ช่วยแก้ปัญหาที่จอดรถกับคนแก่จอมดื้อที เครียดแล้วค่า ฮือๆ

ตอนนี้เป็นห่วงรถมากค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า ที่อยู่อาศัยของดิฉันเป็นแฟลตการเคหะฯ  โครงการที่ดิฉันอยู่มี 10 อาคารๆ ละประมาณ 200-300 ห้อง ทางโครงการไม่มีที่จอดรถเป็นสัดส่วน แต่ได้เทพื้นและจัดที่ให้จอดบริเวณหลังอาคารไว้ให้ ซึ่งรถแต่ละคันจะถอยหลังเข้าจอดเรียงหน้ากระดานจากตึกฝั่งนึงเรียงไปถึงตึกอีกฝั่งนึง หลังรถแต่ละคันจะติดกับหลังห้องชั้น 1 ของอาคารนั้น  เรื่องเกิดขึ้นเมื่่อ รถที่ดิฉันจอดอยู่มักจะมีเศษอาหารแมวบ้าง เศษปลาทูบ้าง หรืออาหารนกอย่าง ข้าวเปียก ข้าวสวย ฯลฯ ตกมาที่หลังคารถเป็นประจำทุกวัน มองเห็นชัดเพราะรถสีขาว สันนิษฐานว่าเป็นบ้านที่อยู่ชั้น 3 ตรงกับรถเรา เพราะเห็นร่องรอยเศษอาหารค้างอยู่ วันนึงแกเปิดหลังบ้านชะโงกหน้ามา จ๊ะเอ๋พอดี  เลยบอกแกว่าอย่าให้อาหารสัตว์บนหลังรถเรา (พูดดีดีค่ะ ไม่ได้ชวนทะเลาะ) แต่ถ้าอยากให้แค่โปรยไว้หลังบ้านตัวเองก็ได้ เพราะมันมีนอกชานยื่นออกมาประมาณ 1 เมตร ป้าแกบอกว่าไม่ใช่แก แต่เป็นข้างบ้าน ดิฉันยืนคุยโดย แกยืนอยู่บนห้องแกชั้น3 และดิฉันยืนอยู่หลังแฟลต แกจึงไม่เห็นร่องรอยเศษอาหารเหมือนที่ดิฉันเห็น เรื่องวันนั้นจบแค่นั้นค่ะ ฝากแกไปบอกคนข้างห้องให้ด้วยแล้วกัน เศษอาหารยังคงมีเกือบทุกวันค่ะ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โอกาส  จนวันนึงน้องชายดิฉันเห็นกับตาค่ะ กำลังโปรยข้าวเปียกใส่หลังรถเลย เรียกนกพิราบมาเป็นฝูง น้องชายยืนแอบมองอยู่ แกหันมาเห็นรีบผลุบเข้าบ้าน โดยไม่เอ่ยคำร่ำลาใดใดสักคำ ..ยังไม่พอค่ะ หลังจากนั้นบ้านเราเลยเริ่มผลัดเปลี่ยนกันไปดูบ่อยๆ   อีกครั้งเห็นจะจะยิ่งกว่าภาพสโลว์โมชั่น ปลาทูเป็นตัวๆค่ะ ลอยละลิ่วจากห้องป้าแก มาแผละบนหลังคารถที่มีแมวตัวนึง นั่งรออยู่ข้างรถ พอปลาตกมาหลังรถ แมวน้อยรีบกระโจนขึ้นหลังคาค่ะ นอนกินสบายใจเฉิบบนหลังคารถเลย เท่านั้นแหละ น้องชายปรี๊ดแตกเลยค่ะ ด่าไปแกก็เถียงมาว่า  ก็ชานหลังบ้านมันยื่นออกไปไกล แกจะโยนใกล้ ก็ไม่เห็น ต้องโยนไกลๆ จะได้เห็นแมวกิน(ซะงั้น) สรุปคือ ที่ผ่านมาแกนั่นแหละให้อาหารนกและแมวบนหลังรถเรามาตลอด