อารายกานเนี่ย (แค่เรื่องใครเป็นผู้เสียหายโดยตรงหรือไม่) ทั้งศาลชั้นต้น และอุธรณ์ ยังดูไม่ออก ดูไม่รู้ ก้เลยเสียเวลาสืบพยาน ว่าความจนตัดสินไปแล้ว สุดท้ายถึงศาลฏีกา แล้วก็จบแบบ โอละพ่อ! สะงั้น
แล้วแบบนี้ ในการใช้ดุลพินิจ การวินิฉัยในรายละเอียดของดคี รวมถึงการตัดสิน จะเชื่อถือได้ไหมเนี่ย เพราะหลักเริ่มต้นของการรับพิจรณาคดีเท่าที่รู้มา(จากการอ่านข่าว และจากการฟังนักฏหมาย) เขาจะดูว่า ผู้ฟ้องมีอำนาจไหม เป็นผู้เสียหายไหม ฟ้องถูกศาลไหม ประมาณนี้เป้นต้น......เวรกรรม กระบวนการยุติธรรมไทย เฮ้อ......
ผมยังไม่สิ้นสงสัยจนทุกวันนี้ ในคดีอากง ที่ศาลใช้ดุลพินิจไม่ให้ประกันตัว โดยบอกว่า โรคที่ป่วยไม่ถึงขั้นเสียชีวิตจึงไม่ให้ประกันตัว สุดท้าย อากงตายเพราะโรคที่ป่วย ผมไม่เห็น ผู้พิพากษาออกมาแสดงจริยธรรม คุณธรรมขอโทษเลย ไม่เหมือน ผู้พิพากษาต่างประเทศ ที่เป็นข่าวไม่นานมานี้ ที่เขาตัดสินผิด เขาก็ออกมาแสดงจริยธรรม แสดงความสำนึกรับผิดชอบขอโทษจำเลยที่เขาตัดสินผิดไป....ขอ...เฮ้อ อีกที
คนดีสมัยนี้ เห็นชัดว่า"ดีแต่ปาก" แต่การกระทำหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อเทียบกับ ผู้พิพากษาต่างประเทศ ที่ผมยกตัวอย่างให้เห็น ซึ่งผมไม่รู้ว่า ชาวต่างประเทศเขาจะบ้าน้ำลาย พูดโอ้อวด จริยธรรม คุณธรรม เหมือนคนดีในบ้านเราหรือไม่ แต่ที่เห็นคือ เขาแสดงออกให้เห็นโดยการ"กระทำ" ว่าเขามีจริยธรรม มีมโนสำนึกอย่างชัดเจน...และค่าของคนผม และรวมถึงคนใจเป็นธรรมที่เป็นอารยะชนทั่วโลกจะให้ความเชื่อถือที่การกระทำมากกว่า ไม่ใช่ที่ปากแบบคนดีกะเลกะลาดในบ้านเรา
ปล.เซ็ง จารุวรรณ กับกระบวนการยุติธรรมไทย (ผู้บังคับใช้กฏหมาย)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371092581&grpid=03&catid=&subcatid=
ด่วน!!ศาลฎีกากลับคำพิพากษา2ศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง"วาสนา-ปริญญา-วีระชัย"คดีจัดเลือกตั้งมิชอบ
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่มีคำพิพากษายกฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีตกกต. จำเลยที่1-3 ในคดีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร่วมกันเป็นจำเลย ในฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 และมาตรา 42 กรณีกำหนดจัดการเลือกตั้งส.ส. แบบแบ่งเขตรอบที่ 2 โดยไม่มีอำนาจ และออกหนังสือเวียนให้เปิดรับผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตโดยมิชอบ เมื่อวันที่ 23 และวันที่ 29 เมษายน 2549 โดยศาลฎีกาพิเคราะห์มีใจความสำคัญสรุปว่าเนื่องจากนายถาวรโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจในการฟ้อง
สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 4 ปี และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งคนละ 10 ปี ฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคการเมือง โดยไม่รอลงอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการฟัวคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้(13มิ.ย.) พล.ต.อ.วาสนา นายปริญญา เดินทางมาศาล ขณะที่นายวีระชัย แนวบุญเนียร เสียชีวิตก่อนหน้าศาลมีคำพิพากษา
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้เลื่อนการนัดอ่านคำพิพากษามาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากนายปริญญา ต้องเข้ารับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ และต้องพักรักษาตัวเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ในวันดังกล่าว จึงขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป เป็นวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เวลา 9.00 น.
