ขอเล่าคร่าวๆนะครับ
ผมกับหัวหน้า (Manager) เพิ่งเข้ามาเริ่มงานใหม่พอๆกันต้นปี 2013 ทีนี้ในแผนกมี KPI เรื่อง % ON TIME SERVICE (ส่งงานให้ sales ได้ทันตามที่ขอ) ซึ่งปีที่แล้ว ทำไว้ที่ประมาณ 92% และคนเก่าตั้งไว้ก่อนออกไป สำหรับปีนี้คือที่ 94%
แต่ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน เฉลี่ยทำได้อยู่ที่ 92% เท่าปีที่แล้ว แต่ประเด็นคือ จำนวนงานของปีนี้ที่ sales request เข้ามามากกว่าปีที่แล้วเกือบเท่าตัวประมาณ 180% เมื่อเทียบปีที่แล้ว ซึ่งจำนวนคนในทีมผมเท่าเดิม ในขณะที่ผมซึ่งยังใหม่ต้องพยายามบริหารจัดการเต็มหาวิธีต่างๆมา support ที่เพื่อให้ ทีมที่คนเท่าเดิมสามารถทำงานที่มากขึ้นกว่าเดิมกว่า 180% ให้ทัน (ไม่มี OT เลยนะครับ) ให้มากที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังอยู่ที่ ประมาณ 92% ไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ 94%
ซึ่งผมก็รายงานหัวหน้าไปตรงๆว่า มันไม่ถึงจริงๆ เพราะงานมันมาเยอะขึ้นมาก แต่ในมุมผมก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหามากนะเพราะงานเรามามากขึ้นเมื่อเทียบปีที่แล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงเป้าหมาย แต่ก็ไม่ได้ลดลงเลย นั่นหมายความว่าประสิทธิภาพของทีมไม่ได้ลดเลยนะ จะมากขึ้นด้วยซ้ำ
แต่หัวหน้ากลับบอกว่ามันแค่ข้อแก้ตัว เราไม่มีสิทธิ์จะพูดว่าทำไม่ทันเพราะงานเยอะ ไม่งั้นจะตั้ง เป้ามาทำไม (ซึ่งตรงนี้ผมเข้าใจนะ และผมก็กำลังพยายามหาวิธีจัดการอยู่ แต่ก็บอกตรงๆว่าหนักใจมาก งานมากขึ้นแถมมากกว่าเดิมเยอะมาก แต่คนเท่าเดิม โอทีไม่มี ในมุมผม ณ.ปัจจุบัน ได้แค่นี้ก็ OK แล้วแม้ไม่ได้ตาม เป้าหมาย)
แต่ประเด็นที่แกถามมาที่ผมงงคือ แกบอกว่าถ้างานมากขึ้นแล้วทำไม่ทัน ทำไมไม่ไปหาสาเหตุว่าทำไมงานมันมากขึ้น ซึ่งผมก็ตอบแกตรงๆว่าจะรู้ได้ไง เราไม่ได้เป็นคนหางานมานะ คนหางานคือ sales เค้าอาจขยายตลาด ตลาดโตขึ้นงานเลยมากขึ้น บลาๆๆๆ มันใช่หน้าที่เราเหรอ แล้วถ้ารู้แล้วมันช่วยให้งานมันเสร็จเร็วขึ้นตรงไหน (แกพูดทำนองว่า ไม่ได้ให้ปฏิเสธงาน แต่ให้หาสาเหตุว่าทำไมไมเยอะ แล้วอาจมากำหนดกับ sales ว่าจะรับงานได้แค่วันละกี่ตัว ซึ่งมันก็คงยาก เพราะงานที่ sales เอามาให้ ก็คือรายได้ของบริษัท ซึ่งคงไม่มีทางกำหนดได้หรอกว่าวันนี้รับได้กี่ตัว เกินจากนี้ไม่รับ)
ก็เลยโดนไปหลายชุด เช่นมันเป็นหน้าที่ๆผมต้องรู้ (แต่ก็ไม่ได้บอกว่า รู้แล้วจะทำยังไง หรือช่วยยังไง) และที่สำคัญย้ำอยู่เรื่องเดียวว่า ถ้าอ้างงานเยอะทำไม่ทัน มันตลกสิ้นดี ทำไมไม่ไปหาสาเหตุมาว่าทำไมงานมันเยอะขึ้น ซึ่งในมุมผมมองว่ามันไม่เกี่ยว แถมพอเถียงกันไปกันมา มีบอกด้วยว่านี่พี่กำลังพิจารณาผลงาน (ผ่านโปร) ของเธออยู่นะ ก็เลยเออ ออ ห่อหมก ไปก่อน แต่ก็ยังงงไม่หายครับ มันเกี่ยวกันไง หรือผมคิดไปปได้ไม่ถึงจริงๆครับ
