ทำไมจึงเกิดไฟดับครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ การแก้ไขปัญหาภายในเวลา 4-5 ชั่วโมง กว่าที่จะสามารถกอบกู้ทั้งระบบให้กลับมาเป็นปกติ ยอมรับได้หรือไม่ ภาคใต้จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมแล้วจริงหรือ ภาคอีสานและกทม.เสี่ยงจริงไหม และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะประเทศไทยกำลังขาดแคลนพลังงานหรือไม่ ไทยรัฐออนไลน์ หาคำตอบ จากผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ผศ.ดร.แนบบุญ หุนเจริญ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Q : สาเหตุของไฟดับเกิดจากอะไร
A : สาเหตุคงเป็นไปตามที่การไฟฟ้าส่วนผลิต หรือ ที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ได้รายงานไปแล้ว คือ เริ่มต้นมาจากสายส่ง 500 กิโลโวลต์ เดิมทีจะมี 2 วงจร จากภาคกลางไปถึงภาคใต้ เผอิญว่า วงจรที่ 1 หยุดซ่อมบำรุงในช่วงเช้าพอดี ซึ่งตอนเย็นดันเจอเหตุขัดข้อง เพราะฉะนั้นระบบอัตโนมัติจึงตัดการทำงานของอีกหนึ่งวงจร แปลว่าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ที่เป็นสายส่ง 500 กิโลโวลต์ ที่วิ่งมาจากภาคกลางจอมบึง ลงมาถึงภาคใต้สะพาน 2 มันก็ถูกตัดขาดไปเลย เพราะฉะนั้นเราก็จะเหลือทางส่งพลังงานจากภาคกลางมาภาคใต้ อีกแค่ 2 เส้นทาง ก็คือ 230 กิโลโวลต์ 2 วงจร ซึ่งเพียงพอต่อการถ่ายโอนพลังงานจากภาคกลางมาภาคใต้ ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น ค่อนข้างซับซ้อนและเกี่ยวกับเสถียรภาพของระบบ หมายถึงว่า เกิดปัญหาเสถียรภาพที่ทำให้ระบบป้องกันอัตโนมัติของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและของสายส่งเส้นที่เกี่ยวข้อง มันทำงานต่อเนื่อง ก็เลยปลดการทำงานของสายส่งไฟฟ้า จึงทำให้ไฟฟ้าดับหมด
Q : คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะความหละหลวม หรือ เหตุสุดวิสัย
A : จากเหตุการณ์ที่ไฟฟ้าดับบริเวณกว้าง เรียกเป็นภาษาเทคนิคว่า blackout ซึ่งกรณีนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก และไม่ได้เกิดเพียงแค่ประเทศไทย จากปี 1965 ก็เคยเกิดเหตุการณ์ blackout ทางตะวันออกของอเมริกา ขึ้นไปถึงนิวยอร์กและแคนาดาตะวันออกเลย กินบริเวณเป็นวงกว้างประมาณ 9 รัฐ อาจจะย้อนกลับไปนานเกินไป ก็กลับมาดูในปี 1996 ทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา แถวรัฐแคลิฟอร์เนีย ปี 2003 ก็เคยเกิด แถวยุโรป จริงๆ เหตุการณ์เช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อยครั้ง ลักษณะที่เกิดจะเป็นเหมือนเหตุบังเอิญ ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่เกิดขึ้นในบ้านเราเมื่อเร็วๆ นี้ ถ้าเกิดเสีย 1 วงจร แล้วอีก 1 วงจร ไม่ได้อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง ก็จะสามารถทำงานได้ปกติ โดยที่ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะตามปกติแล้วระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ออกแบบรองรับเอาไว้แล้วว่า ถ้าสายส่งเส้นใดเส้นหนึ่งเป็นปัญหา จะไม่กระทบกระเทือนต่ออะไร เพียงแต่ว่าวันนั้นหยุดซ่อม 1 ถนน ซึ่งไม่ใช่ถนนธรรมดา แต่เป็นถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ปกติสายส่งของประเทศไทย โครงข่ายหลักๆ 230 กิโลโวลต์ แต่ที่สูงไปกว่า 230 กิโลโวลต์ คือ 500 กิโลโวลต์ ซึ่งในตัว 500 กิโลโวลต์สามารถส่งกำลังได้มากกว่า 230 กิโลโวลต์เสียอีก แต่พอดีว่ามีการขัดข้องในเส้น 500 กิโลโวลต์ ที่เป็นเส้นคู่ขนานกับเส้นที่มีการหยุดซ่อมแซม และเป็นช่วงเวลาที่กำลังจ่ายไปภาคใต้ไม่พอ เลยต้องโอนพลังงานจากภาคกลางมาภาคใต้ เพราะฉะนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาอย่างประจวบเหมาะ 2-3 เหตุการณ์ ซึ่งประเทศไทยเอง ก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยย้อนไปเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว และไม่ใช่เหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ถี่ๆ อยู่แล้ว