โอละพ่อ! ด่วน!!ศาลฎีกากลับคำพิพากษา2ศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง"วาสนา-ปริญญา-วีระชัย"คดีจัดเลือกตั้งมิชอบ
แล้วแบบนี้ ในการใช้ดุลพินิจ การวินิฉัยในรายละเอียดของดคี รวมถึงการตัดสิน จะเชื่อถือได้ไหมเนี่ย เพราะหลักเริ่มต้นของการรับพิจรณาคดีเท่าที่รู้มา(จากการอ่านข่าว และจากการฟังนักฏหมาย) เขาจะดูว่า ผู้ฟ้องมีอำนาจไหม เป็นผู้เสียหายไหม ฟ้องถูกศาลไหม ประมาณนี้เป้นต้น......เวรกรรม กระบวนการยุติธรรมไทย เฮ้อ......
ผมยังไม่สิ้นสงสัยจนทุกวันนี้ ในคดีอากง ที่ศาลใช้ดุลพินิจไม่ให้ประกันตัว โดยบอกว่า โรคที่ป่วยไม่ถึงขั้นเสียชีวิตจึงไม่ให้ประกันตัว สุดท้าย อากงตายเพราะโรคที่ป่วย ผมไม่เห็น ผู้พิพากษาออกมาแสดงจริยธรรม คุณธรรมขอโทษเลย ไม่เหมือน ผู้พิพากษาต่างประเทศ ที่เป็นข่าวไม่นานมานี้ ที่เขาตัดสินผิด เขาก็ออกมาแสดงจริยธรรม แสดงความสำนึกรับผิดชอบขอโทษจำเลยที่เขาตัดสินผิดไป....ขอ...เฮ้อ อีกที
คนดีสมัยนี้ เห็นชัดว่า"ดีแต่ปาก" แต่การกระทำหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อเทียบกับ ผู้พิพากษาต่างประเทศ ที่ผมยกตัวอย่างให้เห็น ซึ่งผมไม่รู้ว่า ชาวต่างประเทศเขาจะบ้าน้ำลาย พูดโอ้อวด จริยธรรม คุณธรรม เหมือนคนดีในบ้านเราหรือไม่ แต่ที่เห็นคือ เขาแสดงออกให้เห็นโดยการ"กระทำ" ว่าเขามีจริยธรรม มีมโนสำนึกอย่างชัดเจน...และค่าของคนผม และรวมถึงคนใจเป็นธรรมที่เป็นอารยะชนทั่วโลกจะให้ความเชื่อถือที่การกระทำมากกว่า ไม่ใช่ที่ปากแบบคนดีกะเลกะลาดในบ้านเรา
ปล.เซ็ง จารุวรรณ กับกระบวนการยุติธรรมไทย (ผู้บังคับใช้กฏหมาย)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371092581&grpid=03&catid=&subcatid=
ด่วน!!ศาลฎีกากลับคำพิพากษา2ศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง"วาสนา-ปริญญา-วีระชัย"คดีจัดเลือกตั้งมิชอบ
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่มีคำพิพากษายกฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีตกกต. จำเลยที่1-3 ในคดีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร่วมกันเป็นจำเลย ในฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 และมาตรา 42 กรณีกำหนดจัดการเลือกตั้งส.ส. แบบแบ่งเขตรอบที่ 2 โดยไม่มีอำนาจ และออกหนังสือเวียนให้เปิดรับผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตโดยมิชอบ เมื่อวันที่ 23 และวันที่ 29 เมษายน 2549 โดยศาลฎีกาพิเคราะห์มีใจความสำคัญสรุปว่าเนื่องจากนายถาวรโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจในการฟ้อง
สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 4 ปี และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งคนละ 10 ปี ฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคการเมือง โดยไม่รอลงอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการฟัวคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้(13มิ.ย.) พล.ต.อ.วาสนา นายปริญญา เดินทางมาศาล ขณะที่นายวีระชัย แนวบุญเนียร เสียชีวิตก่อนหน้าศาลมีคำพิพากษา
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้เลื่อนการนัดอ่านคำพิพากษามาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากนายปริญญา ต้องเข้ารับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ และต้องพักรักษาตัวเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ในวันดังกล่าว จึงขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป เป็นวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เวลา 9.00 น.