ที่เคยโยนความผิดให้ข้างบ้าน ตอนหลังมารู้ว่าข้างบ้านแกไม่มีคนอยู่ค่ะ หลังจากที่ทะเลาะกันวันนั้น แกก็ทำเป็นลืม ยังคงวนเวียนมาโปรยอาหารให้นกให้แมวทุกวันตามประสาคนใจบุญ เห็นกับตาก็ว่าไปมั่ง ขอร้องก็มี เวลาล่วงเลยมาเป็นปีค่ะ จนน้องทนไม่ไหว ต้องย้ายรถออกมาเช่าที่จอดที่อื่น (ที่เดิมจอดฟรี เพราะจ่ายค่าที่ให้โครงการตอนเทพื้นไปแล้ว) แล้วให้คันอื่นมาจอดแทนที่ค่ะ ซึ่งรถอีกคันเป็นกระบะ ทีนี้ปัญหาใหญ่กว่าเดิม เพราะรถกระบะต้องกลายเป็นรถขยะหลังจากมาจอดได้เพียงอาทิตย์เดียว เพราะเศษอาหารที่นกกินไม่หมด อาหารแมวที่เหลือเศษซากทุกวัน เจ้าของรถซึ่งช่วงแรกไม่ได้มาดูรถทุกวัน พอได้มาเห็นเท่านั้นแหละ ด่าแกลั่นเลย แกเถียงค่ะว่าไม่ใช่แก(ฟอร์มเดิมอีกแล้ว) แต่เราเคยบอกเค้าไว้แล้วว่ามีปัญหานี้อยู่ เจ้าของรถกระบะไม่ยอมและจะเอาเรื่องแกค่ะ  เจ้าของรถเคยเดินไปถ่ายรูปรถตอนที่แกเพิ่งโยนอาหารเสร็จใหม่ๆ แกเห็นเข้า เลยบอกว่าจะเอาไปแจ้งโครงการว่าแกทำสกปรก วันถัดมาแกเลยเอาเงินมาให้พ่อเรา 200 บาท บอกให้เอาไปล้างรถ และอย่าเอาเรื่องแกเลย พ่อเลยโทรหาเรา เราไม่ให้รับไว้  ถัดมาอีก2 อาทิตย์กว่า แกมาอีก เอาเงินมาให้พ่อ1,500 บาท ให้เราไปซื้อผ้าคลุมรถ จะได้ไม่เปรอะเวลาแกโยนเศษอาหารมา แล้วขอร้องให้พ่อช่วยพูดกับเราว่าอย่าเอาเรื่องคนแก่เลย คราวนี้พ่อเราดันรับเงินไว้..ทำไงละทีนี้  
      
       ที่ผ่านมาได้คุยกับคนที่รู้จักแก บอกว่าแกดื้อ ไม่ยอมคนแบบนี้แหละ ถึงจะทะเลาะกับแกทุกวันแกก็ไม่เลิกหรอก แนะนำให้ไปแจ้งความเลยว่าสร้างความเดือดร้อน   ดิฉันจึงแจ้งไปที่สำนักงานดูแลโครงการ  ไปแจ้งมา 2 ครั้ง  แต่ก็ไม่มีใครมาจัดการอะไรให้ เพราะเค้าเหมือนเป็นแค่บริษัทที่รับจ้างมาเก็บเงินค่าเช่า ไม่ได้มีอำนาจบังคับใช้กฎเข้มงวดใดใดได้ เฮ้อ..พึ่งไม่ได้เลย  สุดท้ายทนทะเลาะรายวันกับป้าแก่ไม่ไหว เจ้าของรถกระบะเลยย้ายไปจอดที่อื่น  

       ตอนนี้ดิฉันเพิ่งถอยรถป้ายแดงมาค่ะ สีขาว เอามาจอดที่เดิม  เลยขึ้นไปที่บ้านแกเพื่อจะคุย  แต่ไม่เจอแกเลยเอาจดหมายเสียบไว้ ข้อความว่าให้มาเอาเงิน 1,500 บาทคืนไป เพราะมันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ขอแค่อย่าโยนหรือโปรยเศษอาหารมาที่รถก็พอ หากยังไม่เลิกจะจัดการขั้นเด็ดขาดแล้ว หลังจากไปเสียบจม.ไว้ ผ่านไป 6 วันแกก็ยังไม่มาเอาเงินคืนไป (เงินอยู่ที่พ่อค่ะ ดิฉันไม่ได้รับมา เพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน กลัวแกมาแล้วจะไม่เจอ)  วันนี้ (22:30น.) ดิฉันเดินกลับมาจากบ้านแม่ซึ่งอยู่อีกแฟลตนึง จะอ้อมมาดูความเรียบร้อยของรถ บังเอิญเจอแกมายืนอยู่หลังห้องพอดี มือนึงเหมือนคีบบุหรี่สูบ อีกมือเอาไฟฉายกำลังส่องลงมาที่รถเรา ส่ายไปมา ไม่รู้ดูอะไร เราเลยบอกว่า แล้วเห็นมั้ยว่าหลังรถมันสกปรกจากอาหารที่แกโยนมา พรุ่งนี้ช่วยมาเช็ดรถให้หนูด้วยนะ แล้วแกก็ฟอร์มเดิม ว่ารู้ได้ไงว่าเป็นแก มีตั้งหลายห้อง มาโทษแกได้ไง (เออ เนอะ ถ้าไม่ใช่ แล้วแกจะให้เงิน แล้วบอกอย่าเอาเรื่อง ทำไมฟระ)   เลยบอกแกว่าทำอะไรก็ตามหนูมีหลักฐาน แต่จะไม่ให้แกดูหรอก เอาไว้ให้โครงการเค้าดูดีกว่าว่าใครทำ ไม่ต้องมั่วโทษคนอื่น    แล้วก็รีบมาเอาเงิน 1,500 คืนไปซะที ไม่อยากเก็บไว้แล้ว  ดิฉันว่าแกไปอีกหลายคำค่ะ ไม่ใช้คำหยาบคายหรือหลบหลู่นะคะ  แต่แกโกรธค่ะ ฟังดูจากน้ำเสียง

       ที่เล่ามายืดยาวนี้ เรื่องจริงที่ไม่ได้แต่งเติมเลยค่ะ ตั้งแต่เริ่มถึงตอนนี้ก็กว่า 2 ปีแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ปัญหาเริ่มใหญ่ เพราะทะเลาะกันรุนแรงขึ้น เราเริ่มเครียดและเป็นห่วงรถแล้ว กลัวว่าเค้าจะแกล้งโยนอะไรหนักๆ หรือขี้บุหรี่ มาใส่หลังคารถเรามั้ย เค้าทำได้แบบไม่มีใครเห็นด้วย เพราะแอบโยนลงมาได้จากหลังบ้านเค้าเลย เราควรแก้ปัญหาให้จบอย่างไรดี เคยคุยด้วยดีดีแล้วค่ะ แกก็พูดว่าจะเลิก รับปากแบบนี้มาหลายสิบครั้งค่ะ เวันเดียวกันก็ทำอีก ตลอดมา จนกลายเป็นทะเลาะ จนตอนนี้กลายเป็นท้าทายแล้วค่ะ ยิ่งหนักขึ้นไม่ว่าเราจะพูดหรือไม่ก็ตาม ใครมีคำแนะนำที่ดี ช่วยหน่อยค่ะ ว่าควรรับมืออย่างไรดี หรือควรร้องเรียนที่ไหนได้บ้างคะ รบกวนด้วย ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  บ้าน ร้องทุกข์ กฎหมายชาวบ้าน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่