The Bullet Vanishes
กำกับ : หลอซีเลิง
แสดง : เซียะถิงฟง, หลิวชิงหวิน, หยางมี่
หนังแนวแอ็คชั่นสืบสวนสอบสวนบนฉากหลังย้อนยุคเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ หลอชีเลิง (Koma ฆ่าหลอกซ่อนคนตาย) ซึ่งได้รุ่นใหญ่อย่าง เอ๋อตงเซิน ( The Great Magician) มาทำเป็นผู้อำนวยการสร้างให้ แถมยังคว้าตัวสองซูเปอร์สตาร์อย่าง เซียะถิงฟง กับ หลิวชิงหวิน มารับบทนักแม่นปืนฝีมือระดับเทพนาม กัวจุย และนักสืบเปาเต๋อซี ทั้งคู่จะต้องสืบหาตัวฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่ง ซึ่งกำจัดเหยื่อทุกรายด้วยการยิงทิ้งแต่กลับไม่เหลือหลักฐานที่เป็นลูกกระสุนไว้ให้ตามรอบ หนำซ้ำคดีนี้กลับซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อหลักฐานที่กัวจุยกับเปาเต๋อซีได้มานั้น กลับชี้ไปที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งถูกฆาตกรรมไปตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว !
“ผมอยากทำหนังที่มีฉากหลังย้อนยุคมาโดยตลอด และ The Bullet Vanishes ก็คือหนังที่เติมเต็มความฝันนั้นให้แก่ผม” หลอซีเลิงเย “กระนั้นจุดขายของมันไม่ได้อยู่ที่โปรดักชั่นเหล่านั้นหรอก แต่อยู่ที่เนื้อหาของมันมากกว่า เพราะเมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงจุดหนึ่งแล้ว คุณจะไม่สามารถบอกได้อีกเลยว่าใครเป็นคนผิดหรือถูก ใครเลวหรือดี เนื่องจากทุกตัวละครในหนังเรื่องนี้ล้วนเป็นสีเทา มันก็เหมือนกับโลกแห่งความจริงนั่นแหละ ที่กฎแห่งศีลธรรมมักบิดเบือนและขึ้นอยู่กับบริบทของสังคมนั้นๆเสียมากกว่า”
ด้านเอ๋อตงเซินก็เสริมถึงกลยุทธในการได้ตัวเซียะถิงฟงและหลิวซิงหวินมาร่วมจอกันในครั้งนี้ว่า “ผมรู้มาว่าเซียะถิงฟงอยากร่วมงานกับหลิวชิงหวินมาก เลยบอกเขาไปว่าหลิวชิงหวินก็เล่นหนังเรื่องนี้ด้วย ทั้งที่จริงๆแล้ว เขายังไม่ได้เซ็นสัญญาหรือตกลงอะไรกับผมเลย แต่พอเราได้เซียะถิงฟงมาแล้ว ผมถึงค่อยติดต่อไปหาหลิวชิงหวินอีกที ซึ่งพอทั้งคู่ได้มาเข้าฉากถ่ายทำด้วยกัน ก็เห็นได้ชัดเลยว่าเคมีของพวกเขายอดเยี่ยม”
เพื่อขับเน้นความสมจริงของเนื้อหา หลอชีเลิงเลยสั่งให้นักแสดงทุกคนต้องถ่ายทอดบทออกมาเป็นภาษาจีนกลาง ซึ่งสองดารานำที่ถนัดกับการพูดภาษากวางตุ้งมากกว่าเลยต้องทำการบ้านกันอย่างหนัก จนหลิวชิงหวินอดบ่นเล็กๆไม่ได้ว่า “การพูดจีนกลางไม่ใช่งานหมูๆ เลย มันเล่นเอาผมต้องปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีก” ส่วนคุณต่อลูกสองอย่างเซียะถิงฟงเสริมว่า “นอกจากจะต้องจำบทให้เป๊ะแล้ว ผมยังต้องทวนได้อะล็อกแต่ละประโยคซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อฝึกการออกเสียงละสำเนียงให้สมจริงด้วย เอาเข้าจริง ผมว่ามันยากกว่าการถ่ายแอ็คชั่นอีก (หัวเราะ)”
แต่ความทุ่มเททั้งหมดก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อหนังได้รับเสียงตอบรับจากคนดูและนักวิจารณ์เป็นอย่างดี แถมยังมีชื่อเข้าชิงรางวัลม้าทองคำสูงถึง 12 สาขา เท่ากับ Cold War (2 คนล่าถล่มเมือง) หนังฮ่องกงสุดฮิตอีกเรื่อง แม้ท้ายที่สุด The Bullet Vanishes จะไม่สามารถคว้ารางวัลใดๆ กลับบ้านได้เลยก็ตาม (ส่วน Cold War กวาดรางวัลไปถึง 12 สาขา)
Via : Filmax ฉบับที่ 71 ประจำเดือนพฤษภาคม 2556
The Bullet Vanishes ดับแผนล่ากระสุนสั่งตาย by Filmax
กำกับ : หลอซีเลิง
แสดง : เซียะถิงฟง, หลิวชิงหวิน, หยางมี่
หนังแนวแอ็คชั่นสืบสวนสอบสวนบนฉากหลังย้อนยุคเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ หลอชีเลิง (Koma ฆ่าหลอกซ่อนคนตาย) ซึ่งได้รุ่นใหญ่อย่าง เอ๋อตงเซิน ( The Great Magician) มาทำเป็นผู้อำนวยการสร้างให้ แถมยังคว้าตัวสองซูเปอร์สตาร์อย่าง เซียะถิงฟง กับ หลิวชิงหวิน มารับบทนักแม่นปืนฝีมือระดับเทพนาม กัวจุย และนักสืบเปาเต๋อซี ทั้งคู่จะต้องสืบหาตัวฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่ง ซึ่งกำจัดเหยื่อทุกรายด้วยการยิงทิ้งแต่กลับไม่เหลือหลักฐานที่เป็นลูกกระสุนไว้ให้ตามรอบ หนำซ้ำคดีนี้กลับซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อหลักฐานที่กัวจุยกับเปาเต๋อซีได้มานั้น กลับชี้ไปที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งถูกฆาตกรรมไปตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว !
“ผมอยากทำหนังที่มีฉากหลังย้อนยุคมาโดยตลอด และ The Bullet Vanishes ก็คือหนังที่เติมเต็มความฝันนั้นให้แก่ผม” หลอซีเลิงเย “กระนั้นจุดขายของมันไม่ได้อยู่ที่โปรดักชั่นเหล่านั้นหรอก แต่อยู่ที่เนื้อหาของมันมากกว่า เพราะเมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงจุดหนึ่งแล้ว คุณจะไม่สามารถบอกได้อีกเลยว่าใครเป็นคนผิดหรือถูก ใครเลวหรือดี เนื่องจากทุกตัวละครในหนังเรื่องนี้ล้วนเป็นสีเทา มันก็เหมือนกับโลกแห่งความจริงนั่นแหละ ที่กฎแห่งศีลธรรมมักบิดเบือนและขึ้นอยู่กับบริบทของสังคมนั้นๆเสียมากกว่า”
ด้านเอ๋อตงเซินก็เสริมถึงกลยุทธในการได้ตัวเซียะถิงฟงและหลิวซิงหวินมาร่วมจอกันในครั้งนี้ว่า “ผมรู้มาว่าเซียะถิงฟงอยากร่วมงานกับหลิวชิงหวินมาก เลยบอกเขาไปว่าหลิวชิงหวินก็เล่นหนังเรื่องนี้ด้วย ทั้งที่จริงๆแล้ว เขายังไม่ได้เซ็นสัญญาหรือตกลงอะไรกับผมเลย แต่พอเราได้เซียะถิงฟงมาแล้ว ผมถึงค่อยติดต่อไปหาหลิวชิงหวินอีกที ซึ่งพอทั้งคู่ได้มาเข้าฉากถ่ายทำด้วยกัน ก็เห็นได้ชัดเลยว่าเคมีของพวกเขายอดเยี่ยม”
เพื่อขับเน้นความสมจริงของเนื้อหา หลอชีเลิงเลยสั่งให้นักแสดงทุกคนต้องถ่ายทอดบทออกมาเป็นภาษาจีนกลาง ซึ่งสองดารานำที่ถนัดกับการพูดภาษากวางตุ้งมากกว่าเลยต้องทำการบ้านกันอย่างหนัก จนหลิวชิงหวินอดบ่นเล็กๆไม่ได้ว่า “การพูดจีนกลางไม่ใช่งานหมูๆ เลย มันเล่นเอาผมต้องปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีก” ส่วนคุณต่อลูกสองอย่างเซียะถิงฟงเสริมว่า “นอกจากจะต้องจำบทให้เป๊ะแล้ว ผมยังต้องทวนได้อะล็อกแต่ละประโยคซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อฝึกการออกเสียงละสำเนียงให้สมจริงด้วย เอาเข้าจริง ผมว่ามันยากกว่าการถ่ายแอ็คชั่นอีก (หัวเราะ)”
แต่ความทุ่มเททั้งหมดก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อหนังได้รับเสียงตอบรับจากคนดูและนักวิจารณ์เป็นอย่างดี แถมยังมีชื่อเข้าชิงรางวัลม้าทองคำสูงถึง 12 สาขา เท่ากับ Cold War (2 คนล่าถล่มเมือง) หนังฮ่องกงสุดฮิตอีกเรื่อง แม้ท้ายที่สุด The Bullet Vanishes จะไม่สามารถคว้ารางวัลใดๆ กลับบ้านได้เลยก็ตาม (ส่วน Cold War กวาดรางวัลไปถึง 12 สาขา)
Via : Filmax ฉบับที่ 71 ประจำเดือนพฤษภาคม 2556