ขอบอกก่อนนะว่า จขกท
อยู่กับพ่อของลูกตั้งแต่ยังเป็นวัยละอ่อน
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 30 ปีแล้วค่ะ
ที่ฉันปล่อยตัว ปล่อยใจ ฉันก็มีเหตุผลของฉัน Y_____Y
แล้วเราก็อยู่กันมาจนตอนนี้ลูกๆโตจบทำงานกันแล้ว
และฉันมีลูกสาว...(สวยไม่สวยเดี๋ยวช่วยตัดสินให้ด้วยนะ อิอิ)
แล้วฉันก็สอนให้ลูกรักนวลสงวนตัว
ฉันเล่าให้ลูกฟังหมดทุกอย่างว่า ทำไม เหตุผลอะไรที่ฉันต้องอยู่กับพ่อของเค้าก่อน
การที่ฉันทำตัวแบบนั้น ฉันต้องเจออะไรมาบ้าง จากญาติๆของพ่อ เจอคำดูถูก ดูแคลนจากน้องๆของพ่อ
แต่ฉันก็อดทนจนหลังๆมาฉันเอาชนะใจทุกคนได้(แต่ใช้เวลาเป็นสิบปี)
ฉันบอกลูกว่า อย่าทำตัวอย่างแม่
จะมีคนสักกี่คนที่โชคดีอย่างแม่ที่เจอผู้ชายดีๆที่รักจริงแล้วอยู่กันจนแก่จนเฒ่า
หนูเองมีพร้อมทุกอย่าง รูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ(ถึงแม้จะเล็กน้อย)
ความรักจากพ่อแม่ พ่อกับแม่มีให้ตลอด 24 ชม...
หน้าตาดีมีอยู่แล้ว ทำตัวดีๆเสริมบารมีอีกหน่อย... นี่คือคำที่ฉันบอกลูก
มีบ้างบางที ที่เราแม่ลูกมีความคิดเห้นไม่ตรงกันที่ฉันคิดว่าลูกทำตัวไม่เหมาะสม
ก็มีผิดใจกัน แต่ไม่นานเราก็เข้าใจกัน ...
อย่างเช่น ฉันกับลูกเราอยู่ไกลกัน แต่เราก็ติดต่อกันด้วยการโทร หรือทางเฟสบุค
ลูกมีอะไรจะโทรมาเล่าให้ฟังตลอด(คงจะมีปิดบังบ้างแต่ก็หยวนๆยังดีกว่าที่ลูกไม่พูดอะไรเลย)
หรือเช้าๆ เย็นๆฉันจะเข้าไปดูความเคลื่อนไหวในเฟสฯ แต่ไม่คุย
ดูเพื่อให้รู้ว่า ลูกอยู่ที่ไหน ทำอะไร เธออารมณ์ไหน..
ลูกมีเพื่อนชายที่คบหาดูใจกัน
ก็เป็นเรื่องปกติเพราะลูกอายุ 23 และเรียนจบแล้ว
เธอรู้จักกับครอบครัวฝ่ายชายเพราะเมื่อปีใหม่แม่ของเพื่อนชายชวนเธอไปสวดมนต์ข้ามปี
ลูกโทรมาบอกฉันหลังจากที่ไปตกปากรับคำกับแม่เพื่อนไปแล้ว
ฉันไม่พอใจเลยแต่ก็คงห้ามไม่ได้ละ
ฉันจึงขอเบอร์โทรของแม่เพื่อนลูก แล้วฉันโทรไปบอกเค้าว่า
ลูกสาวฉันซู่มซ่ามนะ ขอฝากด้วย แม่เพื่อนชายก็รับปากว่า จะดูแลให้
หลังจากที่ห้ามลูกไม่ได้ ฉันก็สอนลูกว่าเวลาไปบ้านเค้าต้องปฏิบัติตัวแบบไหน
ทำตัวอย่างไร เพื่อที่เค้าจะได้ไม่ดูถูก ลูกของแม่...
กลับมาจากบ้านเพื่อนลูกก็โทรมาเล่าให้ฟังว่า แม่เพื่อนดูแลเธอยังไง ..
หลังจากปีใหม่ เด็กๆก็ยังไปมาหาสู่กัน ส่วนใหญ่ เพื่อนชายจะเป็นคนลงมาหา ที่ กทม
มีลูกไปเที่ยวบ้างหาเค้าบ้างแต่ฉันขอร้องว่า ไปเที่ยวได้ แต่ไม่ค้างคืนได้มั้ย
ลูกก็รับคำแต่ทำตามหรือปล่าวฉันไม่รู้เพราะอยู่ไกล
แต่ฉันจะบอกตลอดว่า ทำอะไรคนอื่นไม่รู้แต่ตัวเองรู้ดีที่สุด
จนวันหนึ่งเราผิดใจกัน....
เดือนมีนา ...ลูกจะไปวันเกิดของเพื่อนชายเธอ(จะไปเซอร์ไพรส์)
ลูกบอกฉัน ฉันไม่ว่าอะไร ฉันเข้าใจว่าเธอจะไปเช้า แล้วกลับเย็น
แต่คุยไปคุยมา ลูกบอกจะไปค้างคืน ..
ฉันเลยบอกลูกว่า อย่าไปค้างได้มั้ย ขอไปเช้ากลับเย็นเหอะแม่ไม่อยากให้หนูมองว่า การค้างคืนบ้านเค้าเป้นเรื่องธรรมดาน่ะ
แล้วอีกอย่าง แม่เค้าจะมองหนูยังไง แม่รักหนู แม่ไม่อยากให้ใครมาดูถูกลูกของแม่...
จะยังไงก็เเล้วแต่ การค้างคืนบ้านเพื่อนชาย มันยังเป็นเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับแม่ ฉันพูดทิ้งท้ายก่อนวางหูโทรศัพท์
ฉันรู้ว่าลูกไม่พอใจ
พอตกดึก ก่อนนอนฉันเปิดเฟสฯเจอลูกตั้งสถานะยาวเหยียด....
อ่านรวมๆได้ความว่า
แต่ก่อนที่ยังเรียนไม่จบก็รู้ว่าห่วง แต่พอเรียนจบแล้วคิดว่าจะหมดห่วงแต่ดูเหมือนว่าจะห่วงหนักกว่าตอนที่ยังเรียนไม่จบ
ลูกไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ฉันอ่านแล้วฉันรู้ว่า ลูกหมายถึงอะไร...
ฉันจึงตั้งบ้างว่า ขอโทษที่ฉันเป้นห่วง ถ้าสิ่งที่ฉันทำมันผิดต่อไปนี้ ฉันจะไม่ห่วง คอยดูนะฉันจะใจดำให้เธอดู ...ฉันเสียใจ
พอตอนเช้า แต่เช้าเลยค่ะ ลูกโทรมาแต่เช้า ... แม่หนูไม่ไปแล้วนะ ฉันบอก ตามใจ...ฉันพูดเยอะกว่านี้ไม่ได้
ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดีลูกรู้ดีค่ะข้อนี้(ก็เราแม่ลูกกันนี่คะ)
ไว้เวลาอารมณ์ดีๆเราค่อยอธิบายเหตุผลให้กันฟังแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน
เล่ามาเสียยาวเลย จะยังไงก็แล้วแต่ ตามความคิดของคนแก่อย่างฉัน
ฉันยังมองเห้นว่า การรักนวลสงวนตัวยังเป้นสิ่งที่ดีงาม ยังเป้นสิ่งที่มีคุณค่าที่หาซื้อด้วยเงินไม่ได้
(นอกเสียจากว่าผู้หญิงมีเหตุผลส่วนตัวกับการปล่อยเนื้อปล่อยตัวก่อนเวลาอันสมควรเช่นฉัน)
ไม่เชื่อลองถามคุณผู้ชายดูซิ ว่าต้องการผู้หญิงแบบไหนมาเป็นแม่ของลูก...
ปล. ที่ฉันนำมาเล่ามันเป็น ปสก ฉัน ที่ผ่านมา ฉันไม่อยากให้ใครลอกเลียนแบบ
กับ มันเป็นเหตุการณ์ที่ฉันคุยกับลูก ลับหลังฉันลูกจะปฏิบัติตามมั้ยกับสิ่งที่ฉันพร่ำบอก ฉันไม่อาจรู้ได้
แต่ฉันก็ได้ทำหน้าที่ของความเป็น"แม่"ที่พึงปฏิบัติต่อลูกแล้วเท่านั้น
ขอบคุณค่ะ
รักนวลสงวนตัว...ขออีกสักกะทู้เหอะ...
อยู่กับพ่อของลูกตั้งแต่ยังเป็นวัยละอ่อน
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 30 ปีแล้วค่ะ
ที่ฉันปล่อยตัว ปล่อยใจ ฉันก็มีเหตุผลของฉัน Y_____Y
แล้วเราก็อยู่กันมาจนตอนนี้ลูกๆโตจบทำงานกันแล้ว
และฉันมีลูกสาว...(สวยไม่สวยเดี๋ยวช่วยตัดสินให้ด้วยนะ อิอิ)
แล้วฉันก็สอนให้ลูกรักนวลสงวนตัว
ฉันเล่าให้ลูกฟังหมดทุกอย่างว่า ทำไม เหตุผลอะไรที่ฉันต้องอยู่กับพ่อของเค้าก่อน
การที่ฉันทำตัวแบบนั้น ฉันต้องเจออะไรมาบ้าง จากญาติๆของพ่อ เจอคำดูถูก ดูแคลนจากน้องๆของพ่อ
แต่ฉันก็อดทนจนหลังๆมาฉันเอาชนะใจทุกคนได้(แต่ใช้เวลาเป็นสิบปี)
ฉันบอกลูกว่า อย่าทำตัวอย่างแม่
จะมีคนสักกี่คนที่โชคดีอย่างแม่ที่เจอผู้ชายดีๆที่รักจริงแล้วอยู่กันจนแก่จนเฒ่า
หนูเองมีพร้อมทุกอย่าง รูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ(ถึงแม้จะเล็กน้อย)
ความรักจากพ่อแม่ พ่อกับแม่มีให้ตลอด 24 ชม...
หน้าตาดีมีอยู่แล้ว ทำตัวดีๆเสริมบารมีอีกหน่อย... นี่คือคำที่ฉันบอกลูก
มีบ้างบางที ที่เราแม่ลูกมีความคิดเห้นไม่ตรงกันที่ฉันคิดว่าลูกทำตัวไม่เหมาะสม
ก็มีผิดใจกัน แต่ไม่นานเราก็เข้าใจกัน ...
อย่างเช่น ฉันกับลูกเราอยู่ไกลกัน แต่เราก็ติดต่อกันด้วยการโทร หรือทางเฟสบุค
ลูกมีอะไรจะโทรมาเล่าให้ฟังตลอด(คงจะมีปิดบังบ้างแต่ก็หยวนๆยังดีกว่าที่ลูกไม่พูดอะไรเลย)
หรือเช้าๆ เย็นๆฉันจะเข้าไปดูความเคลื่อนไหวในเฟสฯ แต่ไม่คุย
ดูเพื่อให้รู้ว่า ลูกอยู่ที่ไหน ทำอะไร เธออารมณ์ไหน..
ลูกมีเพื่อนชายที่คบหาดูใจกัน
ก็เป็นเรื่องปกติเพราะลูกอายุ 23 และเรียนจบแล้ว
เธอรู้จักกับครอบครัวฝ่ายชายเพราะเมื่อปีใหม่แม่ของเพื่อนชายชวนเธอไปสวดมนต์ข้ามปี
ลูกโทรมาบอกฉันหลังจากที่ไปตกปากรับคำกับแม่เพื่อนไปแล้ว
ฉันไม่พอใจเลยแต่ก็คงห้ามไม่ได้ละ
ฉันจึงขอเบอร์โทรของแม่เพื่อนลูก แล้วฉันโทรไปบอกเค้าว่า
ลูกสาวฉันซู่มซ่ามนะ ขอฝากด้วย แม่เพื่อนชายก็รับปากว่า จะดูแลให้
หลังจากที่ห้ามลูกไม่ได้ ฉันก็สอนลูกว่าเวลาไปบ้านเค้าต้องปฏิบัติตัวแบบไหน
ทำตัวอย่างไร เพื่อที่เค้าจะได้ไม่ดูถูก ลูกของแม่...
กลับมาจากบ้านเพื่อนลูกก็โทรมาเล่าให้ฟังว่า แม่เพื่อนดูแลเธอยังไง ..
หลังจากปีใหม่ เด็กๆก็ยังไปมาหาสู่กัน ส่วนใหญ่ เพื่อนชายจะเป็นคนลงมาหา ที่ กทม
มีลูกไปเที่ยวบ้างหาเค้าบ้างแต่ฉันขอร้องว่า ไปเที่ยวได้ แต่ไม่ค้างคืนได้มั้ย
ลูกก็รับคำแต่ทำตามหรือปล่าวฉันไม่รู้เพราะอยู่ไกล
แต่ฉันจะบอกตลอดว่า ทำอะไรคนอื่นไม่รู้แต่ตัวเองรู้ดีที่สุด
จนวันหนึ่งเราผิดใจกัน....
เดือนมีนา ...ลูกจะไปวันเกิดของเพื่อนชายเธอ(จะไปเซอร์ไพรส์)
ลูกบอกฉัน ฉันไม่ว่าอะไร ฉันเข้าใจว่าเธอจะไปเช้า แล้วกลับเย็น
แต่คุยไปคุยมา ลูกบอกจะไปค้างคืน ..
ฉันเลยบอกลูกว่า อย่าไปค้างได้มั้ย ขอไปเช้ากลับเย็นเหอะแม่ไม่อยากให้หนูมองว่า การค้างคืนบ้านเค้าเป้นเรื่องธรรมดาน่ะ
แล้วอีกอย่าง แม่เค้าจะมองหนูยังไง แม่รักหนู แม่ไม่อยากให้ใครมาดูถูกลูกของแม่...
จะยังไงก็เเล้วแต่ การค้างคืนบ้านเพื่อนชาย มันยังเป็นเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับแม่ ฉันพูดทิ้งท้ายก่อนวางหูโทรศัพท์
ฉันรู้ว่าลูกไม่พอใจ
พอตกดึก ก่อนนอนฉันเปิดเฟสฯเจอลูกตั้งสถานะยาวเหยียด....
อ่านรวมๆได้ความว่า
แต่ก่อนที่ยังเรียนไม่จบก็รู้ว่าห่วง แต่พอเรียนจบแล้วคิดว่าจะหมดห่วงแต่ดูเหมือนว่าจะห่วงหนักกว่าตอนที่ยังเรียนไม่จบ
ลูกไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ฉันอ่านแล้วฉันรู้ว่า ลูกหมายถึงอะไร...
ฉันจึงตั้งบ้างว่า ขอโทษที่ฉันเป้นห่วง ถ้าสิ่งที่ฉันทำมันผิดต่อไปนี้ ฉันจะไม่ห่วง คอยดูนะฉันจะใจดำให้เธอดู ...ฉันเสียใจ
พอตอนเช้า แต่เช้าเลยค่ะ ลูกโทรมาแต่เช้า ... แม่หนูไม่ไปแล้วนะ ฉันบอก ตามใจ...ฉันพูดเยอะกว่านี้ไม่ได้
ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดีลูกรู้ดีค่ะข้อนี้(ก็เราแม่ลูกกันนี่คะ)
ไว้เวลาอารมณ์ดีๆเราค่อยอธิบายเหตุผลให้กันฟังแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน
เล่ามาเสียยาวเลย จะยังไงก็แล้วแต่ ตามความคิดของคนแก่อย่างฉัน
ฉันยังมองเห้นว่า การรักนวลสงวนตัวยังเป้นสิ่งที่ดีงาม ยังเป้นสิ่งที่มีคุณค่าที่หาซื้อด้วยเงินไม่ได้
(นอกเสียจากว่าผู้หญิงมีเหตุผลส่วนตัวกับการปล่อยเนื้อปล่อยตัวก่อนเวลาอันสมควรเช่นฉัน)
ไม่เชื่อลองถามคุณผู้ชายดูซิ ว่าต้องการผู้หญิงแบบไหนมาเป็นแม่ของลูก...
ปล. ที่ฉันนำมาเล่ามันเป็น ปสก ฉัน ที่ผ่านมา ฉันไม่อยากให้ใครลอกเลียนแบบ
กับ มันเป็นเหตุการณ์ที่ฉันคุยกับลูก ลับหลังฉันลูกจะปฏิบัติตามมั้ยกับสิ่งที่ฉันพร่ำบอก ฉันไม่อาจรู้ได้
แต่ฉันก็ได้ทำหน้าที่ของความเป็น"แม่"ที่พึงปฏิบัติต่อลูกแล้วเท่านั้น
ขอบคุณค่ะ