Q : 30 ปีที่แล้ว เกิดขึ้นที่ไหนของประเทศไทย
A : ไม่แน่ใจ แต่ถ้าหากดูโฆษณาของ กฟผ.ก็พบว่าเขาได้ย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น เพื่อทำการซ้อม ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นบริเวณภาคกลาง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีอายุเพียง 44 ปีเอง เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่เกิดคงเป็นช่วงที่เริ่มต้นเปิดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตใหม่ๆ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจโครงข่ายพลังงานก่อนว่า มีระบบส่ง ระบบผลิตซึ่งดูแลในส่วนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และก็ยังมีระบบจำหน่าย ระบบส่งเป็นเหมือนระบบหลัก ซุปเปอร์ไฮเวย์หรือว่าไฮเวย์เชื่อมจังหวัดต่างๆ โดยระบบจำหน่าย มีหน้าที่ แจกจ่ายไฟฟ้าไปให้ถึงครัวเรือน ซึ่งส่วนนี้จะดูแลโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หากเป็นในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ จะดูแลโดยกรมไฟฟ้านครหลวง เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันก่อน เกิดขึ้นที่ระบบส่ง เกิดขึ้นที่ทางหลัก ไม่ใช่ทางรอง จึงเกิดผลกระทบในลักษณะวงกว้าง
Q : สรุปจากทรรศนะของอาจารย์ สรุปว่า เกิดจากความสุดวิสัย ไม่ใช่ผิดพลาดใช่ไหม
A : เป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น และในทางเทคนิคมีเหตุผลอธิบายได้ว่า ทำไมไฟฟ้าถึงดับได้ถึง 4 จังหวัด
นับถอยหลัง15ปี ก๊าซธรรมชาติหมด ไทยเสี่ยงไฟดับถาวร
ทำไมจึงเกิดไฟดับครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ การแก้ไขปัญหาภายในเวลา 4-5 ชั่วโมง กว่าที่จะสามารถกอบกู้ทั้งระบบให้กลับมาเป็นปกติ ยอมรับได้หรือไม่ ภาคใต้จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมแล้วจริงหรือ ภาคอีสานและกทม.เสี่ยงจริงไหม และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะประเทศไทยกำลังขาดแคลนพลังงานหรือไม่ ไทยรัฐออนไลน์ หาคำตอบ จากผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ผศ.ดร.แนบบุญ หุนเจริญ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Q : สาเหตุของไฟดับเกิดจากอะไร
A : สาเหตุคงเป็นไปตามที่การไฟฟ้าส่วนผลิต หรือ ที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ได้รายงานไปแล้ว คือ เริ่มต้นมาจากสายส่ง 500 กิโลโวลต์ เดิมทีจะมี 2 วงจร จากภาคกลางไปถึงภาคใต้ เผอิญว่า วงจรที่ 1 หยุดซ่อมบำรุงในช่วงเช้าพอดี ซึ่งตอนเย็นดันเจอเหตุขัดข้อง เพราะฉะนั้นระบบอัตโนมัติจึงตัดการทำงานของอีกหนึ่งวงจร แปลว่าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ที่เป็นสายส่ง 500 กิโลโวลต์ ที่วิ่งมาจากภาคกลางจอมบึง ลงมาถึงภาคใต้สะพาน 2 มันก็ถูกตัดขาดไปเลย เพราะฉะนั้นเราก็จะเหลือทางส่งพลังงานจากภาคกลางมาภาคใต้ อีกแค่ 2 เส้นทาง ก็คือ 230 กิโลโวลต์ 2 วงจร ซึ่งเพียงพอต่อการถ่ายโอนพลังงานจากภาคกลางมาภาคใต้ ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น ค่อนข้างซับซ้อนและเกี่ยวกับเสถียรภาพของระบบ หมายถึงว่า เกิดปัญหาเสถียรภาพที่ทำให้ระบบป้องกันอัตโนมัติของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและของสายส่งเส้นที่เกี่ยวข้อง มันทำงานต่อเนื่อง ก็เลยปลดการทำงานของสายส่งไฟฟ้า จึงทำให้ไฟฟ้าดับหมด
Q : คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะความหละหลวม หรือ เหตุสุดวิสัย
A : จากเหตุการณ์ที่ไฟฟ้าดับบริเวณกว้าง เรียกเป็นภาษาเทคนิคว่า blackout ซึ่งกรณีนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก และไม่ได้เกิดเพียงแค่ประเทศไทย จากปี 1965 ก็เคยเกิดเหตุการณ์ blackout ทางตะวันออกของอเมริกา ขึ้นไปถึงนิวยอร์กและแคนาดาตะวันออกเลย กินบริเวณเป็นวงกว้างประมาณ 9 รัฐ อาจจะย้อนกลับไปนานเกินไป ก็กลับมาดูในปี 1996 ทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา แถวรัฐแคลิฟอร์เนีย ปี 2003 ก็เคยเกิด แถวยุโรป จริงๆ เหตุการณ์เช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อยครั้ง ลักษณะที่เกิดจะเป็นเหมือนเหตุบังเอิญ ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่เกิดขึ้นในบ้านเราเมื่อเร็วๆ นี้ ถ้าเกิดเสีย 1 วงจร แล้วอีก 1 วงจร ไม่ได้อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง ก็จะสามารถทำงานได้ปกติ โดยที่ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะตามปกติแล้วระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ออกแบบรองรับเอาไว้แล้วว่า ถ้าสายส่งเส้นใดเส้นหนึ่งเป็นปัญหา จะไม่กระทบกระเทือนต่ออะไร เพียงแต่ว่าวันนั้นหยุดซ่อม 1 ถนน ซึ่งไม่ใช่ถนนธรรมดา แต่เป็นถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ปกติสายส่งของประเทศไทย โครงข่ายหลักๆ 230 กิโลโวลต์ แต่ที่สูงไปกว่า 230 กิโลโวลต์ คือ 500 กิโลโวลต์ ซึ่งในตัว 500 กิโลโวลต์สามารถส่งกำลังได้มากกว่า 230 กิโลโวลต์เสียอีก แต่พอดีว่ามีการขัดข้องในเส้น 500 กิโลโวลต์ ที่เป็นเส้นคู่ขนานกับเส้นที่มีการหยุดซ่อมแซม และเป็นช่วงเวลาที่กำลังจ่ายไปภาคใต้ไม่พอ เลยต้องโอนพลังงานจากภาคกลางมาภาคใต้ เพราะฉะนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาอย่างประจวบเหมาะ 2-3 เหตุการณ์ ซึ่งประเทศไทยเอง ก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยย้อนไปเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว และไม่ใช่เหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ถี่ๆ อยู่แล้ว
Q : 30 ปีที่แล้ว เกิดขึ้นที่ไหนของประเทศไทย
A : ไม่แน่ใจ แต่ถ้าหากดูโฆษณาของ กฟผ.ก็พบว่าเขาได้ย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น เพื่อทำการซ้อม ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นบริเวณภาคกลาง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีอายุเพียง 44 ปีเอง เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่เกิดคงเป็นช่วงที่เริ่มต้นเปิดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตใหม่ๆ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจโครงข่ายพลังงานก่อนว่า มีระบบส่ง ระบบผลิตซึ่งดูแลในส่วนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และก็ยังมีระบบจำหน่าย ระบบส่งเป็นเหมือนระบบหลัก ซุปเปอร์ไฮเวย์หรือว่าไฮเวย์เชื่อมจังหวัดต่างๆ โดยระบบจำหน่าย มีหน้าที่ แจกจ่ายไฟฟ้าไปให้ถึงครัวเรือน ซึ่งส่วนนี้จะดูแลโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หากเป็นในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ จะดูแลโดยกรมไฟฟ้านครหลวง เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันก่อน เกิดขึ้นที่ระบบส่ง เกิดขึ้นที่ทางหลัก ไม่ใช่ทางรอง จึงเกิดผลกระทบในลักษณะวงกว้าง
Q : สรุปจากทรรศนะของอาจารย์ สรุปว่า เกิดจากความสุดวิสัย ไม่ใช่ผิดพลาดใช่ไหม
A : เป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น และในทางเทคนิคมีเหตุผลอธิบายได้ว่า ทำไมไฟฟ้าถึงดับได้ถึง 4 จังหวัด