เอ่อ นี่ผมวิเคราะห์ตื้นไปจริงๆ หรือหัวหน้าผมออกทะเลครับ
ผมกับหัวหน้า (Manager) เพิ่งเข้ามาเริ่มงานใหม่พอๆกันต้นปี 2013 ทีนี้ในแผนกมี KPI เรื่อง % ON TIME SERVICE (ส่งงานให้ sales ได้ทันตามที่ขอ) ซึ่งปีที่แล้ว ทำไว้ที่ประมาณ 92% และคนเก่าตั้งไว้ก่อนออกไป สำหรับปีนี้คือที่ 94%
แต่ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน เฉลี่ยทำได้อยู่ที่ 92% เท่าปีที่แล้ว แต่ประเด็นคือ จำนวนงานของปีนี้ที่ sales request เข้ามามากกว่าปีที่แล้วเกือบเท่าตัวประมาณ 180% เมื่อเทียบปีที่แล้ว ซึ่งจำนวนคนในทีมผมเท่าเดิม ในขณะที่ผมซึ่งยังใหม่ต้องพยายามบริหารจัดการเต็มหาวิธีต่างๆมา support ที่เพื่อให้ ทีมที่คนเท่าเดิมสามารถทำงานที่มากขึ้นกว่าเดิมกว่า 180% ให้ทัน (ไม่มี OT เลยนะครับ) ให้มากที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังอยู่ที่ ประมาณ 92% ไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ 94%
ซึ่งผมก็รายงานหัวหน้าไปตรงๆว่า มันไม่ถึงจริงๆ เพราะงานมันมาเยอะขึ้นมาก แต่ในมุมผมก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหามากนะเพราะงานเรามามากขึ้นเมื่อเทียบปีที่แล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงเป้าหมาย แต่ก็ไม่ได้ลดลงเลย นั่นหมายความว่าประสิทธิภาพของทีมไม่ได้ลดเลยนะ จะมากขึ้นด้วยซ้ำ
แต่หัวหน้ากลับบอกว่ามันแค่ข้อแก้ตัว เราไม่มีสิทธิ์จะพูดว่าทำไม่ทันเพราะงานเยอะ ไม่งั้นจะตั้ง เป้ามาทำไม (ซึ่งตรงนี้ผมเข้าใจนะ และผมก็กำลังพยายามหาวิธีจัดการอยู่ แต่ก็บอกตรงๆว่าหนักใจมาก งานมากขึ้นแถมมากกว่าเดิมเยอะมาก แต่คนเท่าเดิม โอทีไม่มี ในมุมผม ณ.ปัจจุบัน ได้แค่นี้ก็ OK แล้วแม้ไม่ได้ตาม เป้าหมาย)
แต่ประเด็นที่แกถามมาที่ผมงงคือ แกบอกว่าถ้างานมากขึ้นแล้วทำไม่ทัน ทำไมไม่ไปหาสาเหตุว่าทำไมงานมันมากขึ้น ซึ่งผมก็ตอบแกตรงๆว่าจะรู้ได้ไง เราไม่ได้เป็นคนหางานมานะ คนหางานคือ sales เค้าอาจขยายตลาด ตลาดโตขึ้นงานเลยมากขึ้น บลาๆๆๆ มันใช่หน้าที่เราเหรอ แล้วถ้ารู้แล้วมันช่วยให้งานมันเสร็จเร็วขึ้นตรงไหน (แกพูดทำนองว่า ไม่ได้ให้ปฏิเสธงาน แต่ให้หาสาเหตุว่าทำไมไมเยอะ แล้วอาจมากำหนดกับ sales ว่าจะรับงานได้แค่วันละกี่ตัว ซึ่งมันก็คงยาก เพราะงานที่ sales เอามาให้ ก็คือรายได้ของบริษัท ซึ่งคงไม่มีทางกำหนดได้หรอกว่าวันนี้รับได้กี่ตัว เกินจากนี้ไม่รับ)
ก็เลยโดนไปหลายชุด เช่นมันเป็นหน้าที่ๆผมต้องรู้ (แต่ก็ไม่ได้บอกว่า รู้แล้วจะทำยังไง หรือช่วยยังไง) และที่สำคัญย้ำอยู่เรื่องเดียวว่า ถ้าอ้างงานเยอะทำไม่ทัน มันตลกสิ้นดี ทำไมไม่ไปหาสาเหตุมาว่าทำไมงานมันเยอะขึ้น ซึ่งในมุมผมมองว่ามันไม่เกี่ยว แถมพอเถียงกันไปกันมา มีบอกด้วยว่านี่พี่กำลังพิจารณาผลงาน (ผ่านโปร) ของเธออยู่นะ ก็เลยเออ ออ ห่อหมก ไปก่อน แต่ก็ยังงงไม่หายครับ มันเกี่ยวกันไง หรือผมคิดไปปได้ไม่ถึงจริงๆครับ