
" ภูสอยดาว "
ดั่งเดือนดาวกราวกรูพร่างพรูร่วง
จากแดนสรวงสู่ดินถิ่นภูผา
แต่งแต้มดินถิ่นดอยพลอยงามตา
ต่างผืนฟ้าประดับดาวจนพราวพราย
มาแซมซ้อนสลอนสวยสำรวยเรื่อ
แสนงามเมื่อชูช่อ ละออหลาย-
เรียงลดหลั่นสรรค์สีมีมากมาย
ดั่งดาวรายเรียงระยิบกระพริบพลัน
จนเผลอคอย " สอยดาว " ที่พราวพร่าง
ชะแง้พลางหมายชมภิรมย์ขวัญ
เยือนผาภูดูดาวพราวผ่องพรรณ
แค่ใฝ่ฝันสอยดาวพราวพิไล
มวลช่อมาลย์กัลยาบุปผาเจ้า
ก่อนเคยเย้าระยางหยอกออกหวิวไหว
พระพายแผ่วพลางสะบัดพากวัดไกว
แต่งพฤกษ์ไพรพงษา วนาวัน
เคยงดงามอร่ามเรื่อเหลือเกินเจ้า
กลิ่นกรุ่นเคล้าขจายหอมมากล่อมขวัญ
ให้ชื่นจิตติดตรึงซึ้งชีวัน
พอใฝ่ฝันชั่วครากลับราโรย
รีบร่วงดินสิ้นเยื่อจุนเจือแล้ว
แม่มิ่งแก้วบุปผา นำพาโหย-
หาหวนถึงคนึงนานล่วงกาลโดย-
ยิ่งลมโชยร่วงดินปานสิ้นใจ
เห็นเกลือกหินถิ่นพนาเกลื่อนผาเหี้ยน
กลบภูเตียนดาดศิลา น่าร่ำไห้
ฤาสิ้นแรงรัดรึงซึ่งก้านใบ
จึ่งปล่อยให้โรยราล้าเรี่ยวแรง
ฤาปล่อยวางสรรพสิ่งทั้งจริงเท็จ
อย่างสำเร็จมรรคญาณฌานกล้าแกร่ง
วอนเถิดเจ้า วอนว่าอย่างเปลี่ยนแปลง
ถึงสิ้นแรงอ่อนล้าอย่าร่วงดิน
เกรงซีดเซียวเหี่ยวโทรมเทียบโถมทับ
แล้วจึงหลับนิตย์นิรันดร์บนชั้นหิน
จนผุกร่อนสลายแหลกแยกพังภินท์
จนเสื่อมสิ้นสวยงามความโสภา
ทิ้งภูหินดินผาจนป่าร้าง
แสนอ้างว้างเปลี่ยวเปล่าเหงานักหนา
สิ้นดอกไม้เฉิดฉันท์มิ่งกัลยา
คงแต่ป่าลานดินแผ่นหินภู ฯ
ขอบคุณมากมาย ครับ
1. ภาพประกอบ ภูสอยดาว จากช่างภาพฝีมือเยี่ยม จาก Internet ที่ไม่อาจทราบชื่อเสียงเรียงนามอันสูงส่งได้
2. พี่ ๆ และทีมงามที่ใจดีแสนสวยทุกท่าน www.pantip.com
และทุกท่านที่มาเยือน อ่าน ละฝากถ้อยคำต่างไมตรีไว้ชมต่างหน้า
ขอบคุณครับ
" ภูสอยดาว "
" ภูสอยดาว "
ดั่งเดือนดาวกราวกรูพร่างพรูร่วง
จากแดนสรวงสู่ดินถิ่นภูผา
แต่งแต้มดินถิ่นดอยพลอยงามตา
ต่างผืนฟ้าประดับดาวจนพราวพราย
มาแซมซ้อนสลอนสวยสำรวยเรื่อ
แสนงามเมื่อชูช่อ ละออหลาย-
เรียงลดหลั่นสรรค์สีมีมากมาย
ดั่งดาวรายเรียงระยิบกระพริบพลัน
จนเผลอคอย " สอยดาว " ที่พราวพร่าง
ชะแง้พลางหมายชมภิรมย์ขวัญ
เยือนผาภูดูดาวพราวผ่องพรรณ
แค่ใฝ่ฝันสอยดาวพราวพิไล
มวลช่อมาลย์กัลยาบุปผาเจ้า
ก่อนเคยเย้าระยางหยอกออกหวิวไหว
พระพายแผ่วพลางสะบัดพากวัดไกว
แต่งพฤกษ์ไพรพงษา วนาวัน
เคยงดงามอร่ามเรื่อเหลือเกินเจ้า
กลิ่นกรุ่นเคล้าขจายหอมมากล่อมขวัญ
ให้ชื่นจิตติดตรึงซึ้งชีวัน
พอใฝ่ฝันชั่วครากลับราโรย
รีบร่วงดินสิ้นเยื่อจุนเจือแล้ว
แม่มิ่งแก้วบุปผา นำพาโหย-
หาหวนถึงคนึงนานล่วงกาลโดย-
ยิ่งลมโชยร่วงดินปานสิ้นใจ
เห็นเกลือกหินถิ่นพนาเกลื่อนผาเหี้ยน
กลบภูเตียนดาดศิลา น่าร่ำไห้
ฤาสิ้นแรงรัดรึงซึ่งก้านใบ
จึ่งปล่อยให้โรยราล้าเรี่ยวแรง
ฤาปล่อยวางสรรพสิ่งทั้งจริงเท็จ
อย่างสำเร็จมรรคญาณฌานกล้าแกร่ง
วอนเถิดเจ้า วอนว่าอย่างเปลี่ยนแปลง
ถึงสิ้นแรงอ่อนล้าอย่าร่วงดิน
เกรงซีดเซียวเหี่ยวโทรมเทียบโถมทับ
แล้วจึงหลับนิตย์นิรันดร์บนชั้นหิน
จนผุกร่อนสลายแหลกแยกพังภินท์
จนเสื่อมสิ้นสวยงามความโสภา
ทิ้งภูหินดินผาจนป่าร้าง
แสนอ้างว้างเปลี่ยวเปล่าเหงานักหนา
สิ้นดอกไม้เฉิดฉันท์มิ่งกัลยา
คงแต่ป่าลานดินแผ่นหินภู ฯ
ขอบคุณมากมาย ครับ
1. ภาพประกอบ ภูสอยดาว จากช่างภาพฝีมือเยี่ยม จาก Internet ที่ไม่อาจทราบชื่อเสียงเรียงนามอันสูงส่งได้
2. พี่ ๆ และทีมงามที่ใจดีแสนสวยทุกท่าน www.pantip.com
และทุกท่านที่มาเยือน อ่าน ละฝากถ้อยคำต่างไมตรีไว้ชมต่างหน้า
ขอบคุณครับ