คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
ดูบริบทของผู้พูดด้วย
...แต่หากไม่ดู เราว่าสำคัญเท่ากัน
มนุษย์เราจินตนาการไม่ได้หรอก เพราะการจะจินตนาการได้ต้องมีความรู้เป็นพื้นฐาน
ลองไปคุยกับเด็กดูก็ได้ จินตนาการที่เด็กมี ถึงแม้จะเห็นว่าไม่มีขีดจำกัด แต่ที่จริงมีขีดจำกัดนะ
ที่เห็นว่าเด็กไม่มีขีดจำกัด เพราะเด็กไม่มีกรอบความคิด จนเชื่อมโยงสิ่งที่ไม่น่าเกี่ยวข้องเข้ากันได้ ซึ่งกลายเป็นว่าเด็กจะคิดในสิ่งที่เราคิดไม่ถึง
จุดนี้แหละที่ผู้ใหญ่เข้าใจผิดคิดว่าเด็กมีจินตนาการที่ไม่มีขีดจำกัด ไม่มีขีดจำกัดด้วยกรอบของกระบวนการคิดเท่านั้น
แต่สิ่งที่เด็กจินตนาการออกมา ก็ยังใช้ความรู้ที่พวกเขามีอยู่ทั้งนั้น พวกเขาไม่เคยจินตนาการอะไรที่นอกเหนือไปจากข้อมูลที่พวกเขามีอยู่สักอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้ จินตนาการจึงมีได้แค่เพียงกรอบความรู้ที่เรามีอยู่ทั้งนั้น
แต่เวลาการแก้ปัญหาที่ไม่เคยพบเห็น หรือจะสรรค์สร้างผลงานใหม่ ๆ จินตนาการก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญ
ดังนั้นความรู้กับจินตนาการจึงมีความสำคัญที่เท่าเทียมกัน เพราะไร้ความรู้ จินตนาการก็ไม่บังเกิด
ทว่าในบริบทของไอน์สไตน์ ความรู้ที่เขามี ถือว่ามีมากที่สุดในสายที่เขาจะมีได้
ดังนั้นเขาจึงแทบจะไม่มีสิ่งที่เขาไม่รู้ในสายที่เขาจะมีได้อีกต่อไป และการที่จะไปถึงความรู้ที่ไม่มีใครเข้าถึง จินตนาการจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
และสิ่งที่เขาค้นพบและจินตนาการไปถึงนั้นก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ปฏิวัติโลกเลยทีเดียว
การจะยึดหลักความรู้และต่อยอดไปเรื่อย ๆ คงอีกนานนับเป็นร้อย ๆ ปี ถึงจะมีคนที่รู้สิ่งเดียวกับสิ่งที่เขาคิด
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไอน์สไตน์บอกว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะในบริบทของผู้ที่รู้ทบจะทุกอย่างในสายของเขาที่จะรู้ จินตนาการสำคัญกว่า
ดังนั้นสรุปว่าอะไรที่สำคัญกว่า ?
