ความรู้รอบตัว - EP6 : 10 อันดับ เนื้อสัตว์ที่คนบริโภคมากที่สุด พร้อมคุณค่าทางโภชนาการ

เนื้อสัตว์เป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อาหารของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคโบราณ และยังคงเป็นแหล่งสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อร่างกายในปัจจุบัน การบริโภคเนื้อสัตว์มอบคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของร่างกายหลายประการ

หัวใจหลักของประโยชน์จากการบริโภคเนื้อสัตว์คือ โปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนทั้ง 9 ชนิด ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ โปรตีนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ และผลิตเอนไซม์และฮอร์โมนต่างๆ

นอกจากโปรตีนแล้ว เนื้อสัตว์ยังเป็นคลังเก็บวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะ วิตามินบี 12 ซึ่งพบได้เฉพาะในผลิตภัณฑ์จากสัตว์เท่านั้น และจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง รวมถึงธาตุเหล็กชนิด "ฮีม" (Heme Iron) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ง่ายที่สุด ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เนื้อสัตว์ 10 ชนิดที่ได้รับความนิยมในการบริโภคมากที่สุดในโลก มีดังนี้...

อันดับ 1 เนื้อไก่ (Chicken)
เนื้อไก่เป็นเนื้อสัตว์ยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก มีปริมาณการผลิตและบริโภคสูงสุด โดยปีล่าสุดมีผลิตไก่เนื้อราว 126.5 ล้านตัน สาเหตุที่เป็นที่นิยมเพราะราคาถูก เลี้ยงง่าย เข้าถึงได้ทั่วโลก

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อไก่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง โดยมีปริมาณสูงถึงประมาณ 23-32 กรัมต่อ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 150-165 กิโลแคลอรี มีไขมันต่ำ มีวิตามินบี 3 วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง และมีฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และซีลีเนียม ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและระบบการทำงานของร่างกาย


อันดับ 2 เนื้อหมู (Pork)
หมูเป็นเนื้อสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 2 มีการผลิตและบริโภคประมาณ 124.6 ล้านตันในปีล่าสุด โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียและยุโรป ที่หมูเป็นแหล่งโปรตีนหลักของคนส่วนใหญ่

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อหมูเป็นอีกหนึ่งในแหล่งโปรตีนสำคัญ มีปริมาณโปรตีน 22-27 กรัมต่อ 100 กรัม มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมร่างกาย ให้พลังงาน 140-170 กิโลแคลอรี ให้ปริมาณไขมันมากน้อยตามแต่ชนิดของเนื้อ มีวิตามินบี 1 (ไทอามีน) มีปริมาณสูงมาก ซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาทและการเผาผลาญพลังงาน มีวิตามินบี 3 (ไนอะซิน) และ บี 6, บี 12 ช่วยเรื่องการสร้างเม็ดเลือดและการทำงานของสมอง รวมถึงเป็นแหล่งของสังกะสี เหล็ก ฟอสฟอรัส และซีลีเนียม ที่ดีอีกด้วย


อันดับ 3 เนื้อวัว (Beef)
เนื้อวัว มีการผลิตและบริโภคราว 69–75 ล้านตันต่อปี เนื้อวัวได้รับความนิยมสูงในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีระบบปศุสัตว์ขั้นสูง และนิยมเนื้อแดง สเต็ก และอาหารตะวันตก

คุณค่าทางโภชนาการ
เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญมาก มีโปรตีนที่ประมาณ 25-30 กรัมต่อ 100 กรัม ให้พลังงาน 150-180 กิโลแคลอรี เป็นแหล่งสำคัญของธาตุเหล็ก (Heme Iron) ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง ซีลีเนียมและฟอสฟอรัส  ช่วยบำรุงกระดูกและระบบเผาผลาญพลังงาน และสังกะสีซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและการสมานแผล นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 12 มีปริมาณสูงมาก ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง


อันดับ 4 เนื้อแกะ/เนื้อลูกแกะ (Sheep meat / Lamb)
เนื้อแกะมีการผลิตและบริโภคราว 10-11.5 ล้านตันต่อปีทั่วโลก โดยที่เนื้อแกะได้รับความนิยมมากบางภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา อีกทั้งแกะมีทั้งที่เลี้ยงแบบเอาเนื้อมาบริโภค และแบบเอาขนมาทำเครื่องนุ่งห่ม

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อแกะเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน โดยมีปริมาณประมาณ 23-25 กรัมต่อ 100 กรัม ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ให้พลังงานประมาณ 150-280 กิโลแคลอรี มีธาตุเหล็กที่ช่วยป้องกันโลหิตจาง สังกะสีและซีลีเนียม ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงกระดูก และมีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีสารสำคัญอย่างกลูตาไธโอน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง


อันดับ 5 เนื้อแพะ (Goat meat)
เนื้อแพะปริมาณการบริโภคอยู่ที่ประมาณ 7.3 ล้านตัน/ปี จากการจัดอันดับเนื้อสัตว์บริโภคสูงสุดทั่วโลก การบริโภคแพะมักพบในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชียบางพื้นที่ และในกลุ่มประเทศมุสลิม

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อแพะเป็นเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี มีปริมาณสูงถึงประมาณ 23-27 กรัมต่อ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 120-145 กิโลแคลอรี มีไขมันต่ำ มีธาตุเหล็ก สังกะสี และซีลีเนียม รวมถึงวิตามินบี 12 ที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือด และโพแทสเซียมซึ่งช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกายและความดันโลหิต


อันดับ 6 เนื้อควาย (Buffalo meat)
เนื้อควายมีการผลิตและบริโภคทั่วโลกราว 7.09 ล้านตัน/ปี จากข้อมูลปีล่าสุด การบริโภคเนื้อควายมีมากในบางภูมิภาคที่เลี้ยงควาย เช่น เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อควายเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดีเยี่ยม มีปริมาณสูงประมาณ 25-28 กรัมต่อ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 120-140 กิโลแคลอรี มีไขมันต่ำ มีธาตุเหล็กสูง มีสังกะสีและซีลีเนียมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและกระบวนการเผาผลาญพลังงาน วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือด และยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 อีกด้วย


อันดับ 7 เนื้อเป็ด (Duck meat)
เนื้อเป็ดมีการผลิตและบริโภคราว 7.05 ล้านตัน/ปี และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย และตามร้านอาหารจีนทั่วโลก

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อเป็ดเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี มีปริมาณประมาณ 20-25 กรัมต่อ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 130-160 กิโลแคลอรี แต่มีปริมาณไขมันสูงกว่าเนื้อไก่ เป็นแหล่งสำคัญของธาตุเหล็ก วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) วิตามินบี 12 ซีลีเนียม และสังกะสี


อันดับ 8 เนื้อไก่งวง (Turkey meat)
เนื้อไก่งวงมีการผลิตและบริโภคราว 5.2 ล้านตัน/ปี (ตามรายการ Global Meat Consumption) ถึงแม้จะไม่สูงเท่าไก่หรือหมู แต่ก็เป็นเนื้อที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มเนื้อสัตว์ปีกและเนื้อนก

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อไก่งวงมีปริมาณโปรตีนสูงมากถึงประมาณ 29-32 กรัมต่อ 100 กรัม มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ให้พลังงานประมาณ 135-150 กิโลแคลอรี มีไขมันต่ำ มีวิตามินบี 3 (ไนอะซิน) บี 6 และ บี 12 มีซีลีเนียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมถึงทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยในการสร้างสารเซโรโทนิน ซึ่งมีผลต่ออารมณ์และการนอนหลับ


อันดับ 9 เนื้อห่าน (Goose meat)
เนื้อห่านมีอัตราการบริโภคราว 5.2 ล้านตัน/ปี การบริโภคเนื้อห่านค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ใหญ่ ๆ แต่ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มเนื้อที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อห่านเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงเช่นกัน มีปริมาณประมาณ 20-25 กรัมต่อ 100 กรัม แต่มีปริมาณไขมันค่อนข้างสูง ให้พลังงานประมาณ 160-200 กิโลแคลอรี มีธาตุเหล็กสูง มีซีลีเนียมและสังกะสี รวมถึงวิตามินบีรวม เช่น วิตามินบี 12, ไนอะซิน (B3), และไรโบฟลาวิน (B2) ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและการผลิตพลังงานในร่างกาย


อันดับ 10 เนื้อม้า (Horse meat)
เนื้อม้าอยู่ในอันดับที่ 10 จากการจัดอันดับเนื้อสัตว์ที่บริโภค/ผลิตทั่วโลก มีปริมาณการผลิตและบริโภคประมาณ 810,000 ตัน/ปี (ตัวเลขอาจมีความผันผวนตามภูมิภาค) การบริโภคเนื้อม้าอาจไม่แพร่หลายเหมือนเนื้อไก่ หมู เนื้อวัว แต่ก็มีปริมาณการบริโภคสูงในบางภูมิภาคของโลก

คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อม้าโปรตีนมีปริมาณโปรตีนประมาณ 21-28 กรัมต่อ 100 กรัม เป็นโปรตีนคุณภาพดีที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน มีไขมันต่ำมาก มีโอเมก้า 3 ธาตุเหล็ก สังกะสี ฟอสฟอรัส และทองแดง รวมถึงมีวิตามินบี 12 ในปริมาณสูงมากอีกด้วย


หมายเหตุ การจัดอันดับนี้จะจัดเฉพาะเนื้อสัตว์บกเท่านั้น ไม่รวมเนื้อสัตว์น้ำ

ที่มา : Scienceagri, IndexBox, ChatGPT, Gemini, Wikipedia
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่