เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดป่าุบุญญาวาสและวัดป่าอัมพวันที่ชลบุรี วัดมาบจันทร์ที่ระยอง
ด้วยความที่ไป 3 วัด จึงทำให้ต้องไปนอนค้างที่พัทยา
จึงได้แวะไปกินข้าวร้านอาหารแห่งหนึ่งในพัทยา ตอนคิดเงินค่าอาหารเราก็ทวนบิลดูว่าถูกต้องไหม
ปรากฎว่าทางร้านคิดค่าน้ำเปล่า มาขวดเดียว ขวดละ 25 บาท แต่ที่โต๊ะกินไปจริงๆ ก็ น้ำเปล่า 3 ขวด โค้ก 2 ขวด น้ำแข็งหนึ่งถัง
จึงบอกใ้ห้เขากลับไปคิดใหม่ พอกลับมาเช็คดู ปรากฎก็ยังคิดขาดไปอีกคือ โค้ก 2 ขวดเป็นเงิน 50 บาทจึงยื่นบัตรเครดิตไปพร้อมบอกว่าคิดค่าโค้กเพิ่มด้วยนะ พนักงานหายไปซักพักกลับมาให้เซ็นบัตร โดยยอดที่รูดไปก็คือยอดที่ไม่ได้คิดค่าโค้ก 2 ขวด
พอถาม พนักงานเสิร์ฟบอกว่า ช่างมันเหอะพี่ไม่เป็นไร เราเลยรับบัตรคืนพร้อมกับควักเงินสดให้อีก 50 บาท บอกไปจ่ายเพิ่มให้ด้วย แล้วออกมา
ขากลับแวะไปซื้อของฝากที่ร้านของฝากแห่งหนึ่ง ซื้อเสร็จทวนบิลดูปรากฎทางร้านคิดค่าของฝากชิ้นหนึ่่งผิด เราหยิบไซส์กลาง 170 บาท แต่เค้าคิดราคาเป็นไซส์เล็กคือ 110 บาทให้ จึงเดินกลับไปบอกเขาว่าคิดผิดและจ่ายเงินเพิ่มไป 60 บาท
วันนี้ เราขายของอยู่หน้าร้าน ลูกค้าจ่ายค่าของมา เราต้องทอนเงินให้ 910 บาท ตอนนับเงินทอน นับอย่างดีมั่นใจไม่มีขาดไม่มีเกินก่อนยื่นให้ลูกค้า พอลูกค้านับ บอกว่าทอนเกินมา 100 บาทพร้อมกับยื่นเงินคืนมาให้..
ไม่ว่าสิ่งที่ได้รับกลับคืนจะเป็นอานิสงค์หรือเรื่องบังเอิญก็แล้วแต่ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดก็ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า แม้เงินจะน้อยนิดหากได้มาโดยไม่ชอบธรรม เราก็ไม่มีสิทธิ์ยึดถือเป็นของตัวเอง และเมื่อเราซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบผู้อื่นแม้เพียงเล็กน้อย สิ่งแรกที่ได้รับทันทีคือ ความรู้สึกดี เบาสบายทั้งกายและใจ
และเมื่อเวลาที่ได้ประสบพบเจอกับคนที่เขามีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง ที่เขาไม่ต้องการที่จะเอาเปรียบเบียดเบียนเราแม้เพียงเล็กน้อย เวลาเราได้เป็นผู้รับ มันรู้สึกดีมากจริงๆ รู้สึกขอบคุณเขา ชื่นชมและนับถือในความดีที่เขาทำ
ความดีแม้เพียงเล็กน้อย แต่มันสามารถสะสมให้เป็นพลังที่นำไปสู่การทำความดีที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้
และขณะเดียวกัน ความชั่วแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถสะสมเป็นพลังที่นำไปสู่การทำความชั่วที่ใหญ่และร้ายแรงขึ้นได้
เล่าสู่กันฟัง..
ด้วยความที่ไป 3 วัด จึงทำให้ต้องไปนอนค้างที่พัทยา
จึงได้แวะไปกินข้าวร้านอาหารแห่งหนึ่งในพัทยา ตอนคิดเงินค่าอาหารเราก็ทวนบิลดูว่าถูกต้องไหม
ปรากฎว่าทางร้านคิดค่าน้ำเปล่า มาขวดเดียว ขวดละ 25 บาท แต่ที่โต๊ะกินไปจริงๆ ก็ น้ำเปล่า 3 ขวด โค้ก 2 ขวด น้ำแข็งหนึ่งถัง
จึงบอกใ้ห้เขากลับไปคิดใหม่ พอกลับมาเช็คดู ปรากฎก็ยังคิดขาดไปอีกคือ โค้ก 2 ขวดเป็นเงิน 50 บาทจึงยื่นบัตรเครดิตไปพร้อมบอกว่าคิดค่าโค้กเพิ่มด้วยนะ พนักงานหายไปซักพักกลับมาให้เซ็นบัตร โดยยอดที่รูดไปก็คือยอดที่ไม่ได้คิดค่าโค้ก 2 ขวด
พอถาม พนักงานเสิร์ฟบอกว่า ช่างมันเหอะพี่ไม่เป็นไร เราเลยรับบัตรคืนพร้อมกับควักเงินสดให้อีก 50 บาท บอกไปจ่ายเพิ่มให้ด้วย แล้วออกมา
ขากลับแวะไปซื้อของฝากที่ร้านของฝากแห่งหนึ่ง ซื้อเสร็จทวนบิลดูปรากฎทางร้านคิดค่าของฝากชิ้นหนึ่่งผิด เราหยิบไซส์กลาง 170 บาท แต่เค้าคิดราคาเป็นไซส์เล็กคือ 110 บาทให้ จึงเดินกลับไปบอกเขาว่าคิดผิดและจ่ายเงินเพิ่มไป 60 บาท
วันนี้ เราขายของอยู่หน้าร้าน ลูกค้าจ่ายค่าของมา เราต้องทอนเงินให้ 910 บาท ตอนนับเงินทอน นับอย่างดีมั่นใจไม่มีขาดไม่มีเกินก่อนยื่นให้ลูกค้า พอลูกค้านับ บอกว่าทอนเกินมา 100 บาทพร้อมกับยื่นเงินคืนมาให้..
ไม่ว่าสิ่งที่ได้รับกลับคืนจะเป็นอานิสงค์หรือเรื่องบังเอิญก็แล้วแต่ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดก็ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า แม้เงินจะน้อยนิดหากได้มาโดยไม่ชอบธรรม เราก็ไม่มีสิทธิ์ยึดถือเป็นของตัวเอง และเมื่อเราซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบผู้อื่นแม้เพียงเล็กน้อย สิ่งแรกที่ได้รับทันทีคือ ความรู้สึกดี เบาสบายทั้งกายและใจ
และเมื่อเวลาที่ได้ประสบพบเจอกับคนที่เขามีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง ที่เขาไม่ต้องการที่จะเอาเปรียบเบียดเบียนเราแม้เพียงเล็กน้อย เวลาเราได้เป็นผู้รับ มันรู้สึกดีมากจริงๆ รู้สึกขอบคุณเขา ชื่นชมและนับถือในความดีที่เขาทำ
ความดีแม้เพียงเล็กน้อย แต่มันสามารถสะสมให้เป็นพลังที่นำไปสู่การทำความดีที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้
และขณะเดียวกัน ความชั่วแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถสะสมเป็นพลังที่นำไปสู่การทำความชั่วที่ใหญ่และร้ายแรงขึ้นได้