สำหรับเราไม่ใช่ทั้งความรู้และจินตนาการ
หากคือ "กระบวนความคิด" ที่จะสามารถใช้ความรู้ที่มีได้อย่างเหมาะสม รวมถึงสามารถจินตนาการในสิ่งที่ใช้จริงได้
เด็ก ไม่มีกรอบความคิด สิ่งที่จินตนาการจึงฟุ้งซ่านไม่มีหลักความจริงมายึด ทำให้มักจะใช้จริงไม่ได้
ผู้ใหญ่ มีกรอบความคิดมากำหนด ทำให้หลายครั้งสิ่งที่จินตนาการจึงได้แต่ซ้ำซากจำเจกับคนอื่น
ทว่ากระบวนการความคิดที่เหมาะสมจะสามารถทำลายจุดด้อยเหล่านั้นได้
และมันเป็นสิ่งที่กำหนดทิศทางให้สามารถคุมความรู้และจินตนาการไปในทางที่เหมาะสม
...แต่หากไม่ดู เราว่าสำคัญเท่ากัน
มนุษย์เราจินตนาการไม่ได้หรอก เพราะการจะจินตนาการได้ต้องมีความรู้เป็นพื้นฐาน
ลองไปคุยกับเด็กดูก็ได้ จินตนาการที่เด็กมี ถึงแม้จะเห็นว่าไม่มีขีดจำกัด แต่ที่จริงมีขีดจำกัดนะ
ที่เห็นว่าเด็กไม่มีขีดจำกัด เพราะเด็กไม่มีกรอบความคิด จนเชื่อมโยงสิ่งที่ไม่น่าเกี่ยวข้องเข้ากันได้ ซึ่งกลายเป็นว่าเด็กจะคิดในสิ่งที่เราคิดไม่ถึง
จุดนี้แหละที่ผู้ใหญ่เข้าใจผิดคิดว่าเด็กมีจินตนาการที่ไม่มีขีดจำกัด ไม่มีขีดจำกัดด้วยกรอบของกระบวนการคิดเท่านั้น
แต่สิ่งที่เด็กจินตนาการออกมา ก็ยังใช้ความรู้ที่พวกเขามีอยู่ทั้งนั้น พวกเขาไม่เคยจินตนาการอะไรที่นอกเหนือไปจากข้อมูลที่พวกเขามีอยู่สักอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้ จินตนาการจึงมีได้แค่เพียงกรอบความรู้ที่เรามีอยู่ทั้งนั้น
แต่เวลาการแก้ปัญหาที่ไม่เคยพบเห็น หรือจะสรรค์สร้างผลงานใหม่ ๆ จินตนาการก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญ
ดังนั้นความรู้กับจินตนาการจึงมีความสำคัญที่เท่าเทียมกัน เพราะไร้ความรู้ จินตนาการก็ไม่บังเกิด
ทว่าในบริบทของไอน์สไตน์ ความรู้ที่เขามี ถือว่ามีมากที่สุดในสายที่เขาจะมีได้
ดังนั้นเขาจึงแทบจะไม่มีสิ่งที่เขาไม่รู้ในสายที่เขาจะมีได้อีกต่อไป และการที่จะไปถึงความรู้ที่ไม่มีใครเข้าถึง จินตนาการจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
และสิ่งที่เขาค้นพบและจินตนาการไปถึงนั้นก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ปฏิวัติโลกเลยทีเดียว
การจะยึดหลักความรู้และต่อยอดไปเรื่อย ๆ คงอีกนานนับเป็นร้อย ๆ ปี ถึงจะมีคนที่รู้สิ่งเดียวกับสิ่งที่เขาคิด
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไอน์สไตน์บอกว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะในบริบทของผู้ที่รู้ทบจะทุกอย่างในสายของเขาที่จะรู้ จินตนาการสำคัญกว่า
ดังนั้นสรุปว่าอะไรที่สำคัญกว่า ?
สำหรับเราไม่ใช่ทั้งความรู้และจินตนาการ
หากคือ "กระบวนความคิด" ที่จะสามารถใช้ความรู้ที่มีได้อย่างเหมาะสม รวมถึงสามารถจินตนาการในสิ่งที่ใช้จริงได้
เด็ก ไม่มีกรอบความคิด สิ่งที่จินตนาการจึงฟุ้งซ่านไม่มีหลักความจริงมายึด ทำให้มักจะใช้จริงไม่ได้
ผู้ใหญ่ มีกรอบความคิดมากำหนด ทำให้หลายครั้งสิ่งที่จินตนาการจึงได้แต่ซ้ำซากจำเจกับคนอื่น
ทว่ากระบวนการความคิดที่เหมาะสมจะสามารถทำลายจุดด้อยเหล่านั้นได้
และมันเป็นสิ่งที่กำหนดทิศทางให้สามารถคุมความรู้และจินตนาการไปในทางที่เหมาะสม
แสดงความคิดเห็น
"จินตนาการ สำคัญ กว่าความรู้" จริงหรือครับ และหมายความว่ายังไง งง
ถ้าจินตนาการล้ำลึก แต่ไม่มีความรู้มารองรับหรือขับส่ง แล้วจินตนาการมันจะเป็นจริงได้อย่างไร นอกจากความ เพ้อฝัน เท่านั้นเอง