วัฒนธรรมไทยแท้หรือไม่อยู่ที่มุมมองครับ เพราะส่วนใหญ่จะประยุกต์มาจากต่างชาติอีกทีหนึ่ง ผมอยากจะโทษว่าเป็นเพราะนิสัยชอบอวดของบรรพบุรุษไทยนั่นแหละ มีอะไรก็ประชันขันแข่งโดยไม่ให้ซ้ำใคร

ยกตัวอย่างเช่นเพลงไทย(เดิม)ทั้งหลาย ส่วนใหญ่ก็ครูเพลงไทยนั่นแหละที่แต่งขึ้นมา แต่เพราะอยากให้เด่นและแปลกจึงต้องใส่สำเนียงต่างภาษาเจือลงไป เช่นเพลงลาวดวงเดือนที่เป็นพระนิพนธ์ของกรมหมื่นพิชัยมหินทโรดมแต่ใส่ทางเพลงสำเนียงลาวเข้าไป พอตกมายุคปัจจุบันคนไทยรุ่นหลังที่ไม่รู้ประวัติต่างคิดว่าเป็นเพลงของลาว ทำไปทำมามีคนลาวบางส่วนอ้างเอาเลยว่าไทยขโมยของลาวมาจริงๆ พวกเพลงสำเนียงอื่นๆเช่นเขมรไทรโยค, มอญรำดาบ, ฝรั่งรำเท้า,พม่าประเทศ, จีนตอกไม้...ฯลฯ เหล่านี้ก็ครูเพลงไทยประพันธ์ขึ้นแต่ใส่สำเนียงต่างภาษาเพื่ออวดฝีมือกัน หนักๆเข้าถึงกับมีเพลงออก 12 ภาษาด้วยซ้ำไป มีเพียงบางเพลงเท่านั้นที่ลอกเลียนจากต่างชาติเกือบทั้งหมดเช่น "นกเขาขะแมร์" ที่ครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะท่านไปจำมาจากเขมรจริงๆ

ศิลปทางศาสนาไทยเราก็ประยุกต์มาจากจากต่างชาติ อย่างเช่นภาพวาดเทวดาตามโบสถ์เราเอาเรื่องจากแขกอย่างรามเกียรติ์หรือพระพุทธประวัติของชมพูทวีปมาประดิษฐ์เป็นศิลปกรรมแบบไทยๆ พระอินทร์ในสยามประเทศจึงต้องสวมชฎาทั้งๆที่ต้นกำเนิดในอินเดียไม่มี

การแสดงอย่าง "ลิเก" ที่จริงก็ดัดแปลงมาจาก "ดีเกร์" ของแขกมลายู ร่องรอยก็เห็นได้จากการเริ่มแสดงจะต้องมีธรรมเนียม "ออกแขก" ก่อนทุกครั้ง

ช่วงยุคประมาณรัชกาลที่ 5-6 มี "นักเรียนนอก" จำนวนมากที่นำวัฒนธรรมตะวันตกมาประยุกต์ ตัวอย่างเช่น "ละครร้อง" ที่เฟื่องมากในสมัยรัชกาลที่ 6 นั่นก็มีต้นแบบจากละครเวทียุโรปแต่มีเพลงประกอบเป็นไทย คณะ "ปรีดาลัย" คือตัวอย่างหนึ่ง

คำถามที่ว่าวัฒนธรรมอะไรที่เป็นของไทยแท้ๆบ้างนั้น ถ้าจะมองย้อนไปให้ถึงรากเหง้าจริงๆคงไม่มี แต่ถ้านับจากขั้นตอนการประยุกต์แล้วก็มีอยู่มากมายไม่น้อย สาเหตุเพราะอาณาจักรสยามที่เรานับย้อนไปถึงกรุงสุโขทัยนั้นเพิ่งจะเกิดได้ไม่ถึง 800 ปี แถมยุคสุโขทัยเองก็รับมรดกที่เข้มข้นจากขอมแม้กระทั่งอักขระไทย (ถ้าศิลาจารึกที่รัชกาลที่ 4 ทรงค้นพบเป็นของจริง) ยิ่งหากจะนับจากยุคประเทศไทยก่อตั้งจริงๆน่าจะยังไม่ถึง 200 ปีด้วยซ้ำ ความเป็นต้นแบบแท้ของวัฒนธรรมไทยจึงแทบจะไม่มีเลย.....นอกจากวัฒนธรรมประยุกต์

อย่างถนนราชดำเนินที่แรกสร้างเลียนแบบถนนในกรุงปารีสเมื่อยุคจอมพลป.ผู้อยากเห็นประเทศไทยเป็นมหาอำนาจ ตอนนั้นมีคนนินทาว่าร้ายว่าเป็นวัฒนธรรมต่างชาติ หลายสิบปีให้หลังพอจะรื้อโรงภาพยนต์เฉลิมไทยตรงเชิงสะพานผ่านฟ้าเพื่อสร้างพลับพลาและเปิดให้เห็นโลหปราสาทที่เฉลิมไทยบดบังอยู่ ก็มีคนออกมาโวยวายอีกว่าไม่เหมาะสมเพราะเป็นการ "ทำลายมรดกทางวัฒนธรรม" เสียอีก

ผมจึงขำทุกครั้งที่มีพวกคลั่งชาติบางคนสั่งสอนให้หวงแหน "ความเป็นไทย" แบบไม่ลืมหูลืมตา ทั้งๆที่มีวัฒนธรรมสังเคราะห์เป็นส่วนใหญ่แท้ๆ