เราอายุ 30 แล้วคะ โสดด้วย จะเข้ามาเล่าเรื่องที่เราก้อไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
พอดีได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง เราไปกับ
ญาติ รวมเราเป็น 4 คน ได้มีโอกาสรู้จักพี่ a จากการนั่ง
ติดกันบนเครื่องบิน ทั้งขาไป และขากลับ พูดคุย เรื่อง หน้าที่การงาน การใช้ชีวิต ทัศนคติ ส่วนตัว ฯลฯ
พูดจาเข้าขา เป็นห่วงเป็นใยกันดี สุดท้ายพี่เค่้าไม่ได้ขอเบอร์เรา แต่ให้อีเมล์เรามา เพื่อให้
เราแอดเฟสบุค ของพี่เค้า แต่มันมีปัญหาอยู่ว่า
จริง ๆ เราก้อคุยกันได้นะ 4 วันที่อยู่ต่างบ้ายต่างเมืองถึงจะไม่ได้คุยกันจริงจังเท่า
ที่อยู่บนเครื่องบิน ก้อทักทายแลกเปลี่ยน พูดคุยกัน
พี่เค้ามีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถ เป็นเจ้าของอู้ จริง ๆ พี่เค้าไม่อยากมาหรอก ห่วงงาน แต่มีเหตุทำให้ต้องมา
นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่เค้าค่อนข้างมอมแมม
คุณนึกออกกันมั๊ย ช่างซ่อมรถคนนุง เหงื่อเยอะ เล็บดำ
เสื้อ กางเกง รองเท้า มอมแมม ทั้งหมดเราก้อโอเค
แต่อย่างเดียวที่รับไม่ได้ คือ เล็บดำมากกก ไม่แน่ใจว่าเพราะสกปรก หรือคราบต่าง มันติดเล็บ
เราไม่กล้ามองเลย 555
ตอนคุยกันเราก้อคิดแค่ว่า ใช้ใจคุยกัน ลองเปิดใจ
เราก้อโอเคร กับทัศนคติของพี่แกมาก แต่พอเหลือบ
มาเห็นเล็บแล้ว ....
เราไม่ใช่สาวไฮโซ เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วนะ
เราก้อเซอ ๆ เสื้อยืด กางเกงยีน ขาด ๆ นี่แหละ
เข้าเรื่อง ๆ ก้อเหมือนดูทีทีาแล้ว พี่เค้าคงอยากสานต่อ
แต่เวลาไม่พอด้วยแหละ เรื่องที่ให้อีเมล์
พอลงจากเครื่องเราก้อไม่ได้ลากัน ต่างคนต่างยุ่ง
เอากระดาษที่พี่เค้าให้อีเมล์ เราก้อเลยฉีกทิ้ง
ไม่ใช่เพราะรังเกียจรัยนะ แต่เรารู้สึกขัดแย้งที่ไม่ชอบบุคลิก ลักษณะพี่เค้า
แต่เราชอบความคิดเค้ามากเลย
เราก้อเลยคิดเองเออเองไปว่า ถ้าพี่เค้าชอบเราจริง
หรือถ้าเราถูกลิขิตให้มารู้จักกันจริง ๆ เค้าคงตามหาเบอร์โทรเราได้เองแหละ
เราเพ้อเจ้อเกินไปรึป่าว ^^
เราเพ้อเจ้อเกินไปรึป่าว
พอดีได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง เราไปกับ
ญาติ รวมเราเป็น 4 คน ได้มีโอกาสรู้จักพี่ a จากการนั่ง
ติดกันบนเครื่องบิน ทั้งขาไป และขากลับ พูดคุย เรื่อง หน้าที่การงาน การใช้ชีวิต ทัศนคติ ส่วนตัว ฯลฯ
พูดจาเข้าขา เป็นห่วงเป็นใยกันดี สุดท้ายพี่เค่้าไม่ได้ขอเบอร์เรา แต่ให้อีเมล์เรามา เพื่อให้
เราแอดเฟสบุค ของพี่เค้า แต่มันมีปัญหาอยู่ว่า
จริง ๆ เราก้อคุยกันได้นะ 4 วันที่อยู่ต่างบ้ายต่างเมืองถึงจะไม่ได้คุยกันจริงจังเท่า
ที่อยู่บนเครื่องบิน ก้อทักทายแลกเปลี่ยน พูดคุยกัน
พี่เค้ามีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถ เป็นเจ้าของอู้ จริง ๆ พี่เค้าไม่อยากมาหรอก ห่วงงาน แต่มีเหตุทำให้ต้องมา
นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่เค้าค่อนข้างมอมแมม
คุณนึกออกกันมั๊ย ช่างซ่อมรถคนนุง เหงื่อเยอะ เล็บดำ
เสื้อ กางเกง รองเท้า มอมแมม ทั้งหมดเราก้อโอเค
แต่อย่างเดียวที่รับไม่ได้ คือ เล็บดำมากกก ไม่แน่ใจว่าเพราะสกปรก หรือคราบต่าง มันติดเล็บ
เราไม่กล้ามองเลย 555
ตอนคุยกันเราก้อคิดแค่ว่า ใช้ใจคุยกัน ลองเปิดใจ
เราก้อโอเคร กับทัศนคติของพี่แกมาก แต่พอเหลือบ
มาเห็นเล็บแล้ว ....
เราไม่ใช่สาวไฮโซ เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วนะ
เราก้อเซอ ๆ เสื้อยืด กางเกงยีน ขาด ๆ นี่แหละ
เข้าเรื่อง ๆ ก้อเหมือนดูทีทีาแล้ว พี่เค้าคงอยากสานต่อ
แต่เวลาไม่พอด้วยแหละ เรื่องที่ให้อีเมล์
พอลงจากเครื่องเราก้อไม่ได้ลากัน ต่างคนต่างยุ่ง
เอากระดาษที่พี่เค้าให้อีเมล์ เราก้อเลยฉีกทิ้ง
ไม่ใช่เพราะรังเกียจรัยนะ แต่เรารู้สึกขัดแย้งที่ไม่ชอบบุคลิก ลักษณะพี่เค้า
แต่เราชอบความคิดเค้ามากเลย
เราก้อเลยคิดเองเออเองไปว่า ถ้าพี่เค้าชอบเราจริง
หรือถ้าเราถูกลิขิตให้มารู้จักกันจริง ๆ เค้าคงตามหาเบอร์โทรเราได้เองแหละ
เราเพ้อเจ้อเกินไปรึป่าว ^^