วันก่อน ดูรายการในทีวี เห็น พูดอ้างอิงรายงาน การวิจัยถึงผลตอบแทนของหุ้นปันผล จึงหาข้อมูลมาอ่าน เพื่อนบางคนเคยอ่านมาแล้ว สำหรับ trader เก่งๆ ได้กำไร 100-200 % ก็ผ่านไปเลยนะครับ สำหรับ ใครยังไม่เคยอ่าน หรือเป็น investor ก็ มาแชร์ความคิดเห็นได้ครับ
สำหรับ ผม เวลา เป็น สิ่งมีค่ามากที่สุด
ดังนั้นการลงทุนในหุ้น ของผมในที่นี้หมายถึง การใช้เงินทำงานเพื่อให้ได้ผลตอบแทนในหุ้น โดยเสียเวลาและแรงงานน้อยที่สุด เพื่อเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีค่ามากกว่า
ตลาดหลักทรัพย์ไทยผันผวนมากจนติด 1ใน 3 ของเอเชีย ซึงผมเข้าใจว่า เป็นจาก trader มาก แต่เอาเข้าจริงดูจากข้อมูล
มีผู้ที่หวังผล จากการปันผล นี้มากประมาณ 50 % ของนักลงทุน
รายงานนี้ทำการวิจัยย้อนหลัง 2549-2553 ซึ่งคลอบคลุม ช่วงหุ้นตกด้วย 1 ปี คือปี 2551
มี 288 บริษัท ที่สามารถจ่ายปันผลได้ต่อเนื่อง 5 ปี
แบ่งกลุ่มวิจัยเป็น 5 กลุ่ม
ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม non-set 100 และราคาไม่ถึง10 บาทส่วนใหญ่ (ไม่ได้แสดงภาพให้ดู)
นิยามของหุ้นปันผล
ผลการศึกษา ปรากฎว่าว่า
กลุ่มหุ้นปันผล top30 อันดับแรกได้ผลตอบแทนมากสุด
หากดูส่วนต่างราคา setHD มากสุด ดูปี 2551 เป็นช่วงขาลง หุ้นราคาลดลง ประมาณ 30 %
ดูผลตอบแทนโดยรวม dividen yield +capital gain ดุปี 51 ทีหุ้นร่วแรงผลตอบแทนก็จะติดลบ ปันผลช่วยให้ติดลบน้อยลงไม่ถึง 20 %
หากจะดู growth ก็จะเห็นว่า กลุ่มหุ้นปันผลโตเหนือตลาด (การเติบโตของรายได้ และสินทรัพย์ก็เหนือตลาด ผมไม่ได้เอามาโชว์)

ดู free float มักไม่ถึง 50 %

ดูความผันผวนราคา ก็น้อยกว่าตลาด
สุดท้ายอยากให้ดู 3 slide สุดท้าย
หากเราลงทุนที่ยาวนานพอ จากภาพ เริ่มมปี 2543 ปลายๆ วิกฤตต้มยำกุ้ง แม้แต่ปี 2551 หุ้นลงน่าจะวิกฤต subprime ผลตอบแทนโดยรวมก็ยังเป็นบวก

ลงทุนในกองทุนดีกว่าไหม ภาพที่เห็นเป็นข้อมูลในอดีตครับ
ดาวโหลดฟรีได้ที่
http://www.set.or.th/setresearch/files/cmresearch/201201_CMRI_Research_Paper_dividend.pdf
www.set.or.th/setresearch/files/.../forum201202_presentation.pdf
จบด้วยคำคม ของเสี่ยยักษ์ และ ทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์
“ตลาดหุ้นมันคือสงคราม การที่คุณจะมาหวังกำไร 10% 20% จบกันไป แล้วจะหวังให้ตลาดหุ้นมันปราณีคุณตอนที่หุ้นตก มันไม่ใช่แบบนั้น มันเอาจนคุณหมดตัว , สึนามิมา มันก็พัดพาไปหมด”--------ความเห็นผม มันเป็นความจริง หากคุณเล่นหุ้นด้วยมาร์จิ้น หรือลงทุนในหุ้นที่กิจการพื้นฐานเปลี่ยน ดังนั้น จงเลือกหุ้นให้ถูกตัว และถูกเวลาด้วยครับ
และ ทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์
“ คุณคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวในชีวิตต่างกันที่ตรงไหน “
โครงการวิจัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี้ เรียกว่าทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์
เป็นโครงการวิจัยเด็กก่อนวัยเรียน
ในการทดลองนั้น พวกเด็กๆจะถูกนำเข้าไปอยู่ในห้องทีละคน
จะมีผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาและวางขนมมาร์ชมาลโลว์หนึ่งชิ้น
ไว้ข้างหน้าเด็กผู้นั้น จากนั้นเธอก็กล่าวว่าเธอต้องออกจากห้องไป 15 นาที
และบอกเด็กน้อยว่าถ้าเขาไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ที่วางอยู่
ขณะที่เธอไม่อยู่ในห้อง เธอจะให้รางวัลด้วยขนมอีกก้อนหนึ่งเมื่อเธอกลับมา
นั่นหมายความว่าถ้าเด็กน้อยไม่ตะกละกินมาร์ชมาลโลว์ในตอนที่เธอไม่อยู่
เด็กน้อยจะได้มันเพิ่มขึ้นอีกชิ้น
ถ้าเป็นคุณคุณจะกินรึเปล่า???
ผลการทดลองนี้บอกอะไร
ผลวิจัยออกมาว่า เด็กที่สามารถยับยั้งชั่งใจ
ไม่กินมาร์ชมาลโลว์ได้นั้น
มีผลการเรียนที่ดีกว่า สามารถเข้ากับคนอื่นได้ดีกว่า และจัดการกับความเครียด
ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้กินขนมมาร์ชมาลโลว์ก้อนแรก
จากการทดลองด้วยเวลาสั้นๆ
หลังจากผู้ใหญ่ออกไปจากห้องได้
กลุ่มเด็กที่สามารถห้ามใจตัวเอง
ไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ หลายคนเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต
มากกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่สามารถยับยั้งใจได้อย่างมากมาย
มาร์ชมาลโลว์ ก็คือ ความต้องการให้ตนเองพอใจทันทีเดี๋ยวนี้
“ ความสามารถอดทนรอได้ “ จะทำให้เด็กผู้นั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
มากกว่าเด็กที่ห้ามใจตนเองไม่ได้และกินขนมมาร์ชมาลโลว์ทันที
************************************************************
โชคดีทุกคนสำหรับนักลงทุนมี่ลงทุนด้วยใจบริสุทธิ์
****งานวิจัยย้อนหลัง 5 ปี หุ้นปันผล ขุมทรัพย์ของการลงทุน**
สำหรับ ผม เวลา เป็น สิ่งมีค่ามากที่สุด
ดังนั้นการลงทุนในหุ้น ของผมในที่นี้หมายถึง การใช้เงินทำงานเพื่อให้ได้ผลตอบแทนในหุ้น โดยเสียเวลาและแรงงานน้อยที่สุด เพื่อเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีค่ามากกว่า
ตลาดหลักทรัพย์ไทยผันผวนมากจนติด 1ใน 3 ของเอเชีย ซึงผมเข้าใจว่า เป็นจาก trader มาก แต่เอาเข้าจริงดูจากข้อมูล
มีผู้ที่หวังผล จากการปันผล นี้มากประมาณ 50 % ของนักลงทุน
รายงานนี้ทำการวิจัยย้อนหลัง 2549-2553 ซึ่งคลอบคลุม ช่วงหุ้นตกด้วย 1 ปี คือปี 2551
มี 288 บริษัท ที่สามารถจ่ายปันผลได้ต่อเนื่อง 5 ปี
แบ่งกลุ่มวิจัยเป็น 5 กลุ่ม
ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม non-set 100 และราคาไม่ถึง10 บาทส่วนใหญ่ (ไม่ได้แสดงภาพให้ดู)
นิยามของหุ้นปันผล
ผลการศึกษา ปรากฎว่าว่า
กลุ่มหุ้นปันผล top30 อันดับแรกได้ผลตอบแทนมากสุด
หากดูส่วนต่างราคา setHD มากสุด ดูปี 2551 เป็นช่วงขาลง หุ้นราคาลดลง ประมาณ 30 %
ดูผลตอบแทนโดยรวม dividen yield +capital gain ดุปี 51 ทีหุ้นร่วแรงผลตอบแทนก็จะติดลบ ปันผลช่วยให้ติดลบน้อยลงไม่ถึง 20 %
หากจะดู growth ก็จะเห็นว่า กลุ่มหุ้นปันผลโตเหนือตลาด (การเติบโตของรายได้ และสินทรัพย์ก็เหนือตลาด ผมไม่ได้เอามาโชว์)
ดู free float มักไม่ถึง 50 %
ดูความผันผวนราคา ก็น้อยกว่าตลาด
สุดท้ายอยากให้ดู 3 slide สุดท้าย
หากเราลงทุนที่ยาวนานพอ จากภาพ เริ่มมปี 2543 ปลายๆ วิกฤตต้มยำกุ้ง แม้แต่ปี 2551 หุ้นลงน่าจะวิกฤต subprime ผลตอบแทนโดยรวมก็ยังเป็นบวก
ลงทุนในกองทุนดีกว่าไหม ภาพที่เห็นเป็นข้อมูลในอดีตครับ
ดาวโหลดฟรีได้ที่ http://www.set.or.th/setresearch/files/cmresearch/201201_CMRI_Research_Paper_dividend.pdf
www.set.or.th/setresearch/files/.../forum201202_presentation.pdf
จบด้วยคำคม ของเสี่ยยักษ์ และ ทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์
“ตลาดหุ้นมันคือสงคราม การที่คุณจะมาหวังกำไร 10% 20% จบกันไป แล้วจะหวังให้ตลาดหุ้นมันปราณีคุณตอนที่หุ้นตก มันไม่ใช่แบบนั้น มันเอาจนคุณหมดตัว , สึนามิมา มันก็พัดพาไปหมด”--------ความเห็นผม มันเป็นความจริง หากคุณเล่นหุ้นด้วยมาร์จิ้น หรือลงทุนในหุ้นที่กิจการพื้นฐานเปลี่ยน ดังนั้น จงเลือกหุ้นให้ถูกตัว และถูกเวลาด้วยครับ
และ ทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์
“ คุณคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวในชีวิตต่างกันที่ตรงไหน “
โครงการวิจัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี้ เรียกว่าทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์
เป็นโครงการวิจัยเด็กก่อนวัยเรียน
ในการทดลองนั้น พวกเด็กๆจะถูกนำเข้าไปอยู่ในห้องทีละคน
จะมีผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาและวางขนมมาร์ชมาลโลว์หนึ่งชิ้น
ไว้ข้างหน้าเด็กผู้นั้น จากนั้นเธอก็กล่าวว่าเธอต้องออกจากห้องไป 15 นาที
และบอกเด็กน้อยว่าถ้าเขาไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ที่วางอยู่
ขณะที่เธอไม่อยู่ในห้อง เธอจะให้รางวัลด้วยขนมอีกก้อนหนึ่งเมื่อเธอกลับมา
นั่นหมายความว่าถ้าเด็กน้อยไม่ตะกละกินมาร์ชมาลโลว์ในตอนที่เธอไม่อยู่
เด็กน้อยจะได้มันเพิ่มขึ้นอีกชิ้น
ถ้าเป็นคุณคุณจะกินรึเปล่า???
ผลการทดลองนี้บอกอะไร
ผลวิจัยออกมาว่า เด็กที่สามารถยับยั้งชั่งใจ
ไม่กินมาร์ชมาลโลว์ได้นั้น
มีผลการเรียนที่ดีกว่า สามารถเข้ากับคนอื่นได้ดีกว่า และจัดการกับความเครียด
ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้กินขนมมาร์ชมาลโลว์ก้อนแรก
จากการทดลองด้วยเวลาสั้นๆ
หลังจากผู้ใหญ่ออกไปจากห้องได้
กลุ่มเด็กที่สามารถห้ามใจตัวเอง
ไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ หลายคนเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต
มากกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่สามารถยับยั้งใจได้อย่างมากมาย
มาร์ชมาลโลว์ ก็คือ ความต้องการให้ตนเองพอใจทันทีเดี๋ยวนี้
“ ความสามารถอดทนรอได้ “ จะทำให้เด็กผู้นั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
มากกว่าเด็กที่ห้ามใจตนเองไม่ได้และกินขนมมาร์ชมาลโลว์ทันที
************************************************************
โชคดีทุกคนสำหรับนักลงทุนมี่ลงทุนด้วยใจบริสุทธิ์