****งานวิจัยย้อนหลัง 5 ปี หุ้นปันผล ขุมทรัพย์ของการลงทุน**

วันก่อน ดูรายการในทีวี  เห็น พูดอ้างอิงรายงาน การวิจัยถึงผลตอบแทนของหุ้นปันผล จึงหาข้อมูลมาอ่าน เพื่อนบางคนเคยอ่านมาแล้ว สำหรับ trader เก่งๆ ได้กำไร 100-200 %   ก็ผ่านไปเลยนะครับ   สำหรับ ใครยังไม่เคยอ่าน  หรือเป็น investor ก็ มาแชร์ความคิดเห็นได้ครับ

สำหรับ  ผม     เวลา   เป็น     สิ่งมีค่ามากที่สุด

ดังนั้นการลงทุนในหุ้น ของผมในที่นี้หมายถึง   การใช้เงินทำงานเพื่อให้ได้ผลตอบแทนในหุ้น  โดยเสียเวลาและแรงงานน้อยที่สุด เพื่อเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีค่ามากกว่า

ตลาดหลักทรัพย์ไทยผันผวนมากจนติด 1ใน 3  ของเอเชีย  ซึงผมเข้าใจว่า เป็นจาก trader มาก  แต่เอาเข้าจริงดูจากข้อมูล

มีผู้ที่หวังผล  จากการปันผล  นี้มากประมาณ 50 % ของนักลงทุน




รายงานนี้ทำการวิจัยย้อนหลัง 2549-2553  ซึ่งคลอบคลุม  ช่วงหุ้นตกด้วย 1 ปี คือปี 2551



มี 288 บริษัท ที่สามารถจ่ายปันผลได้ต่อเนื่อง 5 ปี




แบ่งกลุ่มวิจัยเป็น  5  กลุ่ม




ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม non-set 100 และราคาไม่ถึง10 บาทส่วนใหญ่ (ไม่ได้แสดงภาพให้ดู)


นิยามของหุ้นปันผล




ผลการศึกษา  ปรากฎว่าว่า



กลุ่มหุ้นปันผล top30 อันดับแรกได้ผลตอบแทนมากสุด


หากดูส่วนต่างราคา  setHD มากสุด  ดูปี 2551  เป็นช่วงขาลง หุ้นราคาลดลง ประมาณ 30 %


ดูผลตอบแทนโดยรวม dividen yield +capital gain  ดุปี 51  ทีหุ้นร่วแรงผลตอบแทนก็จะติดลบ ปันผลช่วยให้ติดลบน้อยลงไม่ถึง 20 %


หากจะดู growth  ก็จะเห็นว่า  กลุ่มหุ้นปันผลโตเหนือตลาด (การเติบโตของรายได้  และสินทรัพย์ก็เหนือตลาด ผมไม่ได้เอามาโชว์)

ดู free float มักไม่ถึง 50 %

ดูความผันผวนราคา ก็น้อยกว่าตลาด


สุดท้ายอยากให้ดู 3 slide สุดท้าย
หากเราลงทุนที่ยาวนานพอ จากภาพ เริ่มมปี 2543  ปลายๆ วิกฤตต้มยำกุ้ง  แม้แต่ปี 2551 หุ้นลงน่าจะวิกฤต subprime ผลตอบแทนโดยรวมก็ยังเป็นบวก


ลงทุนในกองทุนดีกว่าไหม ภาพที่เห็นเป็นข้อมูลในอดีตครับ


ดาวโหลดฟรีได้ที่ http://www.set.or.th/setresearch/files/cmresearch/201201_CMRI_Research_Paper_dividend.pdf
                        www.set.or.th/setresearch/files/.../forum201202_presentation.pdf‎

จบด้วยคำคม ของเสี่ยยักษ์   และ    ทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์

“ตลาดหุ้นมันคือสงคราม การที่คุณจะมาหวังกำไร 10% 20% จบกันไป แล้วจะหวังให้ตลาดหุ้นมันปราณีคุณตอนที่หุ้นตก มันไม่ใช่แบบนั้น มันเอาจนคุณหมดตัว , สึนามิมา มันก็พัดพาไปหมด”--------ความเห็นผม  มันเป็นความจริง หากคุณเล่นหุ้นด้วยมาร์จิ้น  หรือลงทุนในหุ้นที่กิจการพื้นฐานเปลี่ยน     ดังนั้น  จงเลือกหุ้นให้ถูกตัว   และถูกเวลาด้วยครับ

และ     ทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์
“ คุณคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวในชีวิตต่างกันที่ตรงไหน “



โครงการวิจัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี้ เรียกว่าทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์

เป็นโครงการวิจัยเด็กก่อนวัยเรียน

ในการทดลองนั้น พวกเด็กๆจะถูกนำเข้าไปอยู่ในห้องทีละคน

จะมีผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาและวางขนมมาร์ชมาลโลว์หนึ่งชิ้น

ไว้ข้างหน้าเด็กผู้นั้น จากนั้นเธอก็กล่าวว่าเธอต้องออกจากห้องไป 15 นาที

และบอกเด็กน้อยว่าถ้าเขาไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ที่วางอยู่

ขณะที่เธอไม่อยู่ในห้อง เธอจะให้รางวัลด้วยขนมอีกก้อนหนึ่งเมื่อเธอกลับมา


นั่นหมายความว่าถ้าเด็กน้อยไม่ตะกละกินมาร์ชมาลโลว์ในตอนที่เธอไม่อยู่

เด็กน้อยจะได้มันเพิ่มขึ้นอีกชิ้น
  
ถ้าเป็นคุณคุณจะกินรึเปล่า???


ผลการทดลองนี้บอกอะไร


ผลวิจัยออกมาว่า เด็กที่สามารถยับยั้งชั่งใจ

ไม่กินมาร์ชมาลโลว์ได้นั้น

มีผลการเรียนที่ดีกว่า สามารถเข้ากับคนอื่นได้ดีกว่า และจัดการกับความเครียด

ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้กินขนมมาร์ชมาลโลว์ก้อนแรก

จากการทดลองด้วยเวลาสั้นๆ

หลังจากผู้ใหญ่ออกไปจากห้องได้
  

กลุ่มเด็กที่สามารถห้ามใจตัวเอง

ไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ หลายคนเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต

มากกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่สามารถยับยั้งใจได้อย่างมากมาย



มาร์ชมาลโลว์ ก็คือ ความต้องการให้ตนเองพอใจทันทีเดี๋ยวนี้


“ ความสามารถอดทนรอได้ “ จะทำให้เด็กผู้นั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ

มากกว่าเด็กที่ห้ามใจตนเองไม่ได้และกินขนมมาร์ชมาลโลว์ทันที  

************************************************************
  
โชคดีทุกคนสำหรับนักลงทุนมี่ลงทุนด้วยใจบริสุทธิ์
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่