ขออนุญาติโพสเป็นบทความนะครับ
ฉันเกลียดบ้าน
มันเริ่มจาก ฉันเกลียดพ่อ ที่ไปมีผู้หญิงใหม่ พ่อมีมาตลอด คนแล้วคนเล่า . . . พ่อไม่เคยหยุด ฉันเกลียดพ่อ ที่ชอบโกหก และมันทำให้ฉันเกลียดตัวเองที่เชื่อคำโกหกนั้น . . .
ฉันเกลียดแม่ ที่ไม่สามารถหยุดพ่อไว้กับตัวเองได้ . . . ฉันเกลียดแม่ที่ชอบทำเสียงวี้ดๆใส่ พร้อมกับ ทำหน้าตา เคร่งเครียด . . . และ สิ่งเหล่านั้นก็ทำให้ฉันเกลียดตัวเอง เพราะลึกๆแล้วฉันรู้ว่าไม่ใช่ความผิดแม่ แต่ฉันก็ยังไม่สามารถห้าม ความรู้สึกนี้ได้ . . .
ฉันเกลียดพ่อที่แทบไม่เคยสอนทักษะ ความเป็นผู้ชายให้กับฉัน งานซ่อม งานช่าง และงานที่ พ่อควรจะทำ และควรจะสอนฉัน มันทำให้ฉันเกลียดงานบ้าน เพราะ ไม่ว่าอะไรๆ ฉันก็ดูทำไม่เป็นไปซะหมดในสายตาแม่ แม่ทำได้ดีกว่าฉันในทุกๆอย่าง ฉันอยากเป็นฝ่ายที่ถูกบ้าง เป็นฝ่ายที่เก่งกว่าบ้าง . . . แต่ฉันไม่เคยมีอะไร ดี ในสายตาแม่ ฉันไม่เคยทำอะไร ชนะ แม่ได้เลยซักครั้ง . .
ฉันเกลียดตัวเอง ที่ ไม่เป็นลูกที่ดีพอ ที่สามารถดึงดูดพ่อไว้กับตัวเอง ได้ ฉันอ้อนไม่เป็น ฉันทำเป็นเข้มแข็ง ฉันเสียใจ และเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถร้องไห้ ได้ในยามที่ควร . . .
ฉันอยู่ในบ้านที่ไม่มีอะไร เลย มันเป็นเพียงที่ซุกหัวนอนให้ชีวิตผ่านพ้นไปคืนหนึ่งๆ ฉันพยายามเรียนทำ กิจกรรมต่างๆให้เต็มที่เพื่อที่จะลืมสิ่งเหล่านั้น . . . แต่ฉันทำไมได้ . . . ทุกสิ่งทุกอย่างดูเลวร้ายลง
ฉันเกลียดบ้านหลังนี้ บ้านที่สูงใหญ่ ตั้งตระหง่าน มันเป็นเหมือนกับหลักฐานแห่งความผิดพลาด ความวิปโยคในครอบครัว บ้านที่ในตอนแรก เกิดจากความร่วมใจกันของคนสองคนที่คิดจะใช้ชีวิตร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว แต่ในตอนนี้ มันกลับกลายเป็นภาระ เป็นโซ่ตรวน ผูกคนสองคนเอาไว้ด้วยกัน
ฉันเกลียดบ้านหลังนี้ บ้านที่ดูสวยหรู มันเป็นบ้านที่กว้างใหญ่ ใหญ่เกินกว่าที่คนๆหนึ่งจะต้องทนอยู่กับมัน ดูแลบ้านหลังนี้เพียงลำพัง โดยที่ไม่รู้ว่า อีกคนหนึ่งอยู่ไหน คนๆนั้นหลายครั้งที่พยายามดึงฉันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งภายในบ้าน . . . แต่มันก็ดูเหมือนไม่มีทางเป็นไปได้เลย ฉันเกลียดบ้านหลังนี้และ ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน หลังนี้ มีบางครั้งที่ฉันทำความสะอาดมัน เช็ดถูมัน ฉันก็จะท่องไว้เสมอว่า ฉันทำในฐานะ ผู้รับจ้างเท่านั้น . . .
ฉันเชื่อมั่นในตนเอง ถึงแม้ว่าฉันจะตัดสินใจอะไรๆสำคัญในชีวิตพลาดมาหลายครั้ง ฉันไม่มีใครให้ยึดถือ ฉันอาจจะถือดีเกินไปที่จะเชื่อในตัวพ่อ แม่ แต่อย่างว่า หากเธอรู้สึกแบบฉัน . . .เกลียดอะไร หรือ ใครแบบฉัน เธออาจจะเข้าใจก้ได้ว่าทำไมฉันถือไม่อยากจะเชื่อพ่อ กับ แม่ . . .
หลายครั้งที่ในชีวิตฉันรู้สึกเคว้งคว้าง ไม่มีใคร ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะยึดถืออะไรสักอย่างไว้เป็นหลัก . . . ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะตามหาความรัก ใช่ ฉันขาดความอบอุ่น ฉันยอมรับ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันยังไม่ตาย และไม่ได้คิดที่จะลองยาเสพติดหรือทำตัวแย่ๆแบบในละคร . . .
ความรู้สึกเหล่านี้ ทำให้ ฉันมีความรักแบบ "ครอบครอง" ไม่ใช่ความรักแบบ "แบ่งปัน" แบบที่ความรักที่ดีควรจะเป็น . . . มันทำให้ฉันเกลียดตัวเอง เมื่อไปรู้สึกแบบนั้นกับใคร . . . หลายครั้งที่ฉันตัดสินใจเดินออกมา ฉันไม่อยากเป็นแบบพ่อของฉัน . . . ฉันไม่อยากทำให้ใครเสียใจ
และมีอีกหลายครั้ง ที่ชีวิตของฉันมีคนผ่านมา และยื่นมือเข้ามาช่วย แต่น่าเสียใจ ความคิดของฉันทำให้ฉันมองมือสะอาดๆเหล่านั้นกลายเป็น อะไรสักอย่างที่อันตราย ฉันไม่ไว้ใจ ที่จะจับมือนั้นอย่างเต็มแรง ความเจ็บปวดที่ผ่านมา ทำให้ฉันไม่อยากไว้ใจใคร . . .
หลายครั้งที่ฉันส่องกระจก ฉันจะพบว่ายิ่งโตขึ้น อะไรสักอย่างที่เรียกว่าพันธุกรรม ทำให้ ฉันมีรูปร่างหน้าตา ทรงผม และอื่นๆละม้ายคล้ายกับ บุคคลที่ให้กำเนิดฉันขึ้นมา แต่ก็เป็นบุคคลที่ฉันเกลียด และ เลือกที่จะโทษพวกเขา เพื่อความสบายใจของตนเองว่า เป็นต้นเหตุทำให้ชีวิตของฉันเป็นแบบนี้ . . . สิ่งที่ฉันเห็นทุกวันในกระจกยิ่งย้ำเตือนให้นึกถึงพวกเขาเหล่านั้น . . . และมันทำให้ฉันเกลียดตัวเอง . . .
ตอนนี้อารมณ์เหมือนรู้แต่มันทำไม่ได้น่ะครับ . . . ไม่ทราบจริงๆว่าจะแก้ไข อย่างไร : ((
ปัจจุบันผม เป็นคนค่อนข้าง อารมณ์ดี เลยทีเดียวครับ แบบผมมั่นใจว่าถ้าไม่เล่าจะไม่มีใครรู้แน่นอน : ))
อาจจะยาวไปนิด แต่ก็ขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านจนจบครับ : )
ผมเกลียดบ้านครับ . . . ขอคำแนะนำ : (
ฉันเกลียดบ้าน
มันเริ่มจาก ฉันเกลียดพ่อ ที่ไปมีผู้หญิงใหม่ พ่อมีมาตลอด คนแล้วคนเล่า . . . พ่อไม่เคยหยุด ฉันเกลียดพ่อ ที่ชอบโกหก และมันทำให้ฉันเกลียดตัวเองที่เชื่อคำโกหกนั้น . . .
ฉันเกลียดแม่ ที่ไม่สามารถหยุดพ่อไว้กับตัวเองได้ . . . ฉันเกลียดแม่ที่ชอบทำเสียงวี้ดๆใส่ พร้อมกับ ทำหน้าตา เคร่งเครียด . . . และ สิ่งเหล่านั้นก็ทำให้ฉันเกลียดตัวเอง เพราะลึกๆแล้วฉันรู้ว่าไม่ใช่ความผิดแม่ แต่ฉันก็ยังไม่สามารถห้าม ความรู้สึกนี้ได้ . . .
ฉันเกลียดพ่อที่แทบไม่เคยสอนทักษะ ความเป็นผู้ชายให้กับฉัน งานซ่อม งานช่าง และงานที่ พ่อควรจะทำ และควรจะสอนฉัน มันทำให้ฉันเกลียดงานบ้าน เพราะ ไม่ว่าอะไรๆ ฉันก็ดูทำไม่เป็นไปซะหมดในสายตาแม่ แม่ทำได้ดีกว่าฉันในทุกๆอย่าง ฉันอยากเป็นฝ่ายที่ถูกบ้าง เป็นฝ่ายที่เก่งกว่าบ้าง . . . แต่ฉันไม่เคยมีอะไร ดี ในสายตาแม่ ฉันไม่เคยทำอะไร ชนะ แม่ได้เลยซักครั้ง . .
ฉันเกลียดตัวเอง ที่ ไม่เป็นลูกที่ดีพอ ที่สามารถดึงดูดพ่อไว้กับตัวเอง ได้ ฉันอ้อนไม่เป็น ฉันทำเป็นเข้มแข็ง ฉันเสียใจ และเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถร้องไห้ ได้ในยามที่ควร . . .
ฉันอยู่ในบ้านที่ไม่มีอะไร เลย มันเป็นเพียงที่ซุกหัวนอนให้ชีวิตผ่านพ้นไปคืนหนึ่งๆ ฉันพยายามเรียนทำ กิจกรรมต่างๆให้เต็มที่เพื่อที่จะลืมสิ่งเหล่านั้น . . . แต่ฉันทำไมได้ . . . ทุกสิ่งทุกอย่างดูเลวร้ายลง
ฉันเกลียดบ้านหลังนี้ บ้านที่สูงใหญ่ ตั้งตระหง่าน มันเป็นเหมือนกับหลักฐานแห่งความผิดพลาด ความวิปโยคในครอบครัว บ้านที่ในตอนแรก เกิดจากความร่วมใจกันของคนสองคนที่คิดจะใช้ชีวิตร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว แต่ในตอนนี้ มันกลับกลายเป็นภาระ เป็นโซ่ตรวน ผูกคนสองคนเอาไว้ด้วยกัน
ฉันเกลียดบ้านหลังนี้ บ้านที่ดูสวยหรู มันเป็นบ้านที่กว้างใหญ่ ใหญ่เกินกว่าที่คนๆหนึ่งจะต้องทนอยู่กับมัน ดูแลบ้านหลังนี้เพียงลำพัง โดยที่ไม่รู้ว่า อีกคนหนึ่งอยู่ไหน คนๆนั้นหลายครั้งที่พยายามดึงฉันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งภายในบ้าน . . . แต่มันก็ดูเหมือนไม่มีทางเป็นไปได้เลย ฉันเกลียดบ้านหลังนี้และ ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน หลังนี้ มีบางครั้งที่ฉันทำความสะอาดมัน เช็ดถูมัน ฉันก็จะท่องไว้เสมอว่า ฉันทำในฐานะ ผู้รับจ้างเท่านั้น . . .
ฉันเชื่อมั่นในตนเอง ถึงแม้ว่าฉันจะตัดสินใจอะไรๆสำคัญในชีวิตพลาดมาหลายครั้ง ฉันไม่มีใครให้ยึดถือ ฉันอาจจะถือดีเกินไปที่จะเชื่อในตัวพ่อ แม่ แต่อย่างว่า หากเธอรู้สึกแบบฉัน . . .เกลียดอะไร หรือ ใครแบบฉัน เธออาจจะเข้าใจก้ได้ว่าทำไมฉันถือไม่อยากจะเชื่อพ่อ กับ แม่ . . .
หลายครั้งที่ในชีวิตฉันรู้สึกเคว้งคว้าง ไม่มีใคร ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะยึดถืออะไรสักอย่างไว้เป็นหลัก . . . ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะตามหาความรัก ใช่ ฉันขาดความอบอุ่น ฉันยอมรับ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันยังไม่ตาย และไม่ได้คิดที่จะลองยาเสพติดหรือทำตัวแย่ๆแบบในละคร . . .
ความรู้สึกเหล่านี้ ทำให้ ฉันมีความรักแบบ "ครอบครอง" ไม่ใช่ความรักแบบ "แบ่งปัน" แบบที่ความรักที่ดีควรจะเป็น . . . มันทำให้ฉันเกลียดตัวเอง เมื่อไปรู้สึกแบบนั้นกับใคร . . . หลายครั้งที่ฉันตัดสินใจเดินออกมา ฉันไม่อยากเป็นแบบพ่อของฉัน . . . ฉันไม่อยากทำให้ใครเสียใจ
และมีอีกหลายครั้ง ที่ชีวิตของฉันมีคนผ่านมา และยื่นมือเข้ามาช่วย แต่น่าเสียใจ ความคิดของฉันทำให้ฉันมองมือสะอาดๆเหล่านั้นกลายเป็น อะไรสักอย่างที่อันตราย ฉันไม่ไว้ใจ ที่จะจับมือนั้นอย่างเต็มแรง ความเจ็บปวดที่ผ่านมา ทำให้ฉันไม่อยากไว้ใจใคร . . .
หลายครั้งที่ฉันส่องกระจก ฉันจะพบว่ายิ่งโตขึ้น อะไรสักอย่างที่เรียกว่าพันธุกรรม ทำให้ ฉันมีรูปร่างหน้าตา ทรงผม และอื่นๆละม้ายคล้ายกับ บุคคลที่ให้กำเนิดฉันขึ้นมา แต่ก็เป็นบุคคลที่ฉันเกลียด และ เลือกที่จะโทษพวกเขา เพื่อความสบายใจของตนเองว่า เป็นต้นเหตุทำให้ชีวิตของฉันเป็นแบบนี้ . . . สิ่งที่ฉันเห็นทุกวันในกระจกยิ่งย้ำเตือนให้นึกถึงพวกเขาเหล่านั้น . . . และมันทำให้ฉันเกลียดตัวเอง . . .
ตอนนี้อารมณ์เหมือนรู้แต่มันทำไม่ได้น่ะครับ . . . ไม่ทราบจริงๆว่าจะแก้ไข อย่างไร : ((
ปัจจุบันผม เป็นคนค่อนข้าง อารมณ์ดี เลยทีเดียวครับ แบบผมมั่นใจว่าถ้าไม่เล่าจะไม่มีใครรู้แน่นอน : ))
อาจจะยาวไปนิด แต่ก็ขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านจนจบครับ : )