มาพูดคุยกันว่าถ้ามีไฟฉายย่อส่วน มันจะเป็นยังไงในโลกความจริง เริ่มแรกให้ขนาดเรา 2ม. โดยที่หดอะตอมทุกอย่างในตัวเราลงไปด้วยอะไรจะเกิดขึ้น??
สมมุติว่าเราเริ่มฉายไฟใส่ตัวเองแล้วเริ่มหดเล็กลง การหดเล็กลงของเราจะทำให้ปริมาตรตัวเราลดลง ความหนาแน่นจึงมากมหาศาล
หดลงมาเรื่อยๆซัก 1000 เท่า ในตอนนี้ตัวเราจะมีขนาดแค่ 2 มิลเท่านั้น แต่น้ำหนักยังคงเดิมเพราะแรงโน้มถ่วงมีผลต่อความหนาแน่นไม่ใช่มวล ในจุดนี้เราจะรู้สึกแข็งแรงมาก เพราะเราเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ใช้ระบบกล้ามเนื้ออันทรงพลังอยู่ เราจะรู้สึกเหมือน superman ยกของได้มากกว่า 100 เท่าของน้ำหนักตัว แถมวิ่งได้เหนื่อยน้อยมาก เนื่องจากการสลายอาหารเพียงเล็กน้อยก็ให้พลังมากพอในการขยับร่างกายอันน้อยนิด และด้วยขนาดที่เล็กทำให้การระบายความร้อน การแพร่ของอ็อกซิเจนทำได้รวดเร็วมาก มองเห็นน้ำเป็นเหมือนเทมโปลินเพราะแรงตึงผิว
หดลงมาอีกที่ขนาด 20 ไมโครเมตรโลกยรอบตัวเปลี่ยนไปมากได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นทั้งฝุ่นผง เม็ดทรายกับหน้ากระดาษที่ขนาดเป็นภูเขากะจะอัพรูปขึ้นเฟสซักหน่อยเริ่มทำไม่ได้ละ เราเล็กเกินจะรับสัญญาณมือถือได้ละ เสียงที่ได้ยินก็ไม่เหมือนเดิมอีกละมีแต่เสียงอื้ออึงจากพื้นสั่นสะเทือน เสียงมดเดิน ได้กลิ่นจากพื้นแปลกๆอบอวล เริ่มหายใจเหนื่อยขึ้นเนื่องจากถุงลมมีขนาดเล็ก 1 นาโน หน้าสัมผัสน้อยลงที่จะรับอ็อกซิเจนได้ ในจุดนี้เราจะปลอดเชื้อโรคใดๆทั้งสิ้นเนื่องจากตัวเราเล็กเกินที่เชื้อโรคจะเข้ามาได้แล้ว
ลงมาที่ 2 ไมโคร ภาพที่เห็นเริ่มจืดลงความเข้มแสงผ่านรูม่านตามีค่าน้อยมาก เราอาจรู้สึกฉลาดขึ้นมาเล็กน้อยเนื่องจากสัญญาณประสาทเดินทางกันใกล้มาก ขนาดเราเริ่มเข้าใกล้ความยาวคลื่นแสงแล้ว ตรงจุดนี้เราแทบไม่แผ่รังสีอินฟราเรดแล้วเราเล็กเกินความยาวคลื่นมันแล้วจึงไม่รู้สึกร้อนอีกต่อไป ความจริงขนาดเท่านี้อาจทำให้ระบบร่างกายล้มเหลวได้เนื่องจากกระบวนการทางเคมีภายในร่างมีขนาดเข้าใกล้ขอบเขตของแรงนิวเคลียร์ แต่เราจะสมมุติให้เราไม่ตาย อากาศเริ่มหนาวขึ้นเนื่องจากโมเลกุลอากาศใหญ่ขึ้นความหนาแน่นจึงน้อยลง
มาต่อที่ 200 นาโนเมตร เราเริ่มขาดประสาทสัมผัสไปหมดแล้ว จมูกไม่ได้กลิ่นใดๆทั้งสิ้นเนื่องจากตัวรับกลิ่นเล็กเกินไป ตามองไม่เห็นอะไรแล้วเราเล็กเกินความยาวคลื่นแสงแล้ว เยื่อแก้วหูก็เล็กเกินที่จะสั่นสะเทือนแล้ว ตัวเราเหมือนจะไม่มีน้ำหนักแล้วเนื่องจากได้อิทธิพลจากแรงแม่เหล็กไฟฟ้ามากกว่าแรงโน้มถ่วงมาก โมเลกุลอ็อกซิเจนใหญ่เกินจะเข้าถุงลมได้ละ ผลทางควอนตัมเริ่มส่งผลต่ออวัยวะภายในและไปรบกวนกระแสประสาทแล้ว
ลงไปที่ 2 นาโนเมตร ร่างกายเราลอยไปลอยมาตามอะตอมต่างๆอย่างอิสระ จริงๆแล้วความหนาแน่นของเราระดับนี้มากพอที่จะทำให้เราเป็นหลุมดำขนาดจิ๋วไปแล้ว
เรายังคงเล็กลงอีกเรื่อยๆ ผ่านนิวเคลียสอะตอม ผ่านควาร์ก ผ่านนิวตริโนจนหายไปจากอวกาศ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าที่ขนาดระดับนิวเคลียสอะตอมมีผลยังไงต่อตัวเราที่ย่อส่วนเรื่อยๆ ใครมีอะไรเพิ่มเติมช่วยบอก ช่วยแก้ไขให้ได้ครับ
ถ้าไฟฉายย่อส่วนมีจริงจะเป็นยังไง??
