน
สิ่งที่ผมได้ยินคือ "แม่ม โชคร้ายชะมัด เจอรถเมล์ขับเฮงซวย แล้วดันมีคนมายืนขวางอีก เลยโดนชั้นเหยียบเข้าไปเต็มเข็ม สมน้ำหน้า !!"
ก่อนที่ผมจะอดกลั้นไม่ไหว ผมเลยเดินหนีไปยืนที่ประตูหลัง และตัดสินใจไปให้พ้นๆจากตรงนั้นซะดีกว่า
ใจผมครึ่งนึง มันก็บอกกับผมว่า คนไม่มีสำนึกต่อผู้อื่นแบบนั้น ไม่เห็นต้องไปไว้หน้าเลย น่าจะสั่งสอนให้รู้จักคิดซะมั่ง
มีปัญญาเรียนจบมาทำงานหาเงิน แต่ไม่มีปัญญาจะคิดถึงความเหมาะสมของการปฏิบัติตนต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ
แต่ไม่พ้นคงโดนตราหน้าว่า "หน้าต tua เมีย" เพราะด่าผู้หญิง
กลับมาบ้าน แฟนกรี้ดเลยครับ เลือดไหลเป็นทาง กว่าจะเอากระดาษกดจนเลือดหยุดไหล
ล้างแผลใส่ยา คืนนั้นเกือบนอนไม่หลับ เพราะปวดแผลมาก
อีกวันตื่นมาเจอว่าแผลบวมมาก ผมเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาล หมอบอกว่า แผลอักเสบ
ได้ล้างแผลและฉีดยาไปเข็มนึง เอากะเค้าสิ โดนส้นเข็มเหยียบมาไม่พอ โดนหมอฉีดยาอีก
ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ผมคิดวนๆ เวียนๆ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ว่านี่คนเราสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด จะอะไรกันนักหนากับมือถือ ไม่เคยคิดจะสนใจโลกรอบข้างกันเลยรึยังไง
ว่าความสะเพร่า เลินเล่อของตัวเอง มันส่งผลกับคนรอบข้างอะไรกันแค่ไหน บลาๆๆๆ บรรยายไม่หมด
ความจริงคือ.....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
** แก้ไขเนื้อหาเล็กๆ น้อยๆ ครับ