สมมุติว่าเราเริ่มฉายไฟใส่ตัวเองแล้วเริ่มหดเล็กลง การหดเล็กลงของเราจะทำให้ปริมาตรตัวเราลดลง ความหนาแน่นจึงมากมหาศาล
หดลงมาเรื่อยๆซัก 1000 เท่า ในตอนนี้ตัวเราจะมีขนาดแค่ 2 มิลเท่านั้น แต่น้ำหนักยังคงเดิมเพราะแรงโน้มถ่วงมีผลต่อความหนาแน่นไม่ใช่มวล ในจุดนี้เราจะรู้สึกแข็งแรงมาก เพราะเราเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ใช้ระบบกล้ามเนื้ออันทรงพลังอยู่ เราจะรู้สึกเหมือน superman ยกของได้มากกว่า 100 เท่าของน้ำหนักตัว แถมวิ่งได้เหนื่อยน้อยมาก เนื่องจากการสลายอาหารเพียงเล็กน้อยก็ให้พลังมากพอในการขยับร่างกายอันน้อยนิด และด้วยขนาดที่เล็กทำให้การระบายความร้อน การแพร่ของอ็อกซิเจนทำได้รวดเร็วมาก มองเห็นน้ำเป็นเหมือนเทมโปลินเพราะแรงตึงผิว
หดลงมาอีกที่ขนาด 20 ไมโครเมตรโลกยรอบตัวเปลี่ยนไปมากได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นทั้งฝุ่นผง เม็ดทรายกับหน้ากระดาษที่ขนาดเป็นภูเขากะจะอัพรูปขึ้นเฟสซักหน่อยเริ่มทำไม่ได้ละ เราเล็กเกินจะรับสัญญาณมือถือได้ละ เสียงที่ได้ยินก็ไม่เหมือนเดิมอีกละมีแต่เสียงอื้ออึงจากพื้นสั่นสะเทือน เสียงมดเดิน ได้กลิ่นจากพื้นแปลกๆอบอวล เริ่มหายใจเหนื่อยขึ้นเนื่องจากถุงลมมีขนาดเล็ก 1 นาโน หน้าสัมผัสน้อยลงที่จะรับอ็อกซิเจนได้ ในจุดนี้เราจะปลอดเชื้อโรคใดๆทั้งสิ้นเนื่องจากตัวเราเล็กเกินที่เชื้อโรคจะเข้ามาได้แล้ว
ลงมาที่ 2 ไมโคร ภาพที่เห็นเริ่มจืดลงความเข้มแสงผ่านรูม่านตามีค่าน้อยมาก เราอาจรู้สึกฉลาดขึ้นมาเล็กน้อยเนื่องจากสัญญาณประสาทเดินทางกันใกล้มาก ขนาดเราเริ่มเข้าใกล้ความยาวคลื่นแสงแล้ว ตรงจุดนี้เราแทบไม่แผ่รังสีอินฟราเรดแล้วเราเล็กเกินความยาวคลื่นมันแล้วจึงไม่รู้สึกร้อนอีกต่อไป ความจริงขนาดเท่านี้อาจทำให้ระบบร่างกายล้มเหลวได้เนื่องจากกระบวนการทางเคมีภายในร่างมีขนาดเข้าใกล้ขอบเขตของแรงนิวเคลียร์ แต่เราจะสมมุติให้เราไม่ตาย อากาศเริ่มหนาวขึ้นเนื่องจากโมเลกุลอากาศใหญ่ขึ้นความหนาแน่นจึงน้อยลง
มาต่อที่ 200 นาโนเมตร เราเริ่มขาดประสาทสัมผัสไปหมดแล้ว จมูกไม่ได้กลิ่นใดๆทั้งสิ้นเนื่องจากตัวรับกลิ่นเล็กเกินไป ตามองไม่เห็นอะไรแล้วเราเล็กเกินความยาวคลื่นแสงแล้ว เยื่อแก้วหูก็เล็กเกินที่จะสั่นสะเทือนแล้ว ตัวเราเหมือนจะไม่มีน้ำหนักแล้วเนื่องจากได้อิทธิพลจากแรงแม่เหล็กไฟฟ้ามากกว่าแรงโน้มถ่วงมาก โมเลกุลอ็อกซิเจนใหญ่เกินจะเข้าถุงลมได้ละ ผลทางควอนตัมเริ่มส่งผลต่ออวัยวะภายในและไปรบกวนกระแสประสาทแล้ว
ลงไปที่ 2 นาโนเมตร ร่างกายเราลอยไปลอยมาตามอะตอมต่างๆอย่างอิสระ จริงๆแล้วความหนาแน่นของเราระดับนี้มากพอที่จะทำให้เราเป็นหลุมดำขนาดจิ๋วไปแล้ว
เรายังคงเล็กลงอีกเรื่อยๆ ผ่านนิวเคลียสอะตอม ผ่านควาร์ก ผ่านนิวตริโนจนหายไปจากอวกาศ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าที่ขนาดระดับนิวเคลียสอะตอมมีผลยังไงต่อตัวเราที่ย่อส่วนเรื่อยๆ ใครมีอะไรเพิ่มเติมช่วยบอก ช่วยแก้ไขให้ได